 (D)

เจตนากระทู้นี้ต้องการเผยแพร่ประวัติ และวัตถุมงคลบางส่วนของท่าน เพื่อให้เพื่อนๆที่สนใจได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยส่วนตัวผมนับถือหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ และหลวงพ่อกวย ท่านได้กล่าวถึงหลวงปู่หมุนว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ ตอนนั้นไม่รู้จักว่าท่านคือใคร จึงเริ่มค้นคว้าและพบว่าท่านคืออริยะสงฆ์ที่ปฏิบัติดี และปฏิบัติชอบรูปหนึ่งครับ
หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ อายุ109ปี (มรณะภาพแล้วเมื่อปี 2546) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 5 ปีชวด พ.ศ. 2437 ณ บ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ บิดาชื่อดี มารดาชื่ออั๊ว บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 14 ปี ครอบครัวได้นำไปฝากกับพระอาจารย์สีดา เจ้าอาวาสวัดบ้านจานผู้เป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านกัมมัฎฐานและมีวิชาอาคมที่เก ่งมาก กระทั่งปี พ.ศ. 2460 ทำการอุปสมบท โดยมีหลวงพ่อสีดา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเพ็ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ฐิตสีโล" แปลว่าผู้มีศีลตั้งมั่น
หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษาที่วัดบ้านจาน ศึกษาเล่าเรียนอักษรไทย อักษรขอม ฝึกกัมมัฎฐานในหมวดสมถะและวิปัสสนากรรมฐานจากพระอุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ต่างๆ ในแถบนั้นเป็นเวลา 4 ปีเต็ม จากนั้นท่านมีความคิดว่าจะต้องแสวงหาครูบาอาจารย์อื่นๆ เพื่อศึกษาคันถธุระและวิปัสสนาธุระในชั้นที่สูงๆ ขึ้นไปอีก จึงออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ และร่ำเรียนวิชาอาคมกับพระเถระชื่อดังหลายรูปเกือบทั่วประเทศจนถึงประเทศลาว มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย อาทิ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์
ท่านมรณะภาพ เมื่อเวลา 07:30 น. วันที่ 11 มี.ค.2546 ศิริอายุ109 ปี
ท่านเป็นอริยะสงฆ์ที่ปฏิบัติธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ขนาดผู้เรืองวิทยาคมอย่างหลวงพ่อกวย ท่านยกย่องว่าหลวงปู่หมุนเก่งมากๆให้ลูกศิษย์ไปกราบท่านให้จงได้ หลวงปู่หมุนมีพลังจิตของสูงมากๆครับ กล่าวกันว่าการเสกวัตถุมงคลของท่านทำให้เหล็กธรรมดากลายเป็นเหล็กไหลได้ ไม่เคยพบในพระเครื่องของสำนักใดที่จะมีพลังกระจายตัวออกมาถิง20-30วารอบตัวม ันเอง เคยมีผู้มีอภิญาน(จับพลังพระเครื่องได้) ตรวจสอบว่าพลังมากถึงขนาดเอาเบจภาคี 5 องค์มารวมกันยังไม่ได้เท่า การตังธาตุ หนุนธาตุ ทำให้มีพลังงานสะสมจนสุดพิสดาร พิสดารจนไร้ผู้เทียมทาน
หลวงปู่หมุนมีคุณธรรมขนาดไหน ท่านผู้รู้จีงให้รีบไปกราบและทำบุญด้วยท่านว่าเลยขั้นพระปรมาจาร์ยในวิชชาธร รมกาย และพระปรมาจาร์ยมโนมยิทธิของเราอีกเพราะท่านทั้งสองแม้เป็นวิริยะธิกะเก่าแต ่เมื่อได้คูณธรรม กลับต้องช่วยเหลือลูกศิษย์ในสารพัดเรือง ไม่มีเวลา ผิกผน จนกระทั้งต้องละสังขารกลับนิพานในเวลาไม่สมควร |