 (D)

หลวงปู่สุภา ผ่านกาลเวลามา๕ รัชสมัย๕ แผ่นดินได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งดีและไม่ดี อีกทั้งเรื่องราวต่างๆประสบการณ์ต่างๆมามากมาย อีกทั้งตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านเป็นทั้งผู้ "ให้" และผู้"สร้าง" หลายๆสิ่งหลายๆ อย่าง เพื่อประโยชน์สุขแก่มหาชนชาวพุทธเสมอมา ขณะเดียวกันท่านยังคงรักษาศีลภาวนาปฏิบัติธรรมตามภารกิจของสงฆ์ดังเช่นปกติ
"สุภา วงศ์ภาคำ" เป็นชื่อและสกุลเดิมของหลวงปู่สุภา เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กันยายน ๒๔๓๙ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีวอก ณ บ้านคำบ่อ อ.วาริชภูมิ จ.อุบลราชธานี บิดาชื่อ ขุนภักดี หรือผู้ใหญ่บ้านพล มารดาชื่อ นางสอ
การพยากรณ์จากปากของพระธุดงค์ที่มาปักกลดใต้ต้นตะแบกใหญ่ท้ายหมู่บ้านคำบ่อ ตอนนั้นหลวงปู่สุภาอายุ ๗ ขวบ คลานไปกราบแทบตักของพระธุดงค์ มือของพระธุดงค์ลูกศีรษะด้วยความเอ็นดู พร้อมทั้งกล่าวว่า
เ
ด็กน้อยเอ๋ยต่อไปเจ้าจักได้บวชเรียนถวายตัวในพระพุทธศาสนา บวชเมื่อไรแล้วจงอย่าลืมไปเสาะหาหลวงพ่อให้จงได้ อย่าลืมนะ พบกันในวาระที่เจ้าได้ครองผ้าเหลืองเหมือนหลวงพ่อนี่แหละ
สองปีต่อมาหลวงปู่สุภา อายุ ๙ ขวบ บอกกับบิดาว่า อยากออกบวชเป็นสามเณร หลายคนไม่ขัดข้อง เพราะเห็นว่าหลวงปู่สุภาเป็นผู้เอาใจใส่ในการเล่าเรียน จึงนำไปให้พระอาจารย์สวนบรรพชาเป็นสามเณร และสั่งสอนอบรมอยู่หนึ่งปีเต็ม กระทั่งพระอาจารย์สวนบอกกับหลวงปู่สุภาว่า อย่างเณรต้องก้าวหน้ากว่านี้ ฉันจะพาเข้าเมืองอุบลไปเล่าเรียนต่อให้แตกฉาน อยู่กับฉันก็แค่นี้แหละเณร
พ.ศ.๒๔๔๙หลวงปู่สุภาได้รับการนำตัวลงมาจากบ้านคำบ่อ มาฝากไว้ในสำนักเรียนของ พระมหาหล้าแห่งวัดไพรใหญ่จ.อุบลราชธานี โดยพระมหาหล้าได้ทดสอบความรู้เบื้องต้น พบว่าหลวงปู่สุภาเมื่อเป็นสามเณรมีความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาดีมาก เรียนต่อก็ไม่ยากลำบากอะไร จึงร่วมกับ อาจารย์ลุยผู้เป็นฆราวาสเปรียญธรรมอบรมสั่งสอนให้เล่าเรียน"มูลกัจจายน์" ห้าเล่มอย่างเอาเป็นเอาตาย หลวงปู่เล่าเรียนด้วยความมานะพยายาม จนเรียนจบมูลกัจจายน์ในขณะอายุได้ ๑๖ ปี
พ.ศ.๒๔๕๙หลวงปู่สุภาเป็นสามเณรที่อายุครบอุปสมบท โดยมี พระอาจารย์สีทัตต์จัดหาเครื่องบริขารจนครบและนำสามเณรสุภาข้ามไปยังประเทศลาว รอนแรมไปจนถึงถ้ำภูเขาควาย โดยมีพระวิปัสสนาหลายรูป เดินทางไปสมทบ พร้อมด้วยพระภิกษุที่เป็นศิษย์
จากนั้นพระอาจารย์สีทัตต์ ได้อุปสมบทสามเณรสุภา โดยมีพระอาจารย์สีทัตต์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวิปัสสนาจารย์ร่วมเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ ศิษย์ในพระวิปัสสนาจารย์ที่ติดตามมาเป็นพระอันดับ ได้รับนามฉายาว่า "กันตะสีโล"
หลังจากอุปสมบทแล้วก็ปฏิบัติธรรมอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้น ท่านก็ติดตามหลวงปู่สีทัตต์ซึ่งกลับมาจำพรรษาที่วัดพระธาตุท่าอุเทน ต่อมาได้เรียนพระคัมภีร์ท้งห้า และการปฏิบัติวิปัสสนา กับพระอาจารย์สีทัตต์ พระภิกษุสุภาได้พำนักอยู่กับหลวงปู่สีทัตต์เป็นเวลานานถึง๘ ปีโดยศึกษาพระปริยัติธรรมทั้ง ๕ และปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานท่านได้ใช้เวลา ๔ ปีแรก ศึกษาพระคัมภีร์ปริยัติทั้ง ๕ และการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เมื่อขึ้นปีที่ ๕ หลวงปู่สีทัตต์ได้แนะให้ท่านออกธุดงค์ไปทางผาต้อหน่อคำแขวงคำม่วน อ.เซโปน จ.เซโปน ประเทศลาว เพื่อทดสอบสมาธิและอุปนิสัยของพระภิกษุสุภา
กระทั่งเห็นว่าท่านมีสมาธิแน่วแน่ในการปฏิบัติธรรมและวิปัสสนากรรมฐานดีแล้ว หลวงปู่สีทัตต์ตั้งใจอบรมสั่งสอนทั้งทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน และวิทยาอาคมต่างๆ รวมทั้งสอนวิชาวิธีถอดกายทิพย์ให้ด้วย จนถึงขั้นจะให้เรียนภาษานกได้รู้เรื่อง
แต่ท่านได้พิจารณาดูวัตรปฏิบัติของท่านแล้วเห็นว่าชอบออกธุดงค์มากกว่า จึงขอออกธุดงค์ ไม่ได้เรียนภาษานก และเดินทางไปพบ หลวงปู่ศุขเกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่าจ.ชัยนาท
ข้อมูลอ้างอิงจากweb-site |