 (N)
วัดกลางบางแก้ว อ. นครชัยศรี จ.นครปฐม
วัดกลางบางแก้ว เป็นวัดโบราณริมแม่น้ำท่าจีน เดิมชื่อวัดคงคาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลนครชัยศรี ภายในมีโบสถ์ วิหาร และพระประธานเก่าแก่ ซึ่งนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในมีพิพิธภัณฑ์พระพุทธวิถีนายก ก่อตั้งขึ้นโดยพระครูสิริชัยคณารักษ์ เจ้าคณะอำเภอนครชัยศรีและเป็นเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้วคนปัจจุบัน เพื่อเก็บรักษาโบราณวัตถุและศิลปวัตถุล้ำค่าต่างๆ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ของอดีตเจ้าอาวาส 2 รูป คือ หลวงปู่บุญ หรือ ท่านเจ้าคุณพุทธวิถีนายก (บุญ ขันธโชติ)
ประวัติ และความเป็นมาวัดกลางบางแก้ว
การค้นคว้าประวัติวัดกลางบางแก้วนี้ ไม่สามารถค้นคว้า ก่อนท่านเจ้าคุณพระพุทธวิถีนายก (บุญ ขนฺธโชติ) เป็นเจ้าอาวาสได้ เพราะวัดกลางบางแก้วนี้เป็นวัดราษฎร์เก่าแก่วัดหนึ่ง ไม่เคยมีใครเขียนประวัติไว้ และทั้งสมัยก่อนไม่มีใครใคร่สนใจในเรื่องประวัติ และก็ไม่มีความ สำคัญอันใดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ จะสอบถามท่านผู้เฒ่าผู้แก่ก็หาผู้รู้ยาก จึงอาศัยสอบถามจากท่านเจ้าคุณพระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน) ซึ่ง ท่านก็เคยได้ฟังจากท่านเจ้าคุณพระพุทธวิถีนายก (บุญ ขันธโชติ)ซึ่งท่านเล่าให้ฟังว่า
วัดกลางบาง แก้วเป็นวัดราษฎร์แต่ เดิมชื่อว่าวัดคงคาราม คนทั่วไปแถบบริเวณนครชัยศรีนี้ มักเรียกว่า วัดกลาง เพราะ ตั้งอยู่ปากคลองบางแก้ว ตำบลปากน้ำ แขวงเมืองนครชัยศรี และตำบลปากน้ำในปัจจุบันเปลี่ยนเป็นตำบลนครชัยศรี ครั้น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๘ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรม พระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจราชการตามลำน้ำนครชัยศรี (ลำน้ำท่าจีน) ได้เสด็จขึ้นทอดพระเนตรวัดทรงตรัสถามมรรคนายกวัดชื่อนายโป๊ะ ชมภูนิช ทูลว่าชื่อวัดคงคาราม ทรงเห็นว่าเป็นวัดที่อยู่ริมแม่น้ำนครชัยศรีตรงปากคลองบางแก้ว และในละแวกนั้นมีวัดใกล้เคียงอีกสองวัด ซึ่งมี อาณาเขตวัดติดต่อกัน คือด้านทิศใต้ติดต่อกับวัดใหม่สุปดิษฐาราม ด้านทิศตะวันตกติดต่อกับวัดตุ๊กตา จึงได้ทรงประทานชื่อให้ใหม่ว่า “วัดกลางบางแก้ว” ตรงกับสมัยที่พระพุทธวิถีนายก (บุญ ขนฺธโชติ) เป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น แต่นั้นมาจึงใช้ชื่อวัดกลางบางแก้ว เป็นทางราชการมาจนถึงปัจจุบันนี้
วัดกลางบางแก้ว หรือ วัดคงคารามนี้ เข้าใจว่าคงเป็นวัดโบราณเก่าแก่สร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา หรือตอนปลายของยุคอู่ทอง จากสภาพโบราณวัตถุภายในวัด เป็นต้นว่าอุโบสถ ใบเสมา และวิหาร ตลอดจนพระพุทธรูปหินทรายแดง ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถ คือ หลวงพ่อโต |