หลวงปู่ท่อน เป็นพระเถราจารย์สายกัมมัฏฐาน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตตภาวนา การเทศนา และวิทยาคมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
ปัจจุบัน หลวงปู่ท่อน หรือ พระญาณทีปาจารย์ สิริอายุ 78 พรรษา 58 เป็นเจ้าอาวาส วัดศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย
อัตโนประวัติ มีนามเดิม ท่อน ประเสริฐพงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2471 ที่บ้านหินขาว ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายแจ่ม และนางทา ประเสริฐพงศ์ เป็นบุตรลำดับที่ 6 จากพี่น้องทั้งหมด 19 คน
ในวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนบ้านหินขาว แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจน ท่านได้ลาออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำงาน
ต่อมาได้เรียนต่อที่โรงเรียนผู้ใหญ่ที่บ้านหินขาว สอบเทียบได้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
หลังจากจบชั้น ป.4 ท่านไม่ได้เข้าศึกษาต่อ เพราะต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ต้องออกมาทำงานหาเลี้ยง
ช่วงวัยหนุ่มฉกรรจ์ เป็นคนติดเพื่อนฝูง กินเหล้าเมายา จีบสาวตามบ้านต่างๆ ในละแวกนั้น ทำให้โยมบิดา-มารดา เป็นกังวลใจมาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป บุตรชายคงจะเสียคนเป็นแน่ จึงได้ปรึกษากัน ขอให้บุตรชายบวชเรียน
โยมบิดาจึงนำตัวบุตรชายไปฝากกับหลวงปู่คำดี ปภาโส พระเกจิชื่อดังแห่งวัดป่าชัยวัน จ.ขอนแก่น แต่หลวงปู่คำดีมีข้อแม้ว่า ก่อนบวชจะต้องรักษาศีล นุ่งห่มขาว เจริญภาวนา กินข้าวมื้อเดียวก่อน
ครั้นอยู่ทดสอบจิตใจได้ 5 เดือน หลวงปู่คำดีได้อนุญาตให้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2491 ณ พัทธสีมา วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีพระครูพิศาลสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูคัมภีรนิเทศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระมหาสุพจน์ อุตฺตโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ภายหลังอุปสมบท ได้เดินทางไปอยู่กับหลวงปู่คำดี ณ วัดป่าชัยวัน โดยหลวงปู่คำดีเป็นอาจารย์กัมมัฏฐาน คอยสอนให้ทำภาวนา นั่งสมาธิกัมมัฏฐาน เน้นเรื่องสติ สมาธิ และปัญญา
ระยะเวลาผ่านไปนานพอสมควร ท่านได้ช่วยครูบาอาจารย์ แบ่งเบาภาระในการสอนคนที่จะมาบวช ด้วยการสอนขานนาค เป็นต้น ครั้นถึงช่วงออกพรรษา ได้เป็นหัวหน้าเดินธุดงค์เข้าป่าเป็นกิจวัตร
ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสพบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า และได้รับโอวาทอันทรงคุณค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้ จากหลวงปู่มั่น ให้เร่งทำความเพียร มิให้ประมาท ชีวิตนี้อยู่ได้ไม่นานก็ต้องตาย
หลวงปู่ท่อน ยังได้มีโอกาสไปกราบเยี่ยมครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต เป็นต้น
หลังจากช่วยงานการครูบาอาจารย์เสร็จสิ้น หลวงปู่คำดี ได้นำหมู่คณะออกวิเวกไปทาง จ.เลย ตอนนั้น หลวงปู่ท่อนบวชได้ 7 พรรษาแล้ว
พ.ศ.2497 หลวงปู่คำดี นำคณะเข้าป่าและถ้ำต่างๆ ได้ภาวนาทำความเพียร ญาติโยมมาฟังธรรมะ และในพรรษานี้ หลวงปู่ท่อนได้อยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำผาปู่กับหลวงปู่คำดีด้วย
หลวงปู่ท่อนอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่ได้ 2 พรรษา มีญาติโยมมาขอให้ไปโปรดที่วัดถ้ำตีนผา อ.เชียงคาน 1 พรรษา ต่อมาหลวงปู่คำดีเกิดอาพาธเจ็บป่วยด้วยโรคชรา ท่านจึงกลับมาเยี่ยมและช่วยสร้างวัดถ้ำผาปู่ไปด้วย จวบกระทั่ง หลวงปู่คำดีมรณภาพลงอย่างสงบ
พ.ศ.2500 ญาติโยมได้นิมนต์ให้หลวงปู่ท่อนไปอยู่ที่ป่าช้านาโป่ง และได้สร้างเป็นวัดศรีอภัยวัน ในเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ รวมทั้งรักษาความเป็นป่าอย่างสมบูรณ์ไว้
จากนั้นมา หลวงปู่ท่อนได้จำพรรษาที่วัดศรีอภัยวัน จ.เลย ตราบจนถึงปัจจุบัน
เนื่องจากหลวงปู่ท่อนเป็นพระป่า ที่วัดจึงไม่มีสิ่งก่อสร้างใหญ่โต กุฏิเป็นเพียงกุฏิเล็กๆ ปัจจัยที่ได้รับจากญาติโยม ล้วนแบ่งเอาไว้ใช้เท่าที่จำเป็น ส่วนใหญ่จะแบ่งปันให้แก่วัดที่ขาดแคลนหรือทุรกันดาร |
|