ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : กระทู้จองเหรียญพระยาครุฑหยุดนาค หลวงปู่ลู แจ้งหลักฐานการจองพร้อมลงชื่อ-ที่อยู่ได้ที่นี่นะครับ...



(N)


รบกวนแจ้งชื่อ-ที่อยู่ พร้อมหลักฐานการโอนเงินได้ที่นี่นะครับ ขอขอบคุณและร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ...

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ศ. 03 ส.ค. 2555 - 08:21 น.]



โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ศ. 03 ส.ค. 2555 - 08:27 น.] #2381413 (1/31)


(N)


เหรียญจริง สวยมากๆทุกเนื้อครับ ขอย้ำ...

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ศ. 03 ส.ค. 2555 - 08:30 น.] #2381416 (2/31)


(N)


ด้านหลังเป็นรูปสิงห์มหาอำนาจ มีติดตัวใว้แล้วเหล่าศัตรูและไพรีต้องเกรงขาม สมดั่งชื่อรุ่น "ปราบไพรี" ครับ...

โดยคุณ เต่า_สระหลวง (357)(3)   [ศ. 03 ส.ค. 2555 - 12:49 น.] #2381752 (3/31)


(N)
โอนให้แล้วครับผม ขอบพระคุณมากครับพี่ โอกาสหน้าคงจะมีโอกาศร่วมบุญดีๆอีกนะครับ

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ศ. 03 ส.ค. 2555 - 18:18 น.] #2382142 (4/31)
ขอบคุณมากครับท่านเต่า_สระหลวง งานบุญฯในโอกาสหน้า จะแจ้งข่าวให้ทราบเป็นท่านแรกเลยนะครับ...

โดยคุณ เต่า_สระหลวง (357)(3)   [ศ. 03 ส.ค. 2555 - 22:50 น.] #2382701 (5/31)
ยินดีครับ

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ศ. 03 ส.ค. 2555 - 23:28 น.] #2382752 (6/31)
รวมถึงทุกท่านที่ร่วมบุญกันในครั้งนี้ งานบุญรอบหน้าฯ(ถ้ามี) ไม่พลาดแน่นอนครับ....

โดยคุณ อนุรักษ์ (5.6K)  [ส. 04 ส.ค. 2555 - 12:08 น.] #2383389 (7/31)


(N)
1. เหรียญเงิน 1 เหรียญ ๒๕๐๐
2. ชุดกรรมการ 1 ชุด ๑๓๐๐
3. ตะกรุดผ้ายันต์แดงแผลงฤทธิ์ 2 ดอก ๘๐๐
ค่าจัดส่ง ๑๐๐
รวม ๔๗๐๐
โอนแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
ส่งที่ สันธนะ ทรัพย์ล้น
บริษัทไทยสินแอสโซซิเอท จำกัด 1222/30 ม.7 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10280
086-973-8634

โดยคุณ lekkhom (512)  [ส. 04 ส.ค. 2555 - 12:09 น.] #2383390 (8/31)
5.เหรียญกะไหล่ทองลงยา 3 สี =1 เหรียญ
6.เหรียญกะไหล่เงินลงยา 3 สี =1 เหรียญ
7.เหรียญทองแดงนอก =2 เหรียญ
รวม 1,000 + 100 = 1.100บาท โอนให้แล้วครับผม 10.55 am 04/08/2555
ที่อยู่จัดส่งพระ
มณฑล ขมเจริญ 130/33 ม.1 ต.กุฎโง้ง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี 20140
ขอบคุณครับ
Tel 089-9680351

โดยคุณ kittipat (38)(2)   [ส. 04 ส.ค. 2555 - 13:22 น.] #2383525 (9/31)
โอนเงินให้แล้วครับผม 1500.09
นวะ 1 อัลปาก้า 1 ทองระฆัง 1 ตะกรุด 1
กิตติภัฎ เรืองรอง วิศวกรโลหการปฏิบัติการ
สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ 75/10 ถนนพระราม6 ราชเทวี กรุงเทพ 10400 ขอบพระคุณครับผม

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ส. 04 ส.ค. 2555 - 13:42 น.] #2383537 (10/31)
รับทราบครับทั้งคุณอนุรักษ์,คุณlekkhom และน้อง kittipat ขอขอบคุณมากครับ

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ส. 04 ส.ค. 2555 - 21:46 น.] #2384105 (11/31)


(N)


คงไม่มีใครที่ไม่เคยเห็นรูป “ครุฑ” เพราะจะมีให้เจอกันอย่างชินตา โดยเฉพาะสถานที่ หรือทรัพย์สินทางราชการ หน้าธนาคาร หรือแม้กระทั่งในธนบัตร รวมถึงวรรณกรรมหลายเรื่องก็มีการกล่าวถึงครุฑ เรื่องที่คนไทยรู้จักกันดีก็คือ กากี ซึ่งได้หยิบยกโคลงเห่ขึ้นมาเกริ่นข้างต้น แต่ก็คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบถึงประวัติความเป็นมาของพญานกเจ้าเวหานาม ว่า ครุฑ

ครุฑ เป็นพญานก มีรูปครึ่งมนุษย์ ครึ่งนกอินทรี เป็นโอรสของพระกัศยปมุนี กับนางวินตา พระกัศยปมุนีนั้นเป็นฤษีที่มีอำนาจมาก ส่วนนางวินตาเป็นธิดาของพระทักษประชาบดี ซึ่งมีธิดาถึง 50 องค์ และได้ยกให้พระกัศยปมุนี ถึง 13 องค์ อีกองค์ที่โด่งดังคือนางกัทรู ซึ่งเป็นพี่ของนางวินตา



นางกัทรูได้ขอพรจากสามีให้มีลูกจำนวนมาก จึงให้กำเนิด นาค ถึง 1,000 ตัว อาศัยอยู่ในแดนบาดาล ส่วนนางวินตาขอลูกเพียง 2 องค์ แต่ขอให้ลูกมีอำนาจวาสนา จึงได้คลอดลูกออกมาคือ อรุณ และ ครุฑ ซึ่งต่อมาอรุณได้ไปเป็นสารถีของพระสุริยเทพ ส่วนครุฑเมื่อแรกเกิดออกจากไข่ว่ากันว่ามีร่างกายขยายตัวออกใหญ่โตจนจดฟ้า ดวงตาเมื่อกะพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกทีใด ขุนเขาจะตกใจหนีหายไป รัศมีที่พวยพุ่งออกจากกายมีลักษณะดั่งไฟไหม้ทั่วสี่ทิศ

ต่อมา นางกัทรูและนางวินตามีเรื่องถกเถียงกันว่าม้าที่เกิดคราวทวยเทพและอสูรกวน น้ำอมฤตจะสีอะไร จึงพนันกันว่าใครแพ้จะต้องยกเป็นทาสของอีกฝ่าย 500 ปี นางวินตาทายว่าสีขาว นางกัทรูทายว่าสีดำ ซึ่งความจริงม้าเป็นสีขาว แต่นางกัทรูใช้อุบายให้นาคลูกของตนแปลงเป็นขนสีดำไปแซม อยู่เต็มตัวม้า นางวินตาไม่ทราบจึงต้องเป็นทาสถึง 500 ปี จึงทำให้ครุฑและนาคต่างไม่ถูกกันนับแต่นั้นมา





แต่เพื่อช่วยแม่ให้เป็นอิสระ ครุฑได้เจรจาทำความตกลงกับพวกพญานาคที่ต้องการเป็นอมตะว่าจะไปนำน้ำอมฤตที่ อยู่กับพระจันทร์มาให้ ครั้นแล้วก็บินไปสวรรค์ คว้าพระจันทร์มาซ่อนไว้ใต้ปีก แต่ถูกพระอินทร์และทวยเทพติดตามมาจึงเกิดต่อสู้กัน ทวยเทพทั้งหมดแพ้ครุฑ ยกเว้นพระวิษณุที่ต่อสู้กันไม่มีใครแพ้หรือชนะเลยต้องทำความตกลงหย่าศึก โดยพระวิษณุหรือพระนารายณ์สัญญาว่าจะให้ครุฑเป็นอมตะ และให้อยู่ตำแหน่งสูงกว่าพระองค์ ส่วนครุฑก็ถวายสัญญาว่าขอเป็นพาหนะของพระวิษณุ และเป็นธงครุฑพ่าห์สำหรับปักอยู่บนรถศึกของพระวิษณุอันเป็นที่สูงกว่า



ส่วนหม้อน้ำอมฤตนั้น พระอินทร์ตามมาขอคืน แต่ครุฑขอร้องว่าต้องรักษาสัตย์ ที่จะนำไปให้นาคเพื่อไถ่มารดาให้พ้นจากการเป็นทาส ขอให้พระอินทร์ไปเอาคืนจากนาคเอง เมื่อครุฑเอาน้ำอมฤตไปให้นาคก็วางไว้บนหญ้าคา แต่ ทำหกบนหญ้าคา 2-3 หยด ด้วยเหตุนี้ หญ้าคาจึงถือเป็นสิ่งมงคล ใช้ประพรมน้ำมนต์ ส่วนงูเมื่อเห็นน้ำอมฤตบนหญ้าคาก็ไปเลียกิน ด้วยความไม่ระวังจึงถูกคมหญ้าบาดเป็นทางยาว งูจึงมีลิ้นแตกเป็น 2 แฉก ฝ่ายนาคเมื่อเห็นน้ำอมฤตก็ยินดีปล่อยนางวินตามารดาของครุฑเป็นอิสระ แต่ขณะพากันไปสรงน้ำชำระกายก่อนจะกินน้ำอมฤต พระอินทร์ก็นำหม้อน้ำอมฤตกลับไป ทำให้นาคยิ่งเพิ่มความเป็นศัตรูกับครุฑยิ่งขึ้น



ตามวรรณคดีพุทธศาสนา เช่นเรื่อง สุสันธีชาดก และกากาติชาดก ระบุว่าครุฑมีขนาดใหญ่มาก วัดจากปีกข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งได้ 150 โยชน์ เวลากระพือปีกสามารถทำให้เกิดพายุใหญ่มืดมนทำลายบ้านเมืองให้พังทลายได้ ครุฑมีชายานามว่า อุนนติ หรือวินายกา โอรสชื่อ สัมปาติหรือสัม พาที และ ชฎายุ ที่อยู่ของครุฑคือสุบรรณพิภพ เป็นวิมานอยู่บนต้นสิมพลีหรือต้นงิ้ว เชิงเขาพระสุเมรุ

นอกจากตำนานข้าง ต้น ครุฑยังมีความเกี่ยวข้องกับคนไทยอีกหลายอย่าง โดย เฉพาะการถือว่าครุฑเป็นสัญลักษณ์สำคัญเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ที่มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ด้วยว่าไทยเราได้รับลัทธิเทวราชของอินเดีย ที่ถือว่าพระมหากษัตริย์คืออวตารของพระนารายณ์ ดังนั้น ครุฑซึ่งทรงอิทธิฤทธิ์ และเป็นพาหนะของพระนารายณ์ จึงเป็นสัญลักษณ์แทนพระมหากษัตริย์



พระราชลัญจกร ตั้งแต่สมัยอยุธยา มีองค์หนึ่งเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริว่าไม่ควรมีองค์พระนารายณ์ ควรมี แต่ครุฑ จึงโปรดให้ สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยา นริศรานุวัตติวงศ์ ทรงเขียนถวายใหม่ และ โปรดให้ทำขึ้นใช้ประทับพระปรมาภิไธย ปัจจุบันตราดวงนี้อยู่ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำหรับประทับกำกับพระปรมาภิไธย ในหนังสือสำคัญ เช่น ประกาศนียบัตรเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ต่อมาจึงได้มีการใช้ตราครุฑ เป็นหัวกระดาษของหนังสือของราชการทั่ว ๆ ไปด้วย เพื่อให้ทราบว่างานนั้นเป็นราชการ

สำหรับรูปครุฑที่เป็นธงแทนองค์พระมหากษัตริย์เรียกว่า ธงมหาราช เป็นรูปครุฑสีแดงอยู่บนพื้นธงสีเหลือง เริ่มใช้ในสมัยรัชกาลที่ 4 ธงมหาราชนี้เมื่อเชิญขึ้นเหนือเสา ณ พระราชวังใดแสดงว่าพระมหากษัตริย์ประทับอยู่ ณ ที่นั้น ส่วนครุฑที่ปรากฏอยู่ในขบวนเรือหลวงมีอยู่ 3 ลำ คือ เรือครุฑเหินเห็จ เป็นหัวโขนรูปพญาครุฑ สีแดงยุดนาค เรือครุฑเตร็จไตรจักร เป็นหัวโขนรูปพญาครุฑสีชมพูยุดนาค และ เรือนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ 9 เป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ



นอกจาก “ตราครุฑ” จะปรากฏในส่วนราชการต่าง ๆ แล้ว ภาคเอกชนก็สามารถรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราครุฑหรือตราแผ่นดินใน กิจการได้ด้วย โดยเริ่มมีมาแต่รัชกาลที่ 5 ซึ่งเดิมเป็นตราอาร์ม โดยมีข้อความประกอบว่า “โดยได้รับพระบรมราชานุญาต” ต่อมาในรัชกาลที่ 6 ได้เปลี่ยนตราแผ่นดินเป็นตราพระครุฑพ่าห์ การพระราชทานตรานี้แต่เดิมถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่จะพระราชทานตามพระราช อัธยาศัย ผู้ได้รับนอกจากจะเป็นช่างหลวง เช่น ช่างทอง ช่างถ่ายรูป เป็นต้นแล้วก็มักจะเป็นผู้ประกอบกิจการค้ากับราชสำนัก และเป็นประโยชน์ต่อราชการงานแผ่นดิน

ปัจจุบันการขอพระราชทานตรา ตั้งนี้ต้องยื่นคำขอต่อสำนักพระราชวัง เพื่อพิจารณานำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ซึ่งตราตั้งนี้ถือเป็นของพระราชทานเฉพาะบุคคล สิทธิรับพระราชทานและการใช้เครื่องหมายนี้จะสิ้นสุดเมื่อสำนักพระราชวัง เรียกคืนเนื่องจากบุคคล ห้างร้าน บริษัทที่ได้รับพระราชทานฯ เสียชีวิต หรือเลิกประกอบกิจการ หรือโอนกิจการให้ผู้อื่น หรือสำนักพระราชวังเห็นสมควรเพิกถอนสิทธิ.


โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ส. 04 ส.ค. 2555 - 21:47 น.] #2384108 (12/31)


(N)
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภพระเทวทัตผู้พูดมุสาแล้วถูกแผ่นดินสูบ ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพ่อค้าชาวเมืองพาราณสีประมาณ ๕๐๐ คน แล่นสำเภาไปในมหาสมุทรเพื่อไปค้าขายเมือง อื่น ในวันที่ ๗ สำเภาถูกพายุกระหน่ำล่มกลางทะเล ผู้คนล้มตาย เป็นเหยื่อของปลาหมดหลงเหลือเพียงชายคนหนึ่งถูกลมพัดกระหน่ำไปขึ้นที่ฝั่งท่าน้ำกทัมพิยะ เสิ้อผ้าไม่มี เปลือยกายล่อนจ้อน เดินเที่ยวขอทานอยู่

พวกชาวบ้านพบเห็นเขาก็พากันยกย่องเขาว่าเป็นผู้มักน้อยสันโดษ เป็นนักบวช จึงพากันสักการะบูชาเขาเป็นการใหญ่ นับตั้งแต่วันนั้นมาเขาเองก็ไม่ปรารถนาจะนุ่งห่มเสื้อผ้าได้ลาภสักการะจำนวนมาก ถูกคนเรียกหาว่า กทัมพิยอเจลกะ (ชีเปลือยทัมพิยะ)

ในสมัยนั้น มีพญานาคตนหนึ่งชื่อบัณฑรกนาคราช และพญาครุฑตนหนึ่งจะพากันมาปรึกษาชีเปลือยนั้นอยู่เป็นประจำอยู่มาวันหนึ่งพญาครุฑมาหาชีเปลือยแล้วขอร้องว่า "ท่านขอรับพวกญาติของผมจำนวนมาก ตายเพราะจับพวกนาคโดยไม่ทราบสาเหตุ ขอความกรุณาจากท่านช่วยถามพญานาคให้ผมด้วยเถิด"

ชีเปลือยนั้นรับคำจะถามให้ เมื่อพญานาคมาหาจึงถามความนั้นพญานาคตอบว่า "ท่านขอรับเรื่องนี้เป็นความลับของพวกกระผม ถ้าผมบอกท่านเท่ากับผมนำความตายมาสู่ตนเอง และพวกญาติ จึงไม่ขอตอบได้ไหม"
ชีเปลือย "พญานาค เราจะไม่บอกใครหรอก ถามเพราะอยากจะทราบเท่านั้นเองละ จงบอกเถิด"
พญานาคตอบว่า "ผมบอกไม่ได้หรอกครับท่าน" ไหว้ชีเปลือยแล้วก็กลับไป ชีเปลือยถามเช่นนั้นอยู่ ๒ วัน พญานาคก็ไม่ยอมบอกเช่นเดิม ในวันที่ ๓ พญานาคพอถูกชีเปลือยถามอีกจึงกำชับชีเปลือยอย่าได้บอกใคร แล้วก็เล่าให้ฟังว่า "ท่านขอรับเพราะพวกกระผมกลืนกินก้อนหินทุกวันทำให้ตัวหนักนอนอยู่ เมื่อพวกครุฑมาจับที่หัวลากไป จึงถ่วงพวกครุฑจมน้ำตายเป็นจำนวนมาก พวกครุฑมันโง่จึงจับที่หัว ถ้ามันจับหางของพวกเราหินก็จะไหลออกจากปากสามารถนำพวกเราไปได้ ความลับก็มีอยู่เท่านี้แหละท่าน" แล้วก็ลากลับไป

อีกวันต่อมา เมื่อพญาครุฑมาหาเปลือยผู้ทุศีลก็เล่าเรื่องนั้นให้ฟัง พญาครุฑจึงปรี่เข้าไปจับขนดหางพญานาคโผบินขึ้นสู่ท้องฟ้าไป พญานาคเมื่อทราบความลับถูกเปิดเผลแล้ว จึงคร่ำครวญว่า "ภัยเกิดจากตัวเองแท้ๆ ที่พูดพล่อยไม่ปิดบัง บอกความลับแก่ใคร จึงได้บอกออกไปน่าเจ็บใจจริง ๆ "
พญาครุฑพูดว่า "ท่านนาคราช ท่านบอกความลับแก่ชีเปลือยแล้ว จะมาคร่ำครวญอยู่ทำไม สัตว์ที่จะไม่ตายไม่มีในโลกขึ้นชื่อว่าความลับไม่ควรบอกใครๆ ไม่ว่าจะเป็นบิดามารดา พี่น้องแม้กระทั่งภรรยาและบุตรธิดา" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า

"บัณฑิตไม่พึงเปิดเผยความลับ พึงรักษาความลับนั้นไว้เหมือนรักษาขุมทรัพย์ เพราะว่าความลับบุคคลรู้อยู่ไม่เปิดเผยได้เป็นการดีบัณฑิตไม่ควรบอกความลับแก่สตรี ศัตรู คนที่ใช้อามิสล่อ และคนผู้ล้วงความลับ"

พญานาคได้ฟังธรรมของพญาครุฑแล้วอ้อนวอนขอชีวิตว่า "ท่านพยาครุฑ ข้าพเจ้าขอชีวิตจากท่าน ขอท่านจงตั้งตนดุจเป็นมารดาของข้าพเจ้าเถิด"
พญาครุฑตอบว่า "เอาเถอะ เราจะปล่อยท่านไป แต่ว่า บุตรมี ๓ จำพวก คือ ศิษย์ บุตรบุญธรรม และบุตรตัวเอง ท่านยินดีจะเป็นบุตรประเภทไหนของเราละ" ว่าแล้วก็ปล่อยพญานาคไป สัตว์ทั้ง ๒ ก็อยู่กันอย่างสามัคคีกันเช่นเดิม

ต่อมาวันหนึ่งสัตว์ทั้ง ๒ ได้ชวนกันไปหาชีเปลือยอีก พญาครุฑทราบว่าพญานาคจักหมายชีวิตชีเปลือย จึงไม่เข้าไปหาปล่อยให้แต่พญานาคผู้เดียวเข้าไปหาชีเปลือยนั้น พญานาคได้กล่าวติเตียนและสาบแช่งชีเปลือยว่า "ท่านเป็นคนเลวทรามประทุษร้ายต่อผู้ไม่ประทุษร้าย ไม่รักษาคำสัตย์ ขอให้หัวของท่านจงแตกเป็น ๗ เสี่ยง" กล่าวจบก็พากันกลับไปที่อยู่ของตนส่วนชีเปลื่อยพอสัตว์ทั้ง ๒ จากไปเท่านั้น หัวก็แตกออกเป็น ๗ เสี่ยงสิ้นชีวิตแล้วไปเกิดในนรก

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ส. 04 ส.ค. 2555 - 21:56 น.] #2384131 (13/31)


(N)


ครุฑมีจุดกำเนิดเดิมในศาสนาฮินดู เป็นเทพพาหนะของพระนารายณ์

ตำนานครุฑ เป็นคำสอนในส่วนโมกษะธรรม

สะท้อนอิทธิพลของพระนารายณ์

จริง ๆ แล้ว ครุฑเป็นเทพที่มีเดชเกินหยั่งถึง แต่ไม่เคยแสดงอิทธิฤทธิ์สูงสุดของตน ด้วยยังไม่เคยพบคู่ศึกที่เหนือกว่า แม้ไร้ศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ประจำกาย แต่เปี่ยมศิลปะแห่งการเอาชัย รุกรบได้ทุกภพภูมิ อิทธิเวทย์อันหลากหลายมาจากที่แห่งใด และแสงจรัสจ้าเมื่อยามแรกกำเนิดนั้น ขนาดพระอัคนียังต้องยอมรับตลอดมาว่าเดชศักดาแห่งครุฑนั้นเทียมตน

เหตุการณ์เมื่อครั้งบุกขึ้นสวรรค์ช่วงชิงน้ำอมฤต เพื่อนำมาไถ่อิสรภาพให้นางวินตา มารดาจากเหล่านาคนั้น เป็นกระบวนความที่สรุปรวบยอดพญาครุฑได้อย่างดี

กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ทรงถอดความเป็นภาษาไทย ตอนหนึ่งว่า...

“ส่วนการรบแย่งอมฤตครั้งนั้น เหล่าเทพยาดาเตรียมต่อสู้พร้อมแล้ว ไม่ช้าพญานกก็ไปถึง เหล่าเทพยดาเห็นพญานกบินมาแต่ไกล ก็ตกใจอลหม่าน จนเกิดสู้รบกันขึ้นในพวกเดียวกัน ฝ่ายพญาครุฑครั้นบินไปถึงก็กระพือปีกพัดให้ฝุ่นตระหลบไปทั้งอากาศ แล้วเข้าทำร้ายเหล่าเทพยดาด้วยเล็บด้วยปาก และด้วยปีก จนเทพยดาได้รับความเจ็บปวดสิ้นฤทธิ์ไปเป็นอันมาก ฝ่ายพระอินทร์เมื่อเห็นฝุ่นตระหลบไปจนไม่เห็นตัวศัตรู ก็ตรัสแก่พระพายว่า ท่านจงพัดให้ฝุ่นกระจายไปโดยเร็วเถิด...

“พระพายได้ยินพระอินทร์ตรัสดังนั้น ก็พัดพาฝุ่นไปหมด เหล่าเทพยดาเห็นตัวพญานกก็พากันเข้าต่อสู้ด้วยอาวุธต่าง ๆ พญานกรบสู้ด้วยอาวุธซึ่งมีอยู่ในตัว คือเล็บ แลปากแลปีก เทพยดาทั้งหลายสู้ไม่ได้ ก็หนีไปตามทิศต่าง ๆ

“ฝ่ายพญานก ครั้นเทพยดาเปิดทางให้แล้ว ก็ตรงเข้าไปยังที่เก็บอมฤต เห็นเพลิงกองล้อมอยู่รอบ เพลิงนั้นมีเปลวร้อนเหมือนหนึ่งจะไหม้พระอาทิตย์เป็นผงได้ พญาครุฑเห็นดังนั้นก็จำแลงกายเป็นนกใหญ่มีปากเก้าสิบเก้าสิบ (8,100) ปาก แล้วบินไปอมน้ำในแม่น้ำซึ่งมีจำนวนเท่าจำนวนปาก กลับมาดับไฟที่ล้อมอมฤตอยู่นั้นได้

“ครั้นไฟดับแล้ว พญานกก็แปลงกายเป็นนกสีทอง ตรงเข้าจะไปถือเอาอมฤต พบจักร ๆ หนึ่งซึ่งคมเหลือหาที่เปรียบ จักรนั้นหมุนอยู่มิได้หยุด แลย่อมจะตัดกายผู้พยายามจะลักอมฤตให้ขาดไปได้ พญานกแลเห็นดังนั้น ก็แปลงกายเห็นนกตัวเล็กที่สุด แล้วโจนลอดช่องซึ่งเห็นในจักรนั้นเข้าไปด้วยความเร็ว ครั้นลอดพ้นจักรไปแล้ว ยังพบนาคสองตัวมีแสงเหมือนแสงไฟ มีลิ้นเหมือนฟ้าแลบ พ่นไฟพิษออกจากปาก แลมีตาอันไม่กระพริบ ผู้ใดเข้าไปให้นาคทั้งสองเห็นได้ด้วยตา ผู้นั้นย่อมจะเสียชีวิตไปในทันที พญาครุฑเมื่อเข้าไปพบนาคก็กระพือปีกให้เกิดฝุ่นเข้าตานาคทั้งสอง แล้วเข้าฉีกนาคเป็นท่อนเล็กท่อนน้อยไป”

โดยคุณ Lerm_kawilo (619)  [อา. 05 ส.ค. 2555 - 07:00 น.] #2384436 (14/31)


(N)
ที่จัดส่งตามนี้ครับ

เฉลิม กาวิโล
396 หมู่ที่ 2 ( ศิลาทอง )
ต.เขาหินซ้อน
อ.พนมสารคาม
จ.ฉะเชิงเทรา ( 24120)
Tel. 086-8215065


โดยคุณ ช้างบางจาก (2K)  [จ. 06 ส.ค. 2555 - 11:27 น.] #2386401 (15/31)


(N)
โอนให้แล้วครับ 750 บาท
อัลปาก้า 1-300
ทองทิพย์ 1-200
ทองแดงนอก 1-150
ค่าจัดส่ง 100

จัดส่งที่
คมสัน พิศาลสงคราม
514/15 รีเจ้นท์รัชดา ซอยสหการประมูล
แขวงวัวทองหลาง เขตวังทองหลาง
กรุงเทพฯ 1 0 3 1 0
โทร.081-2512468

โดยคุณ Tatumtnt (194)  [จ. 06 ส.ค. 2555 - 14:54 น.] #2386734 (16/31)
โอนเงิน 4800 ให้แล้วครับ
สรุปรายการที่จองคืิอ
1. กรรมการ 1ชุด 1300 บาท
2. เงิน 1 เหรียญ 2500 บาท
3. นวะ 1 เหรียญ 500 บาท
4. ตะกรุด 1 ดอก 400 บาท
ที่อยู่เดี๋ยวแจ้งในmailbox. ....ขอบคุณครับ

โดยคุณ kor_kai (1.1K)(1)   [จ. 06 ส.ค. 2555 - 18:54 น.] #2387047 (17/31)
โดยคุณ kor_kai (710) (183.88.249.*) [3 Aug 2012 07:32] #2381359 (9/67)
ขอจองตามรายการดังนี้ครับ

1.เหรียญเงิน 1 เหรียญ = 2,500
2.เหรียญนวะแก่เงิน 2 เหรียญ = 1,000
3.เหรียญอัลปาก้า 2 เหรียญ = 600
4.เหรียญทองทิพย์ 2 เหรียญ = 400
5.เหรียญกะไหล่ทองลงยา 2 เหรียญ =700
6.เหรียญกะไหล่เงินลงยา 2 เหรียญ = 700
7.เหรียญทองแดงนอก 2 เหรียญ = 300
8.ตะกรุดผ้ายันต์แดงแผลงฤทธิ์ 2 ดอก = 800
9.ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณปราบไพรี(สีเหลือง/สีแดง)จอง ๒ ผืน ( แดง ๑ / เหลือง ๑) = 200
10.ชุดกรรมการ 1 ชุด =1,300

ขอบคุณครับ
=====================================================

รวมยอดจอง (ลงจองไว้ ๒ กระทู้ครับ เอามารวมกันแล้วครับ) 8,500 บ. + ค่าจัดส่ง 100 บ. = 8,600 บ.

โอนวันนี้ เวลาประมาณ 15.36 น. (ไม่ได้โพสต์สลิปนะครับพี่ เครื่องสแกนเนอร์เสียอยู่ครับ)

ที่อยู่จัดส่งพระครับ

นายรุ่งโรจน์ แจ่มอ้น

บ้านเลขที่ 21/52 ซ.ท่านผู้หญิงพหลฯ
ถ.งามวงศ์วาน 54 แขวงลาดยาว
เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ขอบคุณมากครับ

ด้วยความนับถือ

kor_kai

08-1900-6696 (gsm)

โดยคุณ เจมส์_จิรพันธ์ (445)  [จ. 06 ส.ค. 2555 - 23:27 น.] #2387717 (18/31)


(N)
พี่ไก่ครับ ผมเบลอคิดเงินผิด

ช่วงนี้เรื่องพระเต็มสมอง เบลอจริงๆ

ขอเอาเป็นตามนี้นะครับ อยู่ในงบประมาณใกล้เคียงของเดิม พรุ่งนี้โอนให้ครับผม

*******
เงิน 1 เหรียญ = 2,500
นวะแก่เงิน 2 เหรียญ = 1,000
อัลปาก้า 2 เหรียญ = 600
ทองทิพย์ 2 เหรียญ = 400
ทองแดงนอก 2 เหรียญ = 300
ค่าจัดส่ง = 100

รวม = 4,900
*******

ตรวจทานหลายรอบละ คงไม่ผิดละ

โดยคุณ เจมส์_จิรพันธ์ (445)  [อ. 07 ส.ค. 2555 - 11:06 น.] #2388125 (19/31)


(N)
โอนเรียบร้อยครับ

ส่งตามนี้8iy[z,

กิตติพันธ์ เตชะจิรวัฒน์
276/9 ถ.พิชัยสงคราม ต.ในเมือง
อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000

tel.080-0969036

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [อ. 07 ส.ค. 2555 - 22:18 น.] #2389252 (20/31)


(N)


วันนี้ไปตามมาได้ 4 เหรียญ(สร้าง ๙ เหรียญ) ท่านใดอยากได้ลงชื่อใว้นะครับ แล้วผมจะติดต่อกลับไป ในราคาเดิมๆครับ...

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [อ. 07 ส.ค. 2555 - 22:22 น.] #2389265 (21/31)


(N)
ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวัณปราบไพรี ก็สวยงามน่าสะสมนะครับ ร่วมทำบุญแค่ผืนละ 100 เท่านั้น...

โดยคุณ anupong (1.2K)  [พ. 08 ส.ค. 2555 - 13:45 น.] #2390080 (22/31)
อยากได้เนื้อเงิน ครับแต่.....

โดยคุณ anupong (1.2K)  [พ. 08 ส.ค. 2555 - 13:46 น.] #2390081 (23/31)
โดยคุณ anupong (423) (101.108.21.*) [8 Aug 2012 13:45] #2390080 (22/22)
อยากได้เนื้อเงินลงยา ครับแต่.....

โดยคุณ vivicurl (374)  [พ. 08 ส.ค. 2555 - 16:08 น.] #2390279 (24/31)


(N)
3.เหรียญอัลปาก้า 2 เหรียญ = 300*2 = 600 บาท
4.เหรียญทองทิพย์ 2 เหรียญ = 200*2 = 400 บาท
7.เหรียญทองแดงนอก 2 เหรียญ = 150*2 = 300 บาท
9.ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณปราบไพรี(สีเหลือง/สีแดง) 2 ผืน = 100*2 = 200 บาท

ค่าจัดส่ง 100+600+400+300+200 = 1600 บาท โอนเรียบร้อยครับ ขอบคุณมากครับ....

ปราณนต์ โตจิตต์
99/8 หมู่ 5 หมู่บ้านสินธรา ซอย 4
ถนนบางกรวยไทรน้อย ตำบลบางสีทอง
อำเภอบางกรวย นนทบุรี
11130
ขอบคุณมากครับ
0819883568

โดยคุณ เต่า_สระหลวง (357)(3)   [พ. 08 ส.ค. 2555 - 20:08 น.] #2390616 (25/31)
อยากได้เงินลงยา แต่เดือนนี้หมดงบแล้วครับ

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [พ. 08 ส.ค. 2555 - 22:39 น.] #2390947 (26/31)
ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมทำบุญสั่งจองในครั้งนี้ทุกท่านนะครับ วันนี้ทางผู้จัดสร้างแจ้งมาว่าจะสามารถรับพระได้ตั้งแต่วันที่ 15 สค.เป็นต้นไป ตามที่มีการลงประชาสัมพันธ์ในหนังสือพระหลายฉบับ จึงต้องขออภัยเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยที่ครั้งแรกผมแจ้งไปว่าสามารถรับพระได้ในสัปดาห์นี้นะครับ....

โดยคุณ เจมส์_จิรพันธ์ (445)  [ศ. 10 ส.ค. 2555 - 09:35 น.] #2393524 (27/31)
รับทราบครับพี่ ของดีรอได้

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ศ. 10 ส.ค. 2555 - 20:40 น.] #2394724 (28/31)


(N)



โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ศ. 10 ส.ค. 2555 - 20:41 น.] #2394727 (29/31)


(N)


เนื้อเงินสวยมากๆ....

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ศ. 10 ส.ค. 2555 - 20:42 น.] #2394733 (30/31)


(N)


เหรียญตะกั่วไม่ตัดปีกหลังจารมือ ก็สุดยอดมากๆครับ...

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [ศ. 10 ส.ค. 2555 - 20:46 น.] #2394741 (31/31)


(N)


เหรียญเงินลงยาราชาวดีสีแดง รายการทอ๊ปสุดของรุ่นนี้ สร้างแค่ ๙ เหรียญๆจริงสวยมากๆครับ....

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www5