| หัวข้อกระทู้ : ใครรเคยได้ยินไม๊ครับว่า รุ่งกินน้ำ นั้น.....จะมี 2 วงคู่กันเสมอ ? |
 (D)

ผมขอยืมรูปจากพี่ไข่มุกมาหน่อยนะครับ...ไม่ทราบว่าพี่ๆเพื่อนๆ
เคยได้ยินหรือมี เรื่องเล่าเกี่ยวกับรุ้งกินน้ำที่แตกต่างไปจากนี้ไม๊นะครับ
ผมเกิดมากลับครอบครัวที่มีคุณชวดเลี้ยงผมมา ชวดผมท่าน เกิดปีพศ 2430 สมัยรัชกาลที่5โน่น...แกจะเราอะไรต่ออะไรให้้ผมฟังมาตลอด
พอมาเห็นรูปรุ้งกินน้ำเลยทำให้ นึกถึงเรื่องนึง ที่แกเล่าให้่ผมฟังได้ว่า
"สมัยผมยังเด็กๆ พอมีรุ้งเกิดขึ้น แกจะเรียกผมดูแล้วบอกว่าดูซิ
ิเห็นไม๊ รุ้งกินน้ำ ว่ามีคู่กันซ้อน2วงเสมอ
ชวดเล่าว่ามีตำนาน เล่าไว้ว่า....มีครอบครัว2ครอบครัว บ้า่นอยู่ติดกัน และเกิด2บ้านนี้ เกิดได้ตั้งท้องที่จะมีลูก ขึ้นมาพร้อมๆกัน วันบ้านนึงเกิดแพ้ท้อง มีอาการอยากกินส้มโอ ก็เลยไปขออีกบ้านนึงที่ปลูกและมีส้มโอที่กำลังออกลูก แต่บ้านนั้นไม่ให้ เพระาหวง ก็เลยมีความรู้สึกที่ระหองระแหง กันมาตลอด จวบจนมาถึวันนึง...ที่ทั้งสองครอบครัวได้ คลอดลูกกันออกมา
ฝ่ายที่มีสวนผลไม้นั้นได้ลุกผู้ชาย ..ส่วนอีกครอบครัวนั้นได้ลุกผู้หญิง
เวลาผ่านไป...ทั้งสองครอบครัวนี้ก็ยังทะเลาะเบาะแว้งกันมาตลอด จนกระทั้งเด็กทั้งสองคนนี้ได้เติบโตขึ้นเป็นหนุ่มสาว และได้ชอบพอแอบรักใคร่กันเพราะถูกกรีดกันจากพ่อแม่
ทำให้ทั้ง2ต้องแอบคบกันและสัญญา สาบานต่อกันว่าจะรักและอยู่คู่กันตลอดไป ถ้าเกิดไม่ได้ครองคู่ใช้ชีวิต
ด้วยกัน ก็จะเกิดขึ้นคู่กันให้ปรากฎเพื่อจะได้ให้พ่อแม่ของเค๊าได้เห็นในความรักที่เค๊ามีต่อกัน
ตลอดไป และวันนึง..มีเหตุใดอย่างนึงที่ <ผมจำไม่ได้แล้วนะครับ>
เด็กสาวที่โตมานั้นได้ตายลง ทำให้ ฝ่ายชายเศร้าเสียใจและ ได้ฆ่่าตัวตายตามไป
..ชวดผมบอกผมว่า ดูรุ้งที่สีสว่างๆที่อยู่ด้านในนั้นคือ รุ้งตัวผู้หญิง และ รุ้งที่สีไม่สว่างนั้น คือรุ้งตัวผู้ชาย
และที่สีของผู้ชายไม่สว่างนั้น เพราะผู้ชายทำบาปโดยการฆ่าตัวตาย เลยทำให้สีม่นหมอง ไม่สว่างสดใส
และสีของรุ้งกินน้ำนั้น จะสะท้อนเป็นลักษณะของกระจกให้สังเกตุดู
นะครับว่ารุ้งกินน้ำ จะมีสีที่ส่องกลับกัน
วงในที่เป็นที่เป้นตัวผู้หญิง จะมีสีฟ้าอยู่ในสุดและสีส้มอยู่นอกสุด
กลับกัน รุ้งตัวผู้ชายจะมีสีส้ม ด้านในสุดและสีฟ้าด้านนอกสุด..........
เพราะผู้หญิงถือกระจก ผู้ชายถือหวี
อย่าคิดมากที่ได้ฟังนะครับ เหมือนเป็นตำนานหรือนิทาน
ที่มีเรื่องแบบนมากมานี้ ี้อยู่เคียงคู่วิถีชีวิตคนไทยมาตลอด
 |
|
โดยคุณ มณีพระ (906) (1) [จ. 15 ก.ย. 2551 - 11:21 น.] | |
|