 (D)
....ภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนกันบนถนนสายหนึ่ง..อาจไม่ทำให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์น้ำตาไหล..ถ้าผู้เคราะห์ร้ายนั้นไม่เป็นแม่-ลูกเล็ก ..เช้าวันหนึ่งมีรถตู้ชนกับรถบรรทุก มีผู้เสียชีวิตทันที 15 คน อีก18คนบาดเจ็บ ... หนึ่งในผู้รอดชีวิตเป็นเด็กทารกเพศหญิงอายุเพียง 9 เดือน และแม่ของเขา
หลังเกิดเหตุ2วัน นักข่าวไปเยี่ยมสองแม่ลูกที่ ร. พ. พบเด็กน้อยที่นอนอยู่เตียงข้างๆแม่ที่หมดสติอยู่ได้ร้องไห้ไม่หยุดมาชั่วโมงกว่าแล้ว....นางพยาบาลจับมือที่เย็นเฉียบของหนูน้อยแล้วพูดเบาๆว่า "เด็กคงจะหิวนมแม่ " ผ่านไป2ชั่วโมงดูเหมือนแม่ที่นอนสลบอยู่ได้ถูกเสียงร้องของลูกปลุกให้ตื่นเสียแล้ว...แต่ไม่สามารถพูดหรือขยับเขยื้อนใดๆได้...มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมา...และจากแววตาที่พยายามบอกอะไรสักอย่างกับนักข่าว......เมื่อเห็นว่าเด็กยังร้องไม่หยุด นักข่าวจึงเข้าใจ "สาร" ที่แม่พยายามสื่อให้......นักข่าวจึงค่อยๆอุ้มเด็กไปไว้กับแม่พอเด็กน้อยได้ดูดนมจากอกแม่ที่แสนอบอุ่น ก็หยุดร้องทันที และตอนนี้อาการกระวนกระวายใจของแม่ก็ลดลงด้วย นางพยาบาลและนักข่าวที่มองดูอยู่ ต่างพาร้องไห้ตามๆกัน
.....เธอ ผู้เป็นแม่และลูกเป็นผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนั้น...แต่เธอ....เวลานั้นยังอยู่ในขีดอันตราย.....
เนื่องจากมีเลือดคลั่งในช่องท้องอย่างหนัก ประมาณ 600 ม.ล. และที่ลูกเธอบาดเจ็บไม่มากนักเพราะแม่คอยกั้นลูกไว้ แต่....แม้ความตายยังรอเธออยู่ข้างหน้า มันก็ไม่อาจขวางกั้นความรักของแม่ที่มีต่อลูกได้......
อีก2วันต่อมา....จึงรู้ว่า...หนูน้อยได้ดื่มนมแม่วันนั้น........เป็นมื้อสุดท้าย |