(D)
เพื่อนๆที่ชอบเล่นคอมฯ เวลาฝนตกอ่านทางนี้ (จริงหรือป่าวก็ไม่รู้อ่ะ)
เอ่อ....ก็ในช่วงนี้โดยเฉพาะกรุงเทพฯ มีฝนตกฟ้าคะนองกันบ่อย และทุก ๆ ปีจะต้องมี....ไม่คนรู้จักของข้าน้อยหรือเพื่อน ๆ โดนดีกัน อย่างไม่คาดคิด ก็ฟ้าผ่าไง ขอบอกกันไว้เลยนะว่าพวกเล่นเน็ตนี่แหละ ช่วงหลัง ๆ มีข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ชี้อย่างชัดเจนแล้วว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากฟ้าผ่า อยู่ในเมืองกรุง เทพมากขึ้นถึง 151.25 % จากเดิมที่มักจะเป็นกลุ่มชาวชนบทที่หลบฝนตามต้นไม้ใหญ่ ใส่เครื่องประดับ ตอนนี้กลายเป็น ผู้ที่เล่นคอม ขณะฝนฟ้าคะนองที่ร้ายที่สุด กว่าครึ่ง ไม่ได้อยู่ในเขตฝนฟ้าคะนอง แต่ฟ้าผ่าชุมสายโทรศัพท์ แล้ววิ่งมาตามสายโทรศัพท์เข้าบ้านจากนั้นมาลงคอมและกระโดดเข้าตัวผู้เล่น
อีกข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจคือจากแฟ้มบัณทึกการรับสินค้าเข้าซ่อมของ
ไอที-คลีนิค บริษัทในเครือสหวิริยา พบว่า ในช่วง เดือน พค. - กค. ของ2 ปี
ที่ผ่านมาได้รับของซ่อมด้วยอาการโดนฟ้าผ่า มากขึ้น มีข้อมูลแปลก ๆ ว่า เกือบ 45%ของของที่ส่งซ่อมด้วยอาการโดนฟ้าผ่า เจ้าของได้รับบาดเจ็บไปด้วย ส่วนที่เหลือ 40% โดนฟ้าผ่าขณะที่ไม่ ได้เปิดเครื่องใช้ ที่เหลือเป็นการโดนฟ้าผ่าขณะเครื่องเปิดใช้อยู่แต่เจ้าของไม่ได้รับบาดเจ็บ เออแปลกแต่มีเหตุผลนะ
เพื่อน ๆ คงแปลกใจว่าทำไมตัวเลขสถิติจึงออกมาแบบนี้ มาดูสาเหตุกันมั้ย เมื่อเกิดฟ้าผ่าขึ้น 1 ครั้งจะมีประจุไฟฟ้าจำนวนมหาศาล ซึ่งถ้าสามารถเก็บไว้ได้จะมากพอที่จะเลี้ยงเมืองกรุงเทพให้สว่างไสวกันได้ถึ ง2 วันเต็ม ๆ แต่เจ้าประจุนี้ ไหล ผ่านอากาศลงมาในช่วงเวลา เฉลี่ยเพียง .08 วินาทีโดยมันจะหาทางลงดินให้สั้นและง่ายที่สุด ถ้ามันลงตามยอดตึกก็จะวิ่ง ผ่านสายล่อฟ้าลงไปเป็นส่วนใหญ่และจะมีส่วนน้อยที่อาจกระโดดไปลงที่อื่น
ทีนี้ถ้าพื้นดินตรงสายล่อฟ้ามีความต้านทานสูงเช่นมีส่วนประกอบเป็นทราย ไม่มีความชื้น ฟ้าผ่าอาจลงดินไม่หมดและจะแยกสายออกมาลงที่อื่น
ซึ่งบางครั้งวิ่งไปตามพื้นดิน จนผู้คน / สัตว์ ในบริเวณนั้นได้รับบาดเจ็บกันทั่วหน้าแต่ถ้าเป็นในเมือง หากฟ้าผ่าลงตึกแล้ว สายดินไม่ดีทีนี้แหละมันจะกระโดดลงไปยังสายไฟฟ้า และโทรศัพท์ ซึ่งมีสายดินดีกว่า เพื่อลงสายดินที่ไกลที่สุดซึ่งจะอยู่ตาม โรงไฟฟ้าย่อย / ชุมสายโทรศัพท์ ทีนี้หากระหว่างทาง หากมันเจออะไรที่มัน จะลงดินได้มันจะวิ่งเข้าหาทันทีแน่ล่ะหากเป็นเพื่อน ๆ
นั่งเล่นคอมอยู่ก็โดนลูกหลงได้ไม่ยากดังนี้
1.เครื่องคอมสมัยใหม่ ๆจะมีแผงวงจรหลักเป็นแบบ ATX ซึ่งแม้เครื่องจะปิดอยู่ก็จะปล่อยไฟฟ้าจำนวน เล็กน้อยไหลเข้าเอาไว้เปิดเครื่องตามการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น Modem Ringin / Wake onlan ไม่เหมือนคอมสมัย AT ที่สวิตเปิดจะ เป็นการตัด - ต่อ วงจรไฟฟ้าของตัวจ่ายไฟในเครื่องเลย ซึ่งมีข้อดีคือ
เจ้าเครื่องแบบATนี้เมื่อปิดเครื่องแล้วคือไม่มีไฟไหลเข้าเครื่องเลย ทำให้เครื่องแบบ ATX จะโดนฟ้าผ่าเอาได้ง่าย ๆ
2.เพื่อน ๆ ที่นั่งเล่นคอมอยู่ รู้มั๊ยว่าอยู่ใกล้สายล่อฟ้าชั้นดีกว่าที่คิดเพราะอุปกรณ์ต่าง ๆ ในคอมส่วนใหญ่เป็นทองแดงชั้นดีและนำไฟฟ้าได้ดี ตัวเครื่องก็เป็นโลหะเกือบทั้งหมด สายไฟฟ้าอยู่ใกล้มือเพื่อนๆมากนั่นคือคีย์บอร์ดและเม้าส์ ถ้าฟ้าผ่าจับเปาะมาลงที่เครื่องของเพื่อน ๆ......เหอ ๆ ๆ
3.บ่อยครั้งที่เรามั่นใจว่า เอาน่าถอดปลั๊กไฟฟ้าออกแล้ว ไม่โดนฟ้าลงแน่ ๆ
แต่อนิจจา ลืมถอดสาย โทรศัพท์ออก มันก็ไม่ต่างอะไรกับไม่ถอดปลั๊กเลย
4.ประมาท ว่าเรามี เรามีปลั๊กไฟฟ้าที่มีระบบป้องกัน /มีUPS / มีสายดินดี
นี่คือการหาเรื่องตายอย่าง โง่ ๆ เพราะในเมื่อสายดินดี โอกาสที่สายฟ้าจะแวะมาลงที่บ้านท่านก็ย่อมสูงมากตามไปด้วย แต่สายดินดี ย่อมหมายถึงกระแสไฟฟ้าส่วนใหญ่จะลงไปที่สายดินแทนที่จะเป็นตัวเพื่อน ๆ แต่คิดดูให้ดีนะ ว่าหากเพื่อน ๆซวยขนาดหนัก ฟ้าลงใกล้บ้านท่านมาก ท่านคิดว่าสายดิน บ้านท่านจะสามารถถ่ายเทไฟฟ้าที่สามารถจ่ายให้เมืองกรุงได้ 2 วันเต็มๆ ได้ในชั่วพริบตารึเปล่า อยากวัดใจกับประจุไฟฟ้ามหาศาลกันมั๊ยเอ่ย
5.อยู่ไกลจากที่มีฝนฟ้าคะนอง เลยไม่คิดว่าจะโดนอันนี้ว่ากันไม่ได้เพราะมันดูปลอดภัยมาก แต่ก็นั่นแหละที่โดนกันก็เพราะ ว่าฟ้าน่ะมันผ่าตั้งไกล แต่มันวิ่งหาสายดินลงไม่ได้ซะทีมันก็เลยวิ่งของมันไปเรื่อย ๆ ตามสายไฟฟ้า/สายโทรศัพท์จนมาถึง บ้านท่านไงเพราะบ้านท่านใกล้ กว่าสถาณีไฟฟ้าย่อยมันก็เลยแบ่ง ๆ กันลงมาบ้างและนี่แหละที่จะบาดเจ็บและตายกันมาก เพราะมันไม่
มากพอที่ ฟิวส์ จะขาด แต่มากพอที่ จะกระโดดเข้ามือของท่านผ่านเม้าส์พุ่งตรงเข้าหัวใจ ออกปลายเท้ากันเลยทีเดียว
6.ที่ทั้งคนและเครื่องจะโดนฟ้าผ่ากันในช่วงเดือน พค-กค ก็เพราะ ทั้งอากาศ และพื้นดินไม่มีความชื้นเป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดฟ้าผ่าอย่างรุนแรงได้ เพราะอากาศไม่มีความชื้น ทำให้ความต้านทานไฟฟ้าสูงกว่า ฉะนั้นกระแสไฟที่จะกระโดดข้ามลงมา ต้องมากตามไปด้วย และเมื่อผ่าลงมาแล้วพื้นดินกลับมีความต้านทานสูง อีกเพราะมันยังแห้งอยู่ ทำให้ไฟฟ้าต้องหาทางลงดินหลาย ๆ ทาง
(สังเกตได้ ในช่วงต้น ๆ ของฤดู ฝน ผ่าที่ผ่าลงมาจะผ่ากันแรง ๆและมีหลายเส้นเหมือนรากไม้ แต่ช่วงกลางฤดูกลับผ่าลงมาเป็นเส้นเดี่ยว ๆ )
ความเป็นไปได้เมื่อตัวท่านมีโอกาสจะโดนฟ้าผ่าและโดนฟ้าผ่าไปแล้ว การที่ตัวท่านเปียกอยู่จะทำให้ท่านมีโอกาสโดนไฟฟ้าดูด/ฟ้าผ่าได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ท่านกลับมี โอกาสรอดสูงกว่า เพราะความต้านทานของผิวหนังน้อยกว่าทำให้ไฟฟ้าไหลผ่านไปตามผิวหนังได้ง่ายกว ่าที่จะเข้าหัวใจ (คนที่โดนกรณีนี้จะมีแผลไหม้รุนแรงตามผิวหนัง แต่ มักจะไม่ หมดสติและรอดง่ายเนื่องจากหัวใจและสมองไม่โดนไฟฟ้าดูด) ตรงกันข้าม หากตัวท่านแห้ง ท่านจะโดนไฟฟ้าดูด/ฟ้าผ่ายาก กว่า แต่ถ้าโดน ท่านก็รอดยากเช่นกัน เพราะผิวหนังท่านมีความต้านทานไฟฟ้า มาก ทำให้ไฟฟ้าไหลเข้าไปในอวัยวะต่าง ๆ มากและด้วยความต้านทานที่มากกว่า ทำให้เกิดความร้อน มากกว่า (คนที่โดนกรณีนี้ บางทีไม่มีแผลอะไรเลยแต่ตายสนิทเนื่องจากสมองสุก/หัวใจหยุดเต้น)
แล้วจะทำอย่างไร??
จำง่าย ๆ ถ้าเล่นคอมอยู่แล้วได้ยินเสียงฟ้าร้องหนัก ๆ มากกว่า 3 ครั้งใน ช่วง 2นาที ให้ปิดเครื่องถอดปลั๊กไฟฟ้าที่ต่อกับเครื่องคอม รวมถึงอุปกรณ์ต่อเชื่อมอื่น ๆ เช่น พรินเตอร์ ลำโพง จอภาพ ซึ่งส่วนใหญ่จะต่ออยู่บนรางปลั๊กสำหรับคอมอยู่แล้ว ก็ดึงสายของรางปลั๊ก ออกซะ...ที่สำคัญคือสายโทรศัพท์ที่เสียบกับโมเด็มอยู่ จัดการเสียอย่าลืมซะล่ะ |