เสริมอีกนิดนะครับ
ที่ว่าต้องครบองค์ 3 นั้น คงหมายเอาเฉพาะการทำบุญประเภทแรกครับ คือ ทานมัย (เช่น การถวายอาหาร/อื่นๆ แก่พระสงฆ์เป็นต้น) อธิบายย่อๆ ดังนี้.- ตัวเราเองในฐานะผู้ให้ ก็ต้องเป็นผู้มีศีลมีธรรม, ตัวผู้รับคือผู้ที่เราให้ของ ก็ต้องเป็นคนมีศีลมีธรรมเหมือนกัน ถ้าให้คนไม่มีศีลไม่มีความดีเช่นให้โจรผู้ร้ายฯลฯ ก็ได้ผลน้อย, และสิ่งของที่เราจะให้ก็ต้องเป็นของบริสุทธิ์ คือของนั้นต้องได้มาด้วยความสุจริต ไม่ใช่ได้มาโดยทุจริต เช่นลักขโมยปล้นเขามา, หรือเป็นสิ่งของไม่ดี เช่นของบูดของเสีย, ของเก่าชำรุดเสียหาย, หรือเป็นของที่ทำเป็นทานไม่ได้ เช่นพวกซีดีหนังโป๊ (อย่างกรณีมีข่าวมาเมื่อปีก่อน เอาหนังสือโป๊ยัดใส่ในถังสังฆทานถวายพระ บาปที่สุดครับ), วัตถุระเบิด ยาพิษฯลฯ นี่ก็เป็นของที่ไม่บริสุทธิ์เหมือนกัน เป็นการให้ของที่เลวไม่ดี ครับ
และเมื่อครบองค์ 3 พร้อม (บริสุทธิ์ทุกอย่าง) ดังกล่าว ตัวของผู้ให้เองก็ต้องมีเจตนาที่บริสุทธิ์ในกาลทั้ง 3 ด้วย คือ ปุพพเจตนา - ก่อนให้ก็ต้องมีศรัทธา, มุญจนเจตนา - ขณะให้ก็มีใจยินดี และอปราปรเจตนา - หลังจากให้ไปแล้ว ก็ไม่นึกเสียดายสิ่งของที่ให้ไป
ทำได้ครบทั้ง 3 อย่างสมบูรณ์แบบดังกล่าว ท่านว่าจะได้อานิสงส์(ผลบุญ) แรงครับ ถ้าทำบุญ (ทานมัย) เพื่อหวังเอาหน้าเป็นต้น แม้จะบริจาคไปสัก 10 ล้าน ท่านก็ว่าอานิสงส์ไม่มากเหมือนกัน
ส่วนการทำบุญอื่นๆ อีก 9 อย่าง ตั้งศีลมัย ภาวนามัย ก็ไม่เกี่ยวกับสิ่งของแล้วครับ จึงไม่เกี่ยวกับองค์ 3 ครับ
ขอทำความเข้าใจอย่างนี้ครับ
สาธุ... |
|