ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : สงสัยมั๊ย... ทำไมคนเราถึงดวงตก ?

(D)
หากท่านมีเวลาพอที่จะมองผู้คนรู้จักรอบข้าง จะสังเกตได้ว่า มีช่วงเวลาหนึ่งในชีวิต ที่เรียกว่าดวงตกสุดๆ ทำอะไรก็ไม่ดี เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ทั้งๆที่ คนๆนั้น ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด หรือมองว่าเขาทำอย่างตั้งใจแล้วทำไมไม่สำเร็จ ทำไมเรื่องร้ายๆ ต้องเข้ามาพร้อมๆ กัน

บางท่านอาจผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นมาแล้ว ซึ่งผมก็คิดว่าน่าจะเคยผ่านกันมาแล้ว ไม่มีใครอยากให้เกิดซ้ำ ลองคิดดูกันก่อนครับ แชร์ๆ ประสบการณ์หรือลองวิเคราะห์สาเหตุกันเล่นๆ ก็ได้ครับ โพสต์ๆ กันเอาไว้ อีกวันสองวันจะเข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลให้ครับ ขอดูก่อนมีคนสนใจตอบกระทู้นี้มั๊ย

ผมเคยนำคำถามนี้ถามกับ พระสายปฏิบัติ ที่ได้รับการจัดอันดับโดยหนังสือพระเครื่อง(ฉบับหนึ่ง) ว่าเป็นพระอริยะ 1ใน5 รูปที่มีชีวิตอยู่และน่าไปกราบ ลพ.จ้อย วัดหนองน้ำเขียว เรียกติดปากว่า ลพ.จ้อย ท่านอายุประมาณ 80ละครับ น่าจะเรียก ลป.จ้อยมากกว่า ท่านก็ให้คำตอบที่ผมค่อนข้างเคลียร์นะครับ เอ้า....ลองเสนอความเห็นกันครับ ไม่มีผิดไม่มีถูก แล้วแต่ความคิดท่าน

โดยคุณ yacool (3.1K)  [อา. 02 ก.ย. 2550 - 23:25 น.]



โดยคุณ manopd (1.8K)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 00:28 น.] #144710 (1/14)
ที่คุณ yacool เขียนมา...ตรงกับตัวผมจริงในช่วงนี้
ถ้าคิดกันดีๆ น่าจะเป็นเรื่องผลกรรมจากชาติก่อน หรือชาตินีที่เคยก่อไว้ ตามที่พระสงฆ์หลายๆ รูปกล่าวไว้
ที่ผ่านๆมาี้ก็หมั่นทำบุญ ใครขอความช่วยเหลืออะไรมา ที่พอช่วยได้ก็ช่วย ซองกฐิน/ผ้าป่ามีมาช่วยหมด...
เชื่อว่า...ต้องมีฟ้าหลังฝน บ้างซักวัน

เดี๋ยวขอจะรอดูว่าหลวงพ่อจ้อยท่านกล่าวไว้ว่าอย่างไรอีกครั้งครับ...

โดยคุณ suankularb (315)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 00:33 น.] #144714 (2/14)
อยากรู้คำตอบจัง ...

โดยคุณ suangorndang (2.3K)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 05:52 น.] #144791 (3/14)
เป็นธรรมชาติที่สุด มีเกิด มีดับ,มีขึ้น มีลง ทุกสิ่งล้วนเป็นธรรม ..............

โดยคุณ pukbigc (235)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 08:48 น.] #144835 (4/14)


(D)
ตอนนี้เลยครับกำลัง ประดังมาทีเดียวหลายๆเรื่องพร้อมๆกันก็มีเวปเนี้ยแหละครับเป็นเพื่อนไม่ยังนั้น คงเป่าหัวตัวเองไปแล้ว แต่มาคิดอีกทีไม่ใช้ใครเลยที่เอาความทุกข์มาใส่ใจถ้าเราไม่รับมันเสียอย่าง ไม่มีพายุลูกใดแรงได้ตลอดหรอกครับ เดี๋ยวมันก็อ่อนแรงไปเองแค่เหนื่อยหน่อย ยังมีอีกหลายคนบนโลกใบนี้ที่ เข้าเจอหนักกว่าเราข้าวจะกินยังไม่มี แต่นี่เราจะกินเท่าไหร่ก็ได้ไม่ลำบาก แต่ไม่เลือกที่จะกิน กับไปเลือกที่จะไม่กินพูดแล้วเหนื่อย ยังไงใส่ใจดูแลคนไกล้ชิดไว้ด้วยนะครับหมั่นเติม ความรักให้กันและกันเขาคนนั้นจะเป็น กำลังใจให้เราได้ดีเลยทีเดียว หลัง

โดยคุณ jackie (62)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 11:15 น.] #144889 (5/14)
อยากรู้เหมือนกันครับ กำลังเจอพอดีเลย

โดยคุณ ธนถัทร (865)(2)   [จ. 03 ก.ย. 2550 - 11:43 น.] #144912 (6/14)
เผอิญได้รับเมล์นี้มาเลยอยากให้เพื่อน พี่น้องสมาชิกได้ลองอ่านดูครับ น่าจะอยู่ในประเด็นเดียวกันหัวขอ้ ของกระทู้นี้ครับ
เรื่อง สร้างอานิสงส์ปลดชำระหนี้ เจ้ากรรมนายเวร
เจริญพร ญาติโยมพุทธบริษัทผู้มีจิตอันเป็นกุศล
คนเรานั้นเวียนวายตายเกิดมาหลายภพหลายชาติ แต่ละคนจึงมีเจ้ากรรมนายเวรที่ต่างกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ญาติโยมได้กระทำลงไป อาจจะจงใจ หรือประมาทพลาดพลั้งไปรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะด้วยกาย วาจา ใจ นั้นคือ ได้ล่วงเกินบิดามารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ พระอริยะสงฆ์เจ้า เทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้มีพระคุณ ทั้งหลาย รวมทั้งท่านเจ้ากรรมนายเวร ด้วย
อาตมาก็อยากให้ญาติโยมได้หยุดคิดสักนิดหนึ่ง ถึงต้นเหตุของปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตช่วงนี้ มีมากมายนั้นเกิดจากอะไร ต้นเหตุอันหนึ่งที่ญาติโยมอาจจะนึกไม่ถึง คือ ท่านเจ้ากรรมนายเวรที่กระทำไปแต่ชาติปางก่อนหรือในปัจจุบันของชาตินี้ คอยฉุดรั้ง และสร้างปัญหาให้การดำเนินชีวิต ตลอดเวลา
อาตมาจึงใคร่ขอบิณฑบาตร ญาติโยมได้อโหสิกรรมถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งต่าง ๆ และขอให้ถอนคำอธิฐาน คำสาบานที่ติดตามคู่มาในอดีตชาติ ให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน โดยการทำบุญสร้างอานิสงส์และขอขมากรรม แก่ท่านเจ้ากรรมนายเวรต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว ให้ลดและปลดชำระหนี้กรรมนั้นๆ ให้ลดน้อยลง หมดลงหรือตัดกรรมที่ติดตัวมา ซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะกรรมที่เกิดกับพ่อแม่ เพราะ เรานั้นไม่ว่าจะเป็น อภิชาตบุตร คือบุตรยิ่ง บุตรที่มีธรรมสมบัติยิ่งกว่าพ่อแม่ หรือจะเป็น อนุชาตบุตร คือ บุตรที่มีธรรมสมบัติเสมอกับพ่อแม่ แม้แต่ อวชาตบุตร คือ บุตรที่ต่ำช้าทรามปัญญา
อาตมาอยากให้ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบุตรทุกคน นึกถึงความรัก ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก การเลี้ยงลูกคือ "สัญชาตญาณ" ของผู้เป็นพ่อแม่ แต่ลูกที่กตัญญูกตเวทีต่อบุญคุณพ่อแม่นั้น เรียกว่า "คุณธรรมของลูก" ไม่ใช่สัญชาตญาณ เป็นคุณธรรมอันประเสริฐสูงยิ่งนัก ความรักที่พ่อ แม่มีให้ลูกจึงหาง่ายเหมือน "พลอย" แต่ลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่นั้นหายากเหมือน "เพชร" ใครมีพ่อแม่อยู่ในขณะนี้ ก็ได้ชื่อว่ามีพระอรหันต์เอาไว้ปกปักรักษาและให้ทำบุญที่บ้าน บางทีลูกก็รู้ตัว บางทีก็ไม่รู้ตัว เอาพ่อแม่เป็นเหตุให้ทำบาปหนักกว่าเก่า อวิชชาเลยพาให้มืดมิดคิดไม่แจ้ง หันหลังให้พระ หันหลังให้ธรรมะ หันหน้าไปหาแต่เรื่องอบายมุข ความสุขสนุกสนาน
บางครั้งมีเงินมีทอง เลี้ยงเหล้า เลี้ยงอบายมุขสังสรรค์กับเพื่อนฝูง เท่าไรไม่อั้น แต่ไม่มีเงินทองส่งเลี้ยงพ่อแม่ บางครั้งมีเงินทองส่งให้แต่ภรรยาหรือสามี ซึ่งเพิ่งพบเจอกันทีหลัง หวังดีกันทีหลัง แต่ผู้มีบุญคุณยิ่งใหญ่ ที่หวังดีตั้งแต่อยู่ในท้อง ลงทุนตั้งแต่ตอนต้นถือกำเนิดเกิดในครรภ์ ตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าลูก อดทนเลี้ยงดูรักษาไม่ให้อนาทรเดือดร้อน เงินทองที่จะส่งให้ท่านไม่มี แม้แต่เวลาจะไปเยี่ยมท่านก็ไม่ค่อยมี เราจะดูแลตอบแทนบุญคุณของท่านเวลาไหน ? ตอนท่านมีชีวิตอยู่ หรือให้ท่านสิ้นใจจากไปเสียก่อน เพื่อนขออะไรไม่เคยปฏิเสธเจตนาของเพื่อนทั้งสิ้น แต่พ่อกับแม่ขออย่างเดียว ขอให้ลูกเป็นคนดี ลูกให้พ่อกับแม่ไม่ได้ ถ้านึกไปข้างหน้าเราแก่เฒ่า ถ้าลูกของเราปฎิบัติอย่างที่เราในขณะนี้ เราจะมีสภาพเป็นอย่างไร จะอดทนได้เท่ากับพ่อแม่อดทนที่เห็นเราอกตัญญูหรือ
ของบางสิ่งบางอย่างที่เราหมดไป เราก็หาของใหม่มาแทนได้ แต่หากหมดพ่อแม่แล้วจะหาใครมาแทนได้ พอท่านสิ้นใจแล้ว เขาหามไว้ในโลงแล้ว ค่อยเอาข้าว เอาน้ำสองสามถ้วย มาวางไว้ใกล้โลง แล้วก็เคาะโลง บอกพ่อแม่ลุกมาทานข้าว เราจะเอาอย่างนั้นหรือ อาตมาก็ขอให้ญาติโยมผู้เป็นบุตรทุกๆคน ได้น้อมดวงจิต คิดดี พูดดี ทำดี เพ่งแผ่บุญกุศลไปให้ท่าน ท่านจะดีหรือไม่ดีเลิศ ไร้คุณธรรมอย่างไร ท่านก็เป็นผู้ให้กำเนิดเรามา เราติดหนี้บุญคุณของท่านแล้ว เพราะท่านเป็น "บูรพาจารย์" เป็นอาจารย์สั่งสอนคนแรกของลูก เป็น "บูรพเทพ" เป็นเทพยดาเทวดาองค์แรกที่ดูแลรักษาลูก เป็น "พระพรหม" ผู้มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาต่อลูก. และเป็น "พระอรหันต์" ของลูกคือมีใจประเสริฐใจสูงส่งต่อลูก
การได้น้อมจิตใจ ระลึกถึงพระคุณอันหาประมาณมิได้ของพ่อแม่ บุญของท่านทั้งสองจะมาถึงเรา แต่ถ้านึกถึงคนอื่นที่ไม่มีศีล ไม่มีธรรม ชีวิตเราก็จะย่ำแย่เสื่อมทราม เพราะจิตไปเกาะสิ่งที่ไม่ดี ชีวิตจะมีราศีดีหรือว่าจะอับเฉา อยู่ที่ใจเราดวงเดียวเป็นผู้นำพาไป จิตเตนะ นียะติ โลโก โลกอันจิตย่อมนำไป เราจึงควรฝึกจิตใจ ให้นำพาไปในทางดี ความดีจะได้รักษา แต่ถ้านำทางด้วยจิตไม่ดีจิตชั่วจิตร้ายมันจะพาเราลงตกต่ำ ชีวิตก็มีความหายนะ
เพื่อให้ผลบุญของการสร้างอานิสงส์ขอขมากรรม ได้ส่งผลให้การดำรงชีวิตของญาติโยมและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง ประสพแต่ความสุขความเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ปัญหาอุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ได้มลายสิ้นไป อาตมาจึงใคร่เชิญชวนญาติโยมได้มาร่วมทำบุญกับพระเณรที่วัด อาตมาจำวัดอยู่ที่ วัดศรีชมชื่น บ้านโนนดงมัน หมู่ที่ 6 ตำบลสะอาด อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นวัดสอนปริยัติธรรมแก่สามเณรที่ยากจน ผู้ด้อยโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียน จำนวนร้อยกว่ารูป เฉพาะสามเณรที่จำวัดอยู่วัดมี ๖๐ กว่ารูป ปัจจุบันอัตคัดเรื่องอุปกรณ์การเรียนและภัตตาหารฉันเช้าเพล สำหรับสามเณรเป็นอย่างมาก
ความดีทั้งหลายทั้งปวง จะได้โอบอุ้มคุ้มครองท่านทั้งสอง เป็นการทดแทนพระคุณของท่าน ทุกครั้งที่เบิกเงินซื้อบุหรี่สุราหรืออบายมุข อาตมาขอรับบริจาคจัตุปัจจัยเพียงเล็กน้อย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายซื้ออาหารสำหรับสามเณรได้ฉัน เป็นการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ด้วยเทอญ
หรือถ้าไม่สะดวกบริจาคผ่านทางบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาน้ำพอง เลขที่บัญชี 743-223254-2 ก็ได้ สำหรับญาติโยมพุทธบริษัท ที่ได้ร่วมบริจาคทำบุญดังกล่าวแล้วนั้น อาตมาก็ขออนุโมทนา สาธุ จงเจริญด้วยศีล สมาธิและปัญญา ขอให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองตลอดกาล นานเทอญ สาธุ .

ขอเจริญพร

ศิลา รกขิโต
(พระอาจารย์ ศิลา รกขิโต)

โดยคุณ ประชากรณ์ (0)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 12:11 น.] #144925 (7/14)

โดยคุณ leela (1.2K)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 16:12 น.] #144977 (8/14)


(D)
สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม

โดยคุณ yacool (3.1K)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 21:40 น.] #145232 (9/14)
หุหุ พี่ๆ ในเวปเราเก่งๆ หลายท่าน ความคิดเห็นมาถูกทางเลยครับ ถ้าใครไปกราบ ลพ.จ้อย ล่ะก็แนะนำให้นอนเยอะๆ เพราะท่านพูด / สอน จะอ้อมๆ ไม่ค่อยบอกตรงๆ กลัวเราไม่เอาไปคิดมั้ง ก็ดีครับถ้าเก็บมาคิดจะแตกประเด็นได้เยอะเลย เข้าเรื่องเลยครับ วันนั้นคนไปกราบท่านไม่มาก ผมเลยมีโอกาสได้ขอความเมตตาจากท่าน

ถาม "ทำไมช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา ต้องมีช่วงที่ดวงตกมาก"
ลพ.จ้อย ท่านเมตตาตอบว่า บุญกรรมโยม กรรมดีมันหมด อะไรๆ มันก็เข้ามาสิ

ถาม "มีทางแก้มั๊ยครับ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดซ้ำอีก"
ลพ.จ้อย ท่านเมตตาตอบว่า ทำบุญกับพระที่บ้าน ปีหนึ่งมี 52สัปดาห์ ถวายข้าวพระสัปดาห์ละวัน ปีหนึ่งก็สร้างบุญได้ 52วันแล้ว

เท่านี้ก็คงทราบที่มาที่ไปกันนะครับ เอาเป็นว่าขอเสนอความเห็นส่วนตัวผมนะครับ ถือเป็นการช่วยย่อยในส่วนนี้ ท่านอื่นจะได้นำไปย่อยได้ง่ายขึ้น

ทุกอย่างในโลกล้วนอยู่ใต้อำนาจกรรม กรรมเลวที่เคยสร้างใช่ว่าทำกรรมดีมาแล้วจะล้างหมด เพียงแต่.... อุปมากรรมดี เหมือนน้ำสะอาด กรรมเลวคือน้ำเสีย หากท่านมีน้ำสะอาดมากๆ มีน้ำเสียเล็กน้อย ก็คงแทบไม่รู้สึกอะไร เพราะมีกรรมดีช่วยชะล้างกรรมเลว ให้เบาบางลง ถึงจะส่งผลแต่ก็คละเคล้าไปกับกรรมดี หากจังหวะท่านไม่มีกรรมดี / น้ำสะอาด เลย กรรมเลว / น้ำเสีย เพียงเล็กน้อย ก็ส่งผลต่อท่านมาก (จริงมั๊ย) น้ำเสียอย่างเดียว(ไม่มีน้ำสะอาดเลย) ถึงแม้จะเล็กน้อย ขจัดยากครับ ช้ากว่าจะหมด ของเสียใหม่ก็เข้ามาทับถม แล้วจะเคลียร์กันยังไง

เอาเป็นว่าเติมกรรมดี / น้ำสะอาด ไว้ให้ตัวเองมากๆ นะครับ กรรมเลวจะมาเมื่อไรไม่รู้

ขอบอกว่า การทำบุญให้ได้ผลเห็นเด่นชัดในชาตินี้ (ตามความเห็นผมนะครับ) บุญกุศลที่เราทำไม่จำเป็นต้องเสียเงินก็ได้ เพียงแต่เราต้องมีความยินดีในการทำความดีนั้นๆ จิตใจเป็นสุขเมื่อได้ทำ เช่น คลุกข้าวที่เราทานเหลือให้หมาแมว ซึ่งปกติเราอาจจะรักสัตว์อยู่แล้ว เห็นมันกินอิ่มเข้ามาพันแข้งพันขาเรา แล้วขณะจิตนั้น เรารู้สึกเป็นสุขที่ยังให้มันอิ่ม และหมาแมวมันเป็นสุข ชั่วขณะจิตนั้นละครับ เป็นการอนุโมนทนาผลบุญที่เร็วมากๆ ส่งผลแน่นอน อย่างน้อยที่สุดจิตใจที่เป็นสุขก็เป็นน้ำดีที่มาล้างใจแล้วครับ

โดยคุณ sarayoot (320)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 22:35 น.] #145292 (10/14)
อมิตตพุทธ...

โดยคุณ tee-zung (844)  [จ. 03 ก.ย. 2550 - 22:43 น.] #145317 (11/14)
อู้.หู..เยี่ยมมั่กๆ..ครับ..//.อ่านแล้ว.ได้คิด..ซึ้งครับ.

โดยคุณ leela (1.2K)  [อ. 04 ก.ย. 2550 - 00:26 น.] #145547 (12/14)
ทุกวันนี้ทำบุญ แล้วได้วัตถุมงคลจตุคามเป็นสิ่งตอบแทน ขายได้กำไรเอา ขาดทุน บางคนพากันทวงบุญคืนเป็นแถว
ทุกวันนี้ ใจไม่เคยคิดทำบุญ คิดแต่เข้ามาเกร็งกำไรจากการทำบุญ กรรมตามสนองแล้วครับ

โดยคุณ world (2.1K)  [อ. 04 ก.ย. 2550 - 12:58 น.] #145712 (13/14)
ขอบคุณมากครับเข้ากระทู้นี้ได้แง่คิดดีๆเพียบ

โดยคุณ พรวศิน (1.5K)  [อ. 04 ก.ย. 2550 - 17:57 น.] #145883 (14/14)


(D)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www5