ร่วมเสนอความคิดเห็น
หัวข้อกระทู้ :
หลังเบี้ยแก้ รูปอะไรครับ
(N)
เพิ่งได้มาเบี้ยแก้ หลวงปู่จันทร์ วัดซับน้อย
ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าหลังเบี้ยแก้เป็นรูปอะไร
ใครพอรู้บ้างครับ
โดยคุณ
อากู๋
(
59
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 12:29 น.]
โดยคุณ
superbid
(
245
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 12:35 น.] #3508392 (1/29)
ผมเห็นรูปฤษีถืออะไรสักอย่างคล้ายตาลปัตร
โดยคุณ
Na-Uttaradit
(
1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 13:16 น.] #3508442 (2/29)
รูปพ่อปู่ฤษีหรือเทวดาถือพัดหรือเปล่าครับ
โดยคุณ
sakda2
(
928
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 13:41 น.] #3508454 (3/29)
(N)
ผมก็ยังดูไม่ออกครับเห็นแต่ตาลปัตร
โดยคุณ
อากู๋
(
59
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 14:14 น.] #3508470 (4/29)
(N)
ชักเข้าเค้าว่าเป็นรูปฤาษีถือตาลปัตร
โดยคุณ
looknam1
(
2.6K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 14:17 น.] #3508472 (5/29)
รายการจัดสร้างเขาว่าไว้ครับ
--------------------------------
เคล็คลับวิชาของท่าน ที่ได้เรียนจากบูรพาจารย์ของท่าน โดยเลือกสรร วัตถุต่างๆดังนี้ เบี้ยจั่น ที่ได้อายุ มีซี่ฟัน 22-24-32 ซี่และตายเองตามธรรมชาติ ปรอทธาตุกายสิทธิ์ที่ดัก และ เรียกมาตามธรรมชาติ ชันโรง สะสารกายสิทธิ์พิเศษ ที่มีความดีเด่นทาง ยึดติด ความเป็นมงคล ขี้ครั่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มีอิทธิคุณในด้านคงกระพัน เสน่หา เมตตา มหานิยม และ มวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เป็น ปฐวีธาตุสถานที่มงคล ๔ ภาค ตะกรุด ๔ ธาตุ สายสิญจน์ ๙ พิธี ทองแดง ปลุกเสกและยังได้อัญเชิญบรมครูปู่ฤษีนารอด ยอดบรมครู มาประดิฐไว้ด้านหลัง ซึ่งท่านฤษีนารอดนี้ ท่านมีตบะเดชะบารมี เด่นทางโชคลาภ เมตตา มหานิยม เป็นเลิศ หากใครบูชาแล้วจะเกิดโภคทรัพย์มากมาย วิชาการสร้างเบี้ยแก้หลวงปู่จันทร์ จะเป็นตำนานศักดิ์สิทธิ์ในเวลาปัจจุบันและต่อไปในอนาคต เครื่องรางแห่งสยามประเทศ ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ปาฏิหาริย์อันโดดเด่นเป็นที่สุด
---------------------------------------------------------------------------------
โดยคุณ
looknam1
(
2.6K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 14:21 น.] #3508475 (6/29)
(N)
ดูแล้วลองร่างคร่าวๆได้ประมาณนี้ครับ
โดยคุณ
อากู๋
(
59
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 14:24 น.] #3508476 (7/29)
โอว.....ขอบคุณพี่ลูกน้ำมากครับ ชัดเจน....
โดยคุณ
ข้าวไทย
(
2.2K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 14:30 น.] #3508477 (8/29)
(N)
น่าจะใช่ครับ
โดยคุณ
กากยา
(
31
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 14:44 น.] #3508485 (9/29)
สวยดีครับ
โดยคุณ
พาทิศ
(
1
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 15:24 น.] #3508502 (10/29)
จริง ๆ พวกเบี้ยแก้ทั่ว ๆ ไป ถ้าให้สร้างตามตำหรับจริง ๆ หน่ะ มันสร้างยากมากหรือสร้างไม่ได้เลยดีกว่า เดี๋ยวนี้ส่วนมากจะผลิตสำเร็จรูปจากโรงงานมาปลุกเสกเอา ก็คิดว่าน่าจะแทนกันได้ ขนาดเบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่ม ยังไม่ใช่ปรอทดักธรรมชาติเลย ใช้ปรอทโรงงานทำ ซึ่งก็แทนกันได้
โดยคุณ
เด็กลพบุรี
(
1.2K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 16:58 น.] #3508539 (11/29)
โดยคุณ
อากู๋
(
59
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 17:16 น.] #3508543 (12/29)
พอดูออกว่าเป็นรูปอะไร ปุ๊บ ดูสวยขึ้นมาทันทีเลย 55555
เข้มขลัง ๆ
โดยคุณ
uthai08
(
2.5K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 18:59 น.] #3508606 (13/29)
************************************
..พี่อากูู๋ครับ..ขอผมดูสักอันแบบใกล้ๆ..ได้มั้ยครับ..
โดยคุณ
อากู๋
(
59
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 21:50 น.] #3508869 (14/29)
ได้ครับ พอดีผมมีอันเดียว ขอเชิญมาดูใกล้ๆ ได้เลย อิอิอิ
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:15 น.] #3508973 (15/29)
(N)
เบี้ยแก้...เบี้ยกัน...บันดาลโชค...รวยล้นเหลือ
เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง ที่ผ่านการปลุกเสกจากคณาจารย์ต่างๆ เครื่องรางชนิดนี้ต้องใช้เบี้ยจั่นมาบรรจุปรอท ซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งได้จากธรรมชาติ ในบางคณาจารย์จะบรรจุมวลสารแตกต่างกันไป เช่น มวลสารศักสิทธิ์ต่างๆ นานา แล้วแต่คณาจารย์ท่านใดจะนำมวลสารอะไรมาบรรจุ แต่ที่เป็นหัวใจของเบี้ยที่จะขาดเสียมิได้คือ ปรอท ที่เป็นปรอทธรรมชาติ อุดด้วยชันโรงหรือขี้ครั่ง แล้วนำไปปลุกเสกตามวิทยาคมของพระเถราจารย์ที่ทรงวิทยาคม เชื่อกันว่าถ้าใครมีเบี้ยแก้พกพาติดตัว จะมีอิทธิคุณต่างๆมากมาย เช่น แก้คุนไสย มนต์ดำต่างๆ ภูติผี แก้ยาสั่ง ปกป้องลมเพลมพัด ป้องกัน สัตว์ เขี้ยว งา รักษาบาดแผล แคล้วคลาด คงกระพัน เป็นมหาเสน่ห์ โชคลาภ และยังป้องกันไข้ป่าได้อีกด้วย ดังนั้น เบี้ยแก้ จึงเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกับเมืองสยามมาตั้งแต่อดีตกาล
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:15 น.] #3508976 (16/29)
(N)
เบี้ยแก้...เบี้ยกัน...บันดาลโชค...รวยล้นเหลือ
เบี้ยแก้ เบี้ยกัน บันดาลโชค รวยล้นเหลือ หลวงปู่จันทร์ได้นำตำรับตำรา วิชา วิทยาคม พุทธคุณ ของบรมครูในอดีตกาล มาจัดสร้างอย่างถูกต้องตามวิธีการอย่างถี่ถ้วน การรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ในที่สำคัญต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นมวลสารที่เป็นมงคล มีอิทธิคุณสูงยิ่ง เพื่อให้เบี้ยแก้ได้มีพลังแห่งมงคล มีพลังธาตุที่สมบูรณ์ เพื่อใช้เป็นเบี้ยแก้อันศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธคุณเลิศล้ำแด่ท่านที่บูชาอย่างแท้จริง
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:16 น.] #3508978 (17/29)
(N)
มวลสารต่างๆ ที่ได้นำมาจัดสร้างเบี้ยแก้ ในวาระนี้ประกอบด้วย
หอยเบี้ย หรือเบี้ยจั่น ในการคัดเลือกตัวเบี้ยนั้น ที่จะนำมาจัดสร้างเบี้ยได้คือการนับซี่ฟันของตัวเบี้ยให้มีซี่ฟัน ๒๒ ซี่ หรือ ๒๔ ซี่ หรือ ๓๒ ซี่ นอกจากนับซี่ฟันแล้ว จะต้องคัดเลือกตัวเบี้ยที่ได้อายุหรือหมดอายุขัย คือ ตายเองตามธรรมชาติเท่านั้น เบี้ยที่ได้คัดเลือกเช่นนี้แล้วถึงจะนำมาจัดสร้างได้ ถือว่าเป็นตัวเบี้ยที่มีดีในตัว ในสมับโบราณบรมครูต่างๆ ความเชื่อของไทยเราเชื่อว่า เบี้ยที่มีดีในตัวนั้นจะสามารถป้องกันคุณไสย ลมเพลมพัด หรือยาสั่งต่างๆได้ แม้กระทั่งป้องกันแมงกินฟันในเด็ก เหตุนี้คนสมัยโบราณหรือคณาจารย์ในอดีตจึงเอาเบี้ยจั่นมาบรรจุปรอทซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์อีกชนิดหนึ่ง ประกอบกับตัวเบี้ย มีเปลือกที่แข็งแรง คงทน และตัวพอประมาณ ทำให้เก็บรักษาปรอทได้ง่าย
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:17 น.] #3508981 (18/29)
(N)
มวลสารที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งในการสร้างเบี้ยแก้ ปรอท ธาตุกายสิทธิ์ หลวงปู่จันทร์ ท่านบอกว่า หัวใจของการสร้างเบี้ยแก้ให้มีอิทธิคุณ คือปรอทธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธรรมชาติ ครูบาอาจารย์ท่านระบุไว้ตามตำราว่า ปรอท คือธาตุกายสิทธิ์ที่สามารถป้องกันสัตว์ป่า คุณไสย ลมเพลมพัด สามารถใช้เป็นเครื่องราง ในด้านคงกระพันชาตรี และเกิดโชคลาภ ใช้ในการเดินป่าซึ่งมีอันตรายอยู่รอบด้านอย่าง เสือสมิง หรือ ภูติต่าง ๆ จะไม่สามารถทำอันตรายได้ รวมทั้ง เขี้ยว งา ไข้ป่าอีกด้วย และยังสามารถรักษาแผลได้ด้วย
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:17 น.] #3508982 (19/29)
(N)
การที่จะได้ปรอทมาในการจัดสร้างครั้งนี้ ต้องใช้เวลานานนับหลายปี เพื่อรวบรวมปรอทจากธรรมชาติให้ได้พอที่จะจัดสร้างเบี้ยในวาระนี้ เพราะการกักปรอทธรรมชาตินั้นต้องมีพิธีกรรมอย่างถูกวิธีการ และความอดทนอย่างสูง เพื่อให้ได้ปรอทจากธรรมชาติแท้ๆ ที่ระบุไว้ตามโบราณกาล ถูกต้องตามตำราของครูบาอาจารย์ เริ่มจากการเลือกสรรพไข่ไก่ เป็นไก่ชนโบราณหรือไก่สยามไทย ที่เน่าเสีย เจาะรูเล็กๆ ไว้สองข้าง เอาสายสิญจน์ที่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงปู่จันทร์มาหลายปีผูกติดกับไม้ไผ่ ที่เรียกว่าไม้ไผ่สีสุขที่ผ่าง่าม ปักไว้ริมคลอง ริมแม่น้ำ หรือลำธาร แต่จะต้องเป็นสถานที่สงบ ร่มเย็น ไม่มีคนพลุกพล่าน หรือสถานที่ที่เรียกว่า สัมปายะ เพราะปรอทจะไม่ชอบเสียงที่ดังต่างไปจากธรรมชาติ การใช้ใข่ไก่นั้นหลวงปู่จันทร์ท่านเล่าว่า นิสัยของปรอทจะชอบกินของสองอย่างคือ ของต่ำ และ ของสูง ควบคู่กันไป เช่น ของเน่า ที่เป็นของต่ำ ของสูง เช่น ทองแดง ทองเหลือง เงิน หรือแม่แต่ทองคำ การที่ใช้ใข่ไก่นั้น ปรอทจะเข้าไปตามรูเล็กๆ ที่เจาะไว้ เพื่อเข้าไปกินเนื้อข้างในไข่ขาว ไข่แดง ที่เน่าเสีย เมื่อเข้าไปกินเนื้อในของไข่ในลักษณะของไข่ไก่ตามแนวนอน จะมีรูปโค้งเว้า ปรอทจะเข้าไปนอนอยู่ในไข่ไก่ ไข่ไก่นั้นมีเปลือกโอบรอบ จึงเป็นสิ่งที่จะกักปรอทได้ดีที่สุด
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:18 น.] #3508984 (20/29)
(N)
เมื่อหาทำเลและหาที่รองเพื่อดักปรอทได้แล้ว จึงนำไข่ไก่ที่ผูกกับสายสิญจน์เสกหลวงปู่จันทร์เสกมาตลอดหลายปีผูกติดกับไม่ไผ่มงคลที่ชื่อว่า ไผ่สีสุข แล้วนำไปปักริมน้ำ ทำพิธีขออนุญาติพระแม่คงคา เพื่อนำธาตุกายสิทธิ์ขึ้นมาอย่างได้ผล ต่อจากนั้นท่องคาถาเรียกปรอท ๓ จบ นั่นคือ เกศา โรมา นะขา ทันตา ตะโจ ตะโจ มังสัง กิโลมะกัง บุปผาสัง อันตัง อันตะคุณัง กะรีสัง ปิตตัง เสมหัง บุปโพ โรหิตัง เสโธ เมโธ อะสุวะรา เขโร สังคานิกา ระสิกา บุตตัง มัตตะรุงกันติ แล้วปักไว้ ๗ เพลา ๙ เพลา หรือตามที่กำหนดและละปรอท เมื่อได้ปรอทมาตามต้องการนั้น หลวงปู่ท่านบอกว่า ปรอทที่นำมานั้น ยังไม่บริสุทธิ์เพราะกินของเน่าอยู่ จะต้องนำมาทำให้ปรอทบริสุทธิ์เสียก่อน มิฉะนั้น ปรอทจะมีพิษ ทำอันตรายเราได้การที่เราจะให้ปรอทบริสุทธิ์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านว่า การฆ่าปรอท คือการนำปรอทที่ได้มาใส่ภาชนะดินเผาเคลือบ เขียนยันต์ที่ปรอท นะมะพะทะ ด้วยไม้ไผ่สีสุข ใส่ข้าวสุกปากหม้อ ขอพระแม่โพสพ ล้างพิษปรอท หลังจากการแช่ปรอท ข้าวสุกจะกลายเป็นสีดำ จากนั้นกรองปรอทออกใส่ภาชนะดินเผาเคลือบ นำน้ำปลาร้าใส่ลงไป แช่ที่ปรอทไว้เป็นเวลา ๑ คืน เมื่อครบเวลา ซาวให้ได้ดี และนำปรอทออกใส่ภาชนะดินเผาเคลือบ นำมะนาวบีบไปในปรอทอีก และได้สักพักจึงนำปรอทมากรองออก เมื่อถึงขั้นตอนนี้ ปรอที่ได้คือปรอทบริสุทธิ์ ปรอทที่ผ่านพิธีการทำให้บริสุทธิ์แล้ว ปรอทนั้นก็ยังคงไม่มีฤทธิ์ สิ่งที่ทำให้ปรอทนั้นมีฤทธิ์หรือมีดีในตัวนั้น จะต้องเลี้ยงด้วยทองคำ จึงนำปรอทใส่ภาชนะดินเผา นำทองคำแท้ใส่ลงไปในปรอท เพื่อให้ปรอทได้กินของสูง จึงจะได้ปรอทที่สมบูรณ์พร้อมการบรรจุลงเบี้ยแก้
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:18 น.] #3508986 (21/29)
(N)
ในการจัดสร้างครั้งนี้ ยังมีมวลสารอีกชนิดหนึ่งที่สำคัญ และเป็นที่นิยมหลวงปู่จันทร์ท่านบอกจะขาดเสียไม่ได้คือ ชันโรง ที่มียางเหนียวแน่น บรมครูของหลวงปู่ชอบนำมาเป็นมวลสาร หรือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวัตถุมงคลอยู่เสมอ เช่น การอุดฐานพระชัยวัฒน์ และการสร้างเบี้ยแก้ และอื่นๆอีกมากมาย ด้วยเหตุว่า การเอาชันโรงมาติดนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งที่บรรจุในองค์พระหลุดออกไป รงมถึงเบี้ยแก้ที่นำชันโรงมาปิดเพื่อมิให้ปรอทหลุดหล่นไปจากตัวเบี้ย ครูบาอาจารย์จึงถือว่า ชันโรงคือวัตถุกายสิทธิ์ที่ติดเหนียวแน่น เป็นผู้รักษาสิ่งที่เป็นมงคลนั้นๆ ไม่ให้หลุดหายไป จึงถือได้ว่าชันโรงนั้นเป็นธาตุกายสิทธิ์ ที่เกิดจากธรรมชาติ และเป็นมงคลอย่างยิ่งอีกชนิดหนึ่ง
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:19 น.] #3508987 (22/29)
(N)
มาถึงมวลสารอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์อีกชนิดหนึ่งของการจัดสร้างเบี้ยแก้ในวาระนี้ คือ ขี้ครั่ง ขี้ครั่งเป็นธาตุกายสิทธิ์เช่นเดียวกับชันโรง เป็นชื่อแมลงชนิดหนึ่งที่อาศัยตามต้นไม้ต่าง ๆ เช่น จามจุรี (ก้ามปู) และพุทรา หลวงปู่จันทร์ท่านบอกบรมครูหลางองค์ท่านมักจะนำครั่งมาให้ทำวัตถุมงคลอยู่เสมอ เช่น หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ท่านนำครั่งพุทธามาจัดสร้างวัวธนู เพื่อรำลึกถึงพระโพธิ์สัตว์ หรือโคดำ ในอดีตชาติของพระพุทธองค์ ชื่อว่า โคสุภราช เถราจารย์องคที่สองท่านเก่งเรื่องปลุกเสกครั่งให้มีอิทธิฤทธิ์ คือหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี ท่านมักจะนำครั่งมาพอกตะกรุด ติดหลังเหรียญ และวัตถุมงคลอีกหลายชนิด เช่น ลูกอม ก็มีเช่นกัน และฐานพระต่างๆ ด้วยเคล็ดลับที่ว่า เหนียวแน่นมีความคงทน เป็นธาตุกายสิทธิ์ สะสาร อีกชนิดหนึ่ง อยู่ในที่ร้อนจะอ่อนโยนในตัวเอง อยู่ในที่เย็นจะแข็งแกร่ง และมีความเป็นเอกในด้าน ยึดความเป็นมงคลให้อยู่ยงตลอดไป เคล็ดลับนี้จึงครบถ้วนเป็นมงคล องค์ที่สามจะไม่กล่างถึงก็คงไม่ได้ บรมครูครั่งที่จะต้องกล่าวถึงท่านอีกองค์หนึ่งนั้นก็คือ หลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร สมุทรสาคร เถราจารย์ท่านนี้คือบรมครูครั่งองค์หนึ่งในสยาม มักจะนำครั่งมาจัดสร้างวัตถุมงคลอยู่เสมอและหลายอย่างด้วยกัน เช่น พระปิดตาและลูกอม ครั่งที่โด่งดังและหายากมาก ท่านยังจัดสร้างพระพิมพ์ต่างๆ อีกมากมายหลายพิมพ์ ด้วยเคล็ดลับที่ว่ายึดในความคงทน ความอ่อนโยน มีเมตตา ในยามร้อนรน เข้มแข็ง แกร่ง ในความเยือกเย็น ยึดแน่นในความดีงาม ยึดแน่นในสิ่งที่เป็นมงคล
ดังนั้นคุณสมบัติของครั่งที่หลวงปู่จันทร์ ได้นำมาจัดสร้างเบี้ยแก้ นั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่าจะโดดเด่นเป็นมงคลเพียงไร
ในการจัดสร้างเบี้ยแก้ในวาระนี้ ยังมีมวลสารสำคัญที่จะส่งเสริมธาตุกายสิทธิ์ให้สมบูรณ์ ให้ได้มาซึ่งเบี้ยแก้ที่สมบูรณ์ตามตำราสายหลวงปู่จันทร์ยังมีอีกหลายชนิดด้วยกัน
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:19 น.] #3508990 (23/29)
(N)
อธิเช่น ปฐวีธาตุ ๔ ภาค เช่น ภาคกลาง ปฐวีธาตุที่วัดไชโยวรวิหาร และปฐวีธาตุที่ค่ายบางระจัน ปฐวีธาตุภาคเหนือ ที่พระธาตุแช่แห้ง ภาคอีสาน ปฐวีธาตุที่เขาพนมรุ้ง ภาคใต้ ปฐวีธาตุที่เจดีย์นครศรีธรรมราช และมวลสารเก่าของตะกรุดมหาพุทธาคมที่ครูบาอาจารย์ปลุกเสกไว้ อย่างเช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่อทบ วัดชนแดน หลวงพ่อเขียน สำนักขุนเณร นอกจากปฐวีธาตุทั้งหมดทั้งมวลแล้วนั้น ก็ยังมีตะกรุด มีธาตุที่ได้รับการปลุกเสกเพื่อบรรจุลงในเบี้ยอีกตัวละ ๔ ดอก เป็น ดิน น้ำ ลง ไฟ นะ มะ พะ ทะ เพื่อส่งเสริมธาตุให้สมบูรณ์เติมพลังความเข้มขลัง
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:20 น.] #3508991 (24/29)
(N)
มวลสารที่บรรจุลงไปในตัวเบี้ยอีกชนิดหนึ่ง คือ ทองคำแท้ เป็นแผ่นเพื่อส่งเสริมให้ปรอทมีอิทธิฤทธิ์ที่สมบูรณ์แบบ เต็มพลังเช่นกัน และที่สำคัญคือ การบรรจุเกศาหลวงปู่จันทร์และจีวรของท่านลงไปในการสร้างเบี้ยแก้ในวาระนี้ด้วย
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:21 น.] #3508994 (25/29)
(N)
หูเบี้ยทองแดง ผ่านการปลุกเสกอย่างเข้มขลัง ถักด้วยสายสิญจน์ ๙ พิธี ทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือความศักสิทธิ์เข้มขลัง เป็นมหามงคล ของการจัดสร้างเบี้ยแก้ในวาระนี้ ลักษณะตัวเบี้ยในการจัดสร้างครั้งนี้นั้น หลวงปู่จันทร์ ท่านได้อัญเชิญพ่อปู่ฤษีนารอด มาประทับอยู่หลังเบี้ยแก้ พ่อปู่ฏษีนารอด ซึ่งเด่นในทางตบะ เถระ บารมี ในทางอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด เสน่หา เมตตา มหานิยม โชคลาภ ปลอดภัยไกลศัตรู ดั่งคำที่ว่า
พระฤษีนารอด บรมครูยอดฤษี
เมตตาตบะบารมี สุดที่จะพรรณา
โดยคุณ
แมนลพบุรี
(
1.1K
)
[ศ. 24 ต.ค. 2557 - 23:21 น.] #3508995 (26/29)
(N)
ท่านใดได้บูชาบรมครูฤษีนารอดด้วยความศรัทธา หรือแม้การบนบานศาลกล่าว ขอโชค และกิจการต่างๆได้ ให้เจริญก้าวหน้า จะได้ตามประสงค์ เป็นที่ร่ำลือในความศักสิทธิ์ของปู่ฤษีนารอด แพร่กระจายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป บุคคลที่ศรัทธาและเชื่อในตบะ เถระ บารมีของปู่ฤษีนารอด ได้ดี เป็นดารา นักแสดง ลิเก พ่อค้า คหบดี นักธุรกิจต่างๆ และท่านที่ชอบสักยันต์ พ่อค้า แม่ค้า คนที่ตกอับ และดวงตก ดวงแตก บุคคลที่อยากให้กิจการต่างๆ ลุล่วงมีผลกำไรดี บุคคลที่ทำงาน การเข้าหาผู้ใหญ่ และผู้ทำการงานในด้านการพบปะ ติดต่อ ธุรกิจการค้า ท่านเหล่านี้เหมาะสมกับการบูชา บรมครูปู่ฤษีนารอดเป็นอย่างยิ่ง
จึงนับได้ว่าการจัดสร้างเบี้ยแก้ในวาระนี้ คืออัครมหามงคล เครื่องรางของขลัง ที่รวบรวมมวลสารต่างๆได้สมบูรณ์ที่สุดครั้งหนึ่ง ตามตำราหลวงปู่จันทร์ จะหาการสร้างเบี้ยแก้ที่สมบูรณ์เช่นนี้ได้ยากยิ่งนัก ด้วยพลังแห่งมวลสารต่างๆ และพลังแห่งบรมครูเกื้อหนุนให้เบี้ยแก้ในวาระนี้ ซึ่งเป็นศิลปะโบราณที่มีคุณค่าด้วยความดำริของหลวงปู่จันทร์ ฐิตาจาโร แห่งวัดซับน้อย ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จะรักษาตำราแห่งไสยเวทย์ และพุทธาคม วิทยาคมต่างๆ ให้คงอยู่ต่อไป และยังได้เกื้อหนุนศิษยานุศิษย์ที่จะได้บูชาวัตถุมงคลที่สมบูรณ์พูลผลถูกต้องตามตำรับตำราในอดีตกาลของบรมครูผู้สืบทอด มาแต่ครั้งอดีต เพื่อฝากไว้บนแผ่นดินสยามอีกวาระหนึ่ง
คาถาบูชาพระครูฤษี
นะมัสสิตตะวา อิสิสิทธิโลกะนาถัง
อะนุตตะรังอิสิจะ พันธนัง สาตรา
อะหังวันทามิ อิมิสิทธิเวทสะ
เบี้ยแก้ เบี้ยกัน บันดาลโชค
ไร้ซึ่งโรคภัย คุณไสยทำ
หมู่ศัตรูจับผิด ไม่คิดล้ำ
โภคทรัพย์เป็นกอบกำ ดั่งคำครู
เรื่องราวของเบี้ยแก้เมืองเพชรบูรณ์ จะเป็นตำนานปฐมบทที่เริ่มแรกที่จะเป็นยิ่งกว่าตำนาน
โดยคุณ
อากู๋
(
59
)
[ส. 25 ต.ค. 2557 - 00:02 น.] #3509013 (27/29)
สุดยอดเลยครับ ข้อมูลการสร้างเบี้ยแก้ ที่ละเอียดขนาดนี้ เพิ่งเคยได้รับรู้จริง ๆ
ขอบคุณมากครับ
โดยคุณ
uthai08
(
2.5K
)
[ส. 25 ต.ค. 2557 - 11:02 น.] #3509248 (28/29)
..สุดยอดพิธี....
..ต้องมีๆๆๆๆๆ...
โดยคุณ
เพรชจีน
(
832
)
[ส. 25 ต.ค. 2557 - 14:53 น.] #3509390 (29/29)
!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!
Copyright ©G-PRA.COM
www5