ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : การตรวจคาร์บอน14

(N)
สทน.เตือนผู้นิยมพระเครื่อง เสี่ยงถูกหลอกขายพระ อ้างส่งสถาบันตรวจคาร์บอน-14 วัดอายุว่า “เก่าจริง” แต่ความจริงไม่ได้ส่ง และแสดงใบตรวจปลอม

สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เตือน ผู้นิยมเช่าพระเครื่อง หรือ ผู้สนใจพระเก่าระวังถูกหลอกขายพระราคาแพง โดยอ้างว่า นำมาตรวจอายุกับสถาบันแล้วเก่าจริง พร้อมทั้งแสดงใบรับรองปลอมหรือตัดต่อใหม่ เพื่อหลอกขายพระแก่ผู้ซื้อในราคาเกินจริง

ดร.สมพร จองคำ ผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ หรือ สทน.เปิดเผยว่า สทน.ให้บริการตรวจสอบอายุโบราณวัตถุ โดยใช้เทคนิคเชิงนิวเคลียร์ที่เรียกว่า การวัดอายุคาร์บอน (Carbon Dating) ซึ่งเป็นการวัดปริมาณการสลายตัวของธาตุคาร์บอน -14 ในวัตถุที่เป็นส่วนประกอบของโบราณวัตถุชิ้นนั้นๆ เพื่อกำหนดอายุ และออกใบรับรองให้

นอกจากกรมศิลปากรที่นำตัวอย่างโบราณวัตถุมาให้ สทน.ในการหาค่าอายุแล้ว ดร.สมพร ระบุว่า ยังมีกลุ่มบุคคลที่เป็นเจ้าของพระเครื่อง หรือเป็นเจ้าของโบราณวัตถุชนิดต่างๆ มักนำโบราณวัตถุจำนวนมากมาตรวจ เพื่อให้ได้ใบรับรองอายุ หลังจากนั้นก็นำกลับไปขายให้ผู้สนใจในราคาสูง

“ปัจจุบันมีผู้สนใจเช่าพระแต่ดูพระไม่เป็นจำนวนมากกว่า ที่ถูกหลอกหรือเสียเงินไปแต่ได้พระที่ไม่สมกับเงินที่เสียไป ยิ่งปัจจุบันมีคนหัวใสนำพระเครื่องมาตรวจหาอายุ เพื่อให้ สทน.ออกเอกสารรับรองให้ และเดือนที่ผ่านมามีผู้นำไบรับรองของ สทน.ไปปลอมแปลง หรือทำสำเนา เพื่อประโยชน์ในการให้เช่าพระหลายราย จึงอยากเตือนผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องพระเครื่อง แต่ต้องการเช่า หรือเชื่อในเอกสารปลอม ท่านอาจจะได้พระปลอมไปโดยไม่รู้ตัว จากมูลค่าของตลาดพระที่แต่ละปีมีเงินหมุนเวียนกว่า 20,000 ล้านบาท ผมเชื่อว่าอาจจะมีผู้ให้เช่าบางรายดำเนินการในลักษณะนี้บ้าง” ดร.สมพรกล่าว

ด้าน น.ส.นิภาวรรณ ปรมาธิกุล ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์ สทน. ผู้ดูแลการออกใบรับรอง เผยถึงขั้นตอนการให้บริการหาค่าอายุโบราณวัตถุว่า สทน.จะรับตรวจวัตถุที่เชื่อว่าจะมีอายุมากกว่า 200 ปี เพราะหากต่ำกว่าเทคนิคนี้จะใช้ไม่ได้ผล

“ผู้ที่มารับบริการต้องยอมให้ สทน.ทำลายตัวอย่างนั้น เพราะขั้นตอนคือ ต้องบดวัตถุให้ละเอียดจนเป็นผง แล้วไปผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปวัดค่าการสลายตัวของธาตุคาร์บอน-14 ผลการรับรองที่ปรากฏในเอกสารที่ส่งกับไปให้ผู้บริการ คือ ค่าอายุของเนื้อวัสดุที่นำมาทำเป็นพระ ไม่ใช่อายุพระ และเป็นเวลาของการสลายตัวของคาร์บอน-14 ไม่ใช่ปีปฏิทิน” น.ส.นิภาวรรณกล่าว

น.ส.นิภาวรรณ อธิบายอีกว่า ใบรับรองดังกล่าวจะเป็นการรับรองตัวอย่างที่นำมาตรวจเท่านั้น ซึ่งได้ถูกทำลายไปในขั้นตอนการตรวจเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นผู้เห็นใบรับรองที่ออกจาก สทน.อาจต้องใช้วิจารณญาณ ในการเช่าพระเครื่อง เพื่อจะไม่เสียเงินจำนวนมากโดยไม่จำเป็น ในส่วนใบรับรองที่มีผู้นำไปปลอมแปลงขึ้น สทน.จะปรับปรุงให้ใบรองรองมีรูปแบบเฉพาะมากขึ้น เพื่อให้ยากต่อการปลอมแปลงหรือนำไปตัดต่อ

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตรวจอายุโบราณวัตถุ พระเครื่อง หรือสงสัยว่าเอกสารที่รับรองเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ สามารถติดต่อที่ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) 02 401 9885 ได้ทุกวันเวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 8.30-16.30 น.

โดยคุณ ศักดิ์ศิริ (4.8K)  [ศ. 09 พ.ค. 2557 - 14:41 น.]



โดยคุณ Hippy_chon (1.8K)  [ศ. 09 พ.ค. 2557 - 17:14 น.] #3320589 (1/6)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

โดยคุณ sirilakpa (252)  [ศ. 09 พ.ค. 2557 - 17:22 น.] #3320595 (2/6)
ขอบคุณครับ
(เล่นแต่พระใหม่ ส่งแต่การันตีพระตรวจ อิๆ)

โดยคุณ นายเก้ (3.4K)  [ศ. 09 พ.ค. 2557 - 17:39 น.] #3320602 (3/6)
ได้ยินเรื่องนี้ทีไรผมยังจำประโยคนึงที่เซียนพระท่านนึงพูด

"เล่นพระต้องเชื่อเซียนพระ ไปตรวจทำไมคาร์บอน-14 วัดอายุ เชื่อไม่ได้หรอก ไม่ยังงั้นจะมีเซียนพระไปทำไม"

ที่จำคือยังอึ้งมาถึงทุกวันนัี้เลย

โดยคุณ BLnEwSS (15.5K)  [ศ. 09 พ.ค. 2557 - 21:29 น.] #3320997 (4/6)

โดยคุณ rungsuntui (360)  [ศ. 09 พ.ค. 2557 - 22:51 น.] #3321312 (5/6)
ผมเคยทำงานอยู่ทีสำนักงานปรมาณูพเพื่อสันติกองเคมีขออธิบายหลักการเบื้องต้นไว้ประกอบการพิจารณาดังนี้
การหาอายุของวัตถุด้วยC14
การตรวจหาอายุด้วยคาร์บอน14 หลักการต้องแยกธาตุออกจากตัวอย่างให้อยู่ในรูปของ C14
1.วัสดุที่เป็นไม้ต้องแยกด้วยการเผา(ต้องทำลายดัวอย่าง)เพื่อให้ได้ก๊าซคาร์บอน
2.วัสดุที่เป็นสารจำพวกแคลเซี่ยมต้องแยกด้วยการย่อยด้วยกรด(ทำลายตัวอย่าง)เพื่อให้ได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
แล้วทำการแยกก๊าซคาร์บอนทีทอยู่ในธรรมชาติ(C12 C13 C14)แล้วทำการย้อมสีหลังจากนั้นนำเข้าเครื่องอ่านไอโซโทป
สรุปง่ายๆคือการที่จะหาอายุของตัวอย่างด้วยวิธีC14ต้องทำลายตัวอย่าง ยกเว้นการใช้ข้อมูลจากตัวอย่างที่อยูในสภาวะใกล้เคียง
นี่คือหลักการเบื้องต้นครับ

โดยคุณ rungsuntui (360)  [ศ. 09 พ.ค. 2557 - 23:01 น.] #3321324 (6/6)
ส่วนเรื่องการเชื่อเซียนส่วนตัวถ้าเรื่องธุระกิจผมจะเชื่อเซียน
แต่ถ้าเรื่องหลักวิทยาศาสตร์ผมเชื่อผลการวิเคราะห์มากกว่าครับ
เพราะยังงัยก็ให้ผลที่แม่นยำกว่าอยู่แล้ว(อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับยังงัยซ่ะผมก็นับถือพี่ๆเซี่ยนพระทุกคนเพราะเป็นผู้ให้ความรู้และแง่มุมใหม่ๆ ย้ำครับแค่ความเห็นส่วนตัวครับ)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www5