 (N)

..... เหล็กน้ำพี้ ชื่อนี้ คนที่อยู่ในวงการพระ คงจะไม่มีใครไม่เคย ได้ยินมาก่อนเป็นแน่ ......
แต่จะมีพี่ๆ สักกี่ท่าน ที่จะรู้ประวัติ ความเป็นมาเป็นไป ของ แร่เหล็กน้ำพี้ กันละครับ
ผมขออนุญาตนำเอาเรื่องราวของ เหล็กน้ำพี้ มาลงเล่าสู่กันฟังนะครับพี่ๆ
เรื่มต้นเรื่องจาก.........
บ่อเหล็กน้ำพี้ เป็นแหล่งสินแร่เหล็กตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่ บ้านน้ำพี้ หมู่ 1 ตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
ห่างจากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ประมาณ 56 กิโลเมตร โดยเป็นบ่อเหล็กกล้า[1]มีอยู่ด้วยกันหลายบ่อ และปรากฏเตาถลุงเหล็กโบราณนับพัน ๆ แห่งในพื้นที่หลายตารางกิโลเมตร
แต่บ่อที่สำคัญและสงวนใช้สำหรับพระมหากษัตริย์มีอยู่ 2 บ่อ คือ บ่อพระแสง และ บ่อพระขรรค์ มีการนำแร่เหล็กจากบ่อ เหล็กน้ำพี้ ไปถลุงทำอาวุธเพื่อใช้ในการศึกสงครามมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ดังปรากฏหลักฐานทางประวัติศาตร์มากมายถึงความสำคัญของ เหล็กน้ำพี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความเชื่อมาแต่โบราณว่า......
เหล็กจากแหล่งแร่ เหล็กน้ำพี้ มีความแข็งแกร่งและมีความศักดิ์สิทธิ์ มีอาถรรพ์ในตัว
โดยจัดให้ เหล็กน้ำพี้ อยู่ในโลหะธาตุตระกูลเดียวกับ เหล็กไหล
ปัจจุบันบ่อ เหล็กน้ำพี้ ได้รับงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดสร้างอาคารและปรับภูมิทัศน์ โดยจัดตั้งเป็น
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านบ่อ เหล็กน้ำพี้ เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ทุกวัน
เมื่อกล่าวถึง เหล็กน้ำพี้ หลายคนต้องนึกถึงเมืองอุตรดิตถ์ อันเป็นถิ่นกำเนิดที่รู้จักกันมาอย่างช้านาน โดยยังไม่ทราบอย่างแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ค้นพบเป็นคนแรก
แต่มีความเชื่อกันทั่วอย่างแพร่หลายทั่วไปว่า ทนสิทธิ์ คือมีดีมีความขลังความศักดิ์สิทธ์ มีอาถรรพณ์ ป้องกันคุณไสยเสนียดจัญไรต่างๆ มีพุทธคุณดีในตัวเองทุกด้าน
ถ้ามีไว้ในบ้านมีอาถรรพณ์ป้องกันคุณไสย เสนียดจัญไร ต่างๆ คนโบราณประจักษ์กันว่าเป็น เหล็กกล้าเนื้อดีที่นำมาตีเป็นดาบเป็นอาวุธที่วิเศษ ชั้นดีเลิศ
เหล็กน้ำพี้ ได้ชื่อว่าเป็นเหล็กที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย มีความแข็งแกร่งและเหนียวเป็นพิเศษ
เมื่อตีเป็นดาบหรืออาวุธต่างๆ จะมีสีเขียววาวเหมือนสีปีกแมลงทับ ดาบคู่มืออันลือชื่อของ พระยาพิชัยดาบหัก
ที่มีชื่อว่า ดาบนันทกาวุธ นั้นก็ตีจาก เหล็กน้ำพี้ พระเครื่องชั้นยอดของไทย เช่น พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า ก็มีส่วนผสมของ เหล็กน้ำพี้ เป็นสำคัญ
และเมื่อ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เถลิงถวัลยราชสมบัติ หลวงจริงราชษฎ์เจริญ นายอำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์สมัยนั้นได้นำแร่เหล็กจากบ่อพระแสงตำบลน้ำพี้
มอบให้พระยาวิเศษถาชัย ข้าหลวงประจำจังหวัดอุตรดิตถ์(2469-2471) นำไปตีเป็นพระแสงดาบ แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ซึ่งเป็นพระแสงศาสตราวุธมาจนทุกวันนี้
ปัจจุบันเหล็กน้ำพี้ใช่เป็นเพียงเหล็กชั้นเยี่ยมของประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นเหล็กชั้นเยี่ยม หนึ่งในโลกก็ว่าได้
จากชื่อเสียงและความต้องการทางด้านอุตสาหกรรม ทำให้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กระทรงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
และการพลังงานมีความสนใจสืบค้นหลักฐานประวัติศาสตร์ ความเป็นมา และจัดตั้งคณะทำงานเดินทางมายังบ่อเหล็กน้ำพี้ต้นตอของเรื่องทีเดียวหลังจากได้นำแร่เหล็กจากบ่อพระแสงี่ บ้านน้ำพี้ ไปทำการวิเคราะห์มวลสารแล้ว
ได้ยืนยันว่า เหล็กน้ำพี้ มีองค์ประกอบของแร่ธาตุ ที่หาได้ยาก มีความแข็งและเหนียวเป็นพิเศษ
มีคุณลักษณะอ่อนใน แข็งนอก ซึ่งนักปกครองและนักวัสดุศาสตร์ในไทยได้ค้นพบโดยประสบการณ์มานับร้อยปีแล้วเป็นโลหะที่มีความสำคัญยิ่งต่อการอุตสาหกรรม และเมื่อทางสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ
นำผลวิจัยและวิเคราะห์นั้นมาสังเคราะห์สร้างขึ้นใหม่ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้วยการผสมวัตถุที่ค้นพบตามสัดส่วนนำการหลอมเหล็กออกมาก็สามารถที่จะนำไปสร้างเป็นอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้
โดยขณะนี้ได้ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ดำเนินการผลิตตัวอย่างมีดทหาร และเครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆจะได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเอกชนในภายหลังเพื่อประโยชน์ในการอุตสาหกรรมต่อไปด้วย
เหล็กน้ำพี้ ได้ชื่อว่าเป็นเหล็กที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย มีความแข็งแกร่งและเหนียวเป็นพิเศษ เมื่อตีเป็นดาบหรืออาวุธต่างๆ
จะมีสีเขียววาวเหมือนสีปีกแมลงทับ ดาบคู่มืออันลือชื่อของพระยาพิชัยดาบหักที่มีชื่อว่า ดาบนันทกาวุธ นั้นก็ตีจากเหล็กน้ำพี้ พระเครื่องชั้นยอดของไทย เช่น พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า ก็มีส่วนผสมของ เหล็กน้ำพี้ เป็นสำคัญ
บทความทางวิชาการ จากรายงานวิเคราะห์แร่เหล็กน้ำพี้ และโลหะเหล็กน้ำพี้ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย
ของภาควิชาวิศวกรรมโลหการคณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและกรมวิทยาศาสตร์ทหารบกโดยการนำเอาตัวอย่างสินแร่จากบ่อพระแสง และบ่อพระขรรค์ ตำบลน้ำพี้ อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์
มาวิเคราะห์หาคุณสมบัติต่างๆ สรุปได้ว่า แร่เหล็กที่ตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นแร่เหล็กที่มีคุณภาพดีที่สุดของเมืองไทย
ควรนำวิทยาการสมัยใหม่ทำการประยุกต์ผลิตเหล็กที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ เหล็กน้ำพ้ำ เป็นเครื่องใช้และเครื่องมือสำคัญก็ช่วยประหยัดงบประมาณของประเทศได้อย่างมากคุณพิเศษของ
แร่เหล็กน้ำพี้ มีองค์ประกอบของแร่หลายชนิด เช่น เหล็กแมงกานิส - ซิลิคอน - อลูมิเนียมและไทเทเนียม ส่วนธาตุอื่นๆมีอยู่ถึง ๒๐ ธาตุ พบว่ามีธาตุแปลกๆเช่น เซอร์โคเมียม - โบรอน - อาร์เซนิค - ดีบุก - ไนโอเนียม - โดบอลต์ คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ มีความแข็งแรงและเหนียว
อีกทั้งไม่เป็นสนิม มีสีเขียวเหมือนปีกแมงทับ เชื่อว่าเกิดจากอ๊อกไซร์ของเหล็ก ขณะเผาแล้วตี อ๊อกไซร์เหล่านี้จะเกิดขึ้นบริเวณผิวเกาะกันหนา
ทำให้มองเห็นเป็นสีเขียวกันไม่ให้เกิดสนิมเช่นอลูมิเนียมอ๊อกไซร์และโครเมียมอ๊อกไซร์เป็นต้น
ข้อสังเกตุในการตีดาบโบราณ กับการตีดาบในปัจจุบัน ในอดีตนั้นการตีดาบแต่ละเล่มจะใช้เนื้อเหล็กแท้ๆ
โดยการเผาแล้วขูดเอาขี้ตะคันเหล็กออกจนหมดเมื่อได้เนื้อเหล็กแล้วจึงมาตีเป็นดาบหรือเครื่องใช้คุณสมบัติก็คือ
เนื้อดาบจะมันเงาไม่เป็นสนิมและมีความคมกริบแทบไม่ต้องฝนเลยต่างกับการตีดาบในปัจจุบันที่แร่เหล็กที่นำมาตีนั้นหายากจึงนำเอาขี้ตะคันมาหลอมใหม่แล้วจึงนำมาตีแต่ก็ยังคงมีเนื้อเหล็กหลงเหลืออยู่บ้างการตีดาบในสมัยนั้นต้องมีพิธีกรรม
เริ่มจากการนำแร่การหาของผสมให้ครบการก่อเตา ตีดาบการขุดเอาแร่ผู้ขุดจะต้องทำตัวให้บริสุทธิ
เช่น ถือศีลเป็นเวลา ๗ - ๑๕ วัน นุ่งขาวห่มขาว หาฤกษ์วันเวลาในการบวงสรวงเจ้าที่ เพื่อขออนุญาติเจ้าที่ในการขุดตัดแร่ เหล็กน้ำพี้
ซึ้งต้องทำพิธีตัดแร่กันในวันดับคือแรม ๑๕ ค่ำ เพราะเชื่อว่าจะได้แร่เหล็กที่ดีที่สุด และทำพิธีล้อมแร่เพื่อป้องกันแร่ธาตุหนี
(พิสูตร แร่เหล็กน้ำพี้ ได้โดยการนำแม่เหล็กมาใกล้ๆจะดูดติดทันที ไม่ว่าจะเป็นดาบ หรือลูกประคำ คนที่นับถือจะนำมาสักการะในรูปแบบต่างกันออกไปเช่นนำไปบูชานำไปคล้องคอ เพื่อเป็นสิริมงคลและเชื่อว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้สิ่งร้ายๆเข้ามาใกล้ตัวได้)
เหล็กน้ำพี้ ของดีเมืองอุตรดิตถ์ ที่ได้มีการบอกเล่ามาหลายชั่วอายุคน มีตำนานเรื่อง เหล็กน้ำพี้ ดาบน้ำพี้ ของนักปกครองไทยแต่สมัยโบราณรวมทั้งศาสตราวุธของพระมหากษัตรย์ที่ทำด้วยเหล็กได้ผ่านจากบ่อพระแสง
และได้รับการยืนยันทางวิทยาการเป็นครั้งแรก เหล็กน้ำพี้ โดยการอเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย แล้วพบหลักฐานยืนยันได้ กล่าวคือ มีคุณสมบัติเยี่ยม
ไม่แพ้เหล็กกล้าชั้นดีของประเทศต่างๆ เลย รวมทั้งให้แนวคิดด้านอารยะธรรมด้วย เช่น
ญี่ปุ่น มี ดาบซามูไร แสดงศิลปอารยธรรม ของชนชั้นปกครอง
อาหรับ มี ดาบวงพระจันทร์ หรือ ดาบดามัสกัส แสดงศิลปะอารยธรรม ของชนชั้นปกครอง
ไทย ได้รับการยืนยันอย่างแน่นอนว่า ดาบน้ำพี้ คือเครื่องหมายที่แสดงถึงศิลปะอายธรรมของชนชั้นปกครองของ ไทยแต่โบราณ
เหล็กน้ำพี้ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สืบเนื่องแห่งศิลปะอารยะธรรมไทยสมัยอยุธยาที่สูญหายเป็นช่วงๆให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
อีกอย่างหนึ่ง หมู่บ้านน้ำพี้ แห่งเมืองพิชัย-เมืองตรอนตรีสินธุ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ในอดีต คาดว่าเป็นคลังแสงสรรพาวุธของอาณาจักรไทยสมัยสุโขทัยและสมัยกรุงศรีอยุธยา
ที่ได้สร้างอาวุธนานาชนิดขึ้นกู้ชาติบ้านเมืองและป้องกันประเทศอย่างมีประสิทธิภาพนับร้อยๆปีแล้ว ควรแก่การระลึกถึง หลักฐานเบื้องต้นหลายอย่างทำให้คิดว่าบ้านน้ำพี้ การตีเหล็กน้ำพี้ ตำบลบ่อทอง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นแหล่งผลิตอาวุธที่สำคัญก็คือ พบเตาหลอมเหล็กในพื้นที่ต่างๆ
จำนวนมากนับเป็นพันๆเตาในพื้นที่หลายตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ ความรู้ทางวัสดุศาสตร์จากเหล็กน้ำพี้เป็นกุญแจไขความลับในอดีตที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับคนรุ่นปัจจุบันได้อีกหลายประการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งลดดุลการนำเข้าเครื่องมือเครื่องใช้ที่ประกอบด้วยเหล็กที่เราสามารถสร้างขึ้นเองได้ เช่น มีด พร้า เสียม จอบ หัวไถ สิ่ว ขวาน ค้อน และไขควง เป็นต้น |