ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : (((ทุกพิมพ์ ของ เหรียญไตรมาสรุ่นแรก พระอาจารย์จิ วัดหนองหว้า))) จะได้เลือกสะสมตามความชอบคับ



(D)
ผมได้พยายามรวบรวมข้อมูล ของเหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์จิ มาให้ทุกท่านที่ศรัทธาและสะสม เพราะมีคนถามกันมาพอสมควรคับ เชิญชมได้ ณ.บัดนี้คับ แฮะๆ เหมือนลิเก ยังไงไม่รู้ เอ้าเชิญจร้า

เริ่มด้วยเหรียญทองคำ กรรมการพิเศษ หลังเรียบ จารยันต์ สร้างเพียง 2 เหรียญ เหรียญทองคำนี้ จัดสร้างขึ้น 19 เหรียญคับ มีทั้งหลังยันต์และหลังเรียบ ซึ่งหลังเรียบนี้หายากมากที่สุดคับ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 00:45 น.]



โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:00 น.] #1171421 (1/75)


(D)


ตามด้วย
- เหรียญเงิน หลังเรียบจารยันต์ สร้าง 109 องค์
- เหรียญเงิน หลังยันต์ สร้าง 170 องค์

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:03 น.] #1171422 (2/75)


(D)
ส่วนเหรียญนี้ เป็นเหรียญทำขึ้นพิเศษ น่าจะอยู่กับผู้พิพากษา สร้างขึ้นเพียงเหรียญเดียวคับ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:07 น.] #1171424 (3/75)


(D)


- เนื้อตะกรุดโทน สร้าง 300 องค์ ตอกโค๊ตและหมายเลข ทุกองค์คับ
- เนื้อนวะโลหะ สร้าง 300 องค์ ตอกโค๊ตและหมายเลข ทุกองค์คับ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:13 น.] #1171426 (4/75)


(D)


-เนื้อทองแดงกรรมการห่วงตัน สร้าง 400 องค์ ผสมตะกรุดโทน โค๊ต ก.พร้อมหมายเลขทุกองค์คับ รูปด้านหลังเป็นรูปแทนคับ ใช้เหรียญทองแดงธรรมดาแทนคับ เนื้อนี้ห่วงตันเท่านั้นคับ
-เนื้อทองแดงธรรมดา คับสร้าง 2,999 องค์

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:15 น.] #1171427 (5/75)


(D)


กะไหล่ทอง และ กะไหล่เงิน คับ ซึ่งส่วนหนึ่งได้แถมให้กับผู้ที่เช่าเหรียญทองคำคับ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:18 น.] #1171429 (6/75)


(D)


มาดูแบบที่พอกครั่งกันคับ

- เหรียญทองแดง หลังครั่งพุทธา ปั้มหลวงปู่ทวด ตอดโค๊ต จ. นิยมสุดในพอกครั่งคับ

- เหรียญทองแดง หลังครั่งพุทธา ปั้มยันต์ครู จารยนัต์พิเศษ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:21 น.] #1171430 (7/75)


(D)


- เหรียญทองแดง หลังครั่งพุทธา ปั้มหลวงปู่ทวด จารยันต์พิเศษ

- เหรียญทองแดง ตอกโค๊ตภาษาขอมคำว่า จิ ที่สังฆาฏิ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:24 น.] #1171431 (8/75)


(D)
- เหรียญทองแดงตอกโค๊ตเลข ๙ ด้านหลัง สร้าง 100 เหรียญคับ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:45 น.] #1171434 (9/75)
ที่สุดยอดอีกเนื้อหนึ่งก็คือ เนื้อ แร่เหล็กน้ำพี้ ซึ่งสร้างได้เพียง 29 เหรียญพอดี แท่นปั้มแตกซะก่อน เพราะเป็นเนื้อสุดท้ายที่ปั้ม และเป็นเนื้อที่แข็งมากที่สุดในบรรดาทุกเนื้อ เสียดายผมไม่ได้ถ่ายรูปองค์จริงมาให้เพื่อนๆดู ผมเจอในงานไหว้ครูครั้งล่าสุดที่คอ ผู้หลักผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ได้แค่ขอชมคับ บอกได้คำเดียวว่าสวยมากๆๆๆ สำหรับผมคงหมดหวังฮ่าๆ เพราะตอนออกมาให้บูชาตอนแรกๆ อยู่ราวๆ 5000 กว่าบาท แล้วตอนนี้ไม่อยากสืบ ทั้งหมดทั้งปวงก็มีด้วยประการละฉะนี้แล ถั่วงงถั่วงอกไม่มีแน่นอนจร้า เพราะสร้างตอนยังไม่มีชื่อเสียงซักเท่าไหร่ เหรียญทองแดงสมัยก่อน เหรียญล่ะ 100 ให้ฟรีกันอย่างเดียว ประมาณว่าแจก เพราะไม่มีอะไรจะแจก แต่ตอนนี้!!! คงต้องคิดหนักคับ 1000ก่าๆ แล้ว ส่วนตัวผมมีเพียง เนื้อเงินหลังเรียบองค์เดียว ห้อยต่องแต่งที่คอ เนื้ออื่นไม่มีคับ ฟลุ๊กๆเจอเมื่อไหร่ค่อยเจอกันที่หน้าประมูล

ผมเป็นเพียงส่วนเล็กๆที่พยายามจะเผยแพร่คุณูประการของพระอาจารย์ท่านด้วยความรักและศรัทธาเท่านั้น การเล่นหาก็ให้เป็นไปตามวัฏจักร ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรทั้งนั้น มีก็ขายไม่มีก็ซื้อฮ่าๆ ตามประสาและตามกำลังทรัพย์ซึ่งก็ลุ่มๆดอนๆ หวังว่าข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่จะศึกษากันต่อไปไม่มากก็น้อย เชิญเซฟเก็บไว้เป็นข้อมูลตามสะดวกคับ ขออย่างเดียวอย่าเอาไปทำผิดกฏหมายเท่านั้นพอคับ เพราะผมคงไม่มีเงินประกันตัวเองคับฮี่ๆ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมประการใด จะเมลมารึสอบถามได้ตลอดเวลาคับ จะพยายามหาคำตอบให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือพี่ๆท่านใดมีข้อมูลก็ยินดีรับฟังด้วยความเต็มใจขอรับกระผม

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 01:48 น.] #1171436 (10/75)
สวัสดีจร้า กลับไปขายของต่อก่อนน่ะคับทุกท่าน

โดยคุณ _DomeO_ (3.2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 08:58 น.] #1171632 (11/75)
สุดยอดเยี่มมากครับ

โดยคุณ technolog (4.5K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 08:59 น.] #1171636 (12/75)
ยอดเยี่ยมมากๆครับท่านลูกปู่ตาก ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลดีดี

โดยคุณ Agri_07 (620)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 09:12 น.] #1171649 (13/75)
แจ่มมากครับท่าน

โดยคุณ มงคลธรรม (1.1K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 09:42 น.] #1171676 (14/75)
ข้อมูลนี้ควรค่าแก่การจดจำจริงๆครับ ขอบคุณมากครับ

โดยคุณ sornsak21 (3.3K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 10:46 น.] #1171751 (15/75)


(D)


สวัสดีน้องรัก...
แบบว่าพี่อยากได้ "ทองแดงหลังเรียบ" อ่ะมีมั๊ย "ทองคำหลังเรียบ" แพงไป จัดให้พี่ที

ป.ล. พี่รอคำตอบจากน้องเสมอ...

โดยคุณ ณัฏฐ์5 (2.9K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 11:09 น.] #1171778 (16/75)
เหรียญรุ่นแรก"ไตรมาส 2549"พระอาจารย์จิ สมจิตฺโต วัดหนองหว้า เนื้อทองคำ สร้างตามจำนวนสั่งจอง (ราคาจองบูชา 19,000 บาท น้ำหนักประมาณ 15.2 กรัม)
-แยกออกเป็น เหรียญทองคำ กรรมการหลังเรียบจารยันต์ครูเต็ม (จำนวนการสร้าง 2 เหรียญ)
-เหรียญทองคำ หลังยันต์ ตอกโค๊ด ท. ทหาร ตรงสังฆาฏิ จำนวนสร้าง 22 เหรียญ แล้วนำแยกออกมา ทำเหรียญทองคำหลังครั่งพุทราพิเศษ 2 เหรียญ (จำนวนการสร้าง 20 เหรียญ)
-เหรียญทองคำ หลังครั่งพุทราพิเศษ 2 เหรียญ ตอกโค๊ด ท. ทหาร ตรงสังฆาฏิ และตอก โค๊ด จ. จาน เพิ่มอีก 1 ตัว ตรงสังฆาฏิ หมายเลข 16 และ หมายเลข 19 (ท่านพระอาจารย์จิ อนุญาติจัดสร้างให้เป็นกรณีพิเศษ) (จำนวนการสร้าง 2 เหรียญ)
***เหรียญรุ่นแรก"ไตรมาส 2549"พระอาจารย์จิ สมจิตฺโต วัดหนองหว้า เนื้อทองคำ (จำนวนการสร้างเหรียญทั้งหมด 24 เหรียญ)***

โดยคุณ ณัฏฐ์5 (2.9K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 11:38 น.] #1171810 (17/75)


(D)


เหรียญรุ่นแรก เนื้อทองคำ หลังครั่งพุทราพิเศษ ปั๊มหลวงพ่อทวด

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 12:11 น.] #1171850 (18/75)
จัดไปคับเฮียณัฐ แจงให้หมด เนื้อทองคำครั้งแรกดำริ สร้างเพียง 19 เหรียญ อีก 5 เหรียญเป็นกรณีพิเศษ เพราะมีคนสั่งจองเพิ่ม สรุป 24 เหรียญ ถูกต้องแล้วคร๊าบอิๆ เฮียณัฐมี 2 เหรียญ อีก 3 เหรียญอยู่ที่ผม ฮ่าๆๆฮิ้ว!! รูปน่ะคับไม่ใช่องค์จริง

ทองแดงหลังเรียบ เปิดจองที่ผมคนเดียวคับพี่หนิง จำนวนการสร้าง เอาเท่าไหร่ดีคับพี่ ตอนนี้หาซื้อกระดาษทรายอยู่คับคิดค่าขัด 500 ฮี่ๆ ถ้ามีออกมาจริงๆผมคงต้องอาศัยตะกรุดพระอาจารย์แน่นอน คงวิ่งหนีลูกปืนกันมันล่ะคับพี่น้องงานนี้ฮ่าๆๆๆ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 12:33 น.] #1171867 (19/75)
สวัสดีคับพี่ มงคล เดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมไปถวายปัจจัยที่วัดแล้วคับ ยอดถล่มถลายคับพี่ 7 ลัง ได้แล้วหมื่นนิดๆ ไม่อายท่านเท่าไหร่แล้ววคับ 555 หนักใจก็ไอ้ตอนที่แบกลังคืนนี้แหละคับฮ่าๆๆ เดี๋ยวจะรวบรวมมาให้อนุโมทนากันอีกที

ขอบพระคุณมากมายคับ

เคารพ

โดยคุณ textile007 (10K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 13:34 น.] #1171942 (20/75)


(D)
คุณขุน สงสัยจะวุ่นวายกะการขัด หาซื้อกระดาษเลยไม่มีเวลา ทำอย่างอื่นเลย รออยู่นะครับ
ปล. อาทิตย์อย่าลืมไปพักผ่อน ไล่จับลูกปูด้วยนะครับ

โดยคุณ textile007 (10K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 13:44 น.] #1171948 (21/75)


(D)
สำหรับผู้มาเยี่ยมชมกระทู้ท่านลูกปูตากครับ ขออนุญาติคุณขุนนะครับ สนุกๆครับ ท่านใดทายถูกว่า ดอกไม้ ที่ผมลงรูปชื่อ ดอกไม้อะไร มีความเป็นมาอย่างไร ครับ
ท่านใดทายถูกแจกใจที่สุด แจกพระ 2 รางวัล
ปล.พระที่แจกให้ไปบูชาไม่ใช่ให้ไปเก็บครับ เพราะไม่ใช่จะหาได้ทั่วไปอยู่ในโอ่งมาหนึ่งปีครับ

โดยคุณ ผู้จัดการ (2.4K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 14:16 น.] #1172008 (22/75)


(D)
ยอดเยี่ยมครับ......

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 14:36 น.] #1172032 (23/75)
สงสัยคงอดอีกตามเคย ต้องรีบไปหาข้อมูลมาตอบ คราวงูปากเป็ดพลาดไป ควรนี้ต้องรีบหาข้อมูลซะแร้ว คงไปกลับคับพี่ทัชถวายเสร็จคงกลับเลยคับ เดี๋ยวขัดเหรียญไม่ทันปลุกเสกฮี่ๆ พี่ทัชหนึ่งเหรียญ พี่หนิงเหรียญหนึ่ง โอ 3 เหรียญสงสัยขัดกันมันส์มือพังไปข้าง555. ฮั้ว!!!

โดยคุณ อาระดิน (7.4K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 14:36 น.] #1172034 (24/75)
1. ต้นสาละใหญ่ (ต้นมหาสาละ)

ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 33 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 25 ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ โกณฑัญญพุทธวงศ์ กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 พระนามว่า พระโกณฑัญญพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ 10 เดือนเต็ม จึงได้ประทับตรัสรู้ ณ ควงไม้สาละใหญ่

โดยคุณ ออนไลน์ (884)(1)   [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 14:38 น.] #1172041 (25/75)
ดอกสาละ

สาละ เป็นคำสันสกฤต อินเดียเรียกต้นสาละว่า "Sal" เป็นไม้ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง ท้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน มีความสำคัญในพุทธประวัติดังนี้

ตอนพระพุทธเจ้าประสูติ
ก่อนพุทธศักราช 80 ปี พระพุทธมารดาคือพระนางสิริมหามายาทรงครรภ์ใกล้ครบกำหนดพระสูติการ จึงเสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อไปมีพระสูติการที่กรุงเทพวทหะ อันเป็นเมืองต้นตระกูลของพระนาง ตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์ เมื่อขบวนเสด็จมาถึงครึ่งทางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ณ ที่ตรงนั้นเป็นสวนมีชื่อว่า "สวนลุมพินีวัน" เป็นสวนป่าไม้ "สาละ" พระนางได้ทรงหยุดพักอิริยาบท (ปัจจุบันคือตำบล "รุมมินเด" แขวงเปชวาร์ ประเทศเนปาล) พระนางประทับยืนชูพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละ และขณะนั้นเองก็รู้สึกประชวรพระครรภ์ และได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร ซึ่งตรงกับวันศุกร์เพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี คำว่าสิทธัตถะแปลว่า "สมปรารถนา"

อีกตอนหนึ่งก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะตรัสรู้
เมื่อพระองค์เสวยข้าวมธุปายาสที่บรรจะอยู่ในถาดทองคำของนางสุชาดาแล้ว ได้ทรงอธิษฐานว่า ถ้าพระองค์ได้สำเร็จพระโพธิญาณ ขอให้การลอยถาดทองคำนี้สามารถทวนกระแสน้ำแห่งแม่น้ำเนรัญชลาได้ เมื่อทรงอธิษฐานแล้วได้ทรงลอยถาด ปรากฎว่าถาดทองคำนั้นได้ลอยทวนกระแสน้ำ จากนั้นพระองค์เสด็จไปประทับยังควงไม้สาละ ตลอดเวลากลางวัน ครั้นเวลาเย็นก็เสด็จไปยังต้นพระศรีมหาโพธิ ประทับนั่งบนบัลลังก์ภายใต้ต้นโพธิ และได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเวลารุ่งอรุณ ณ วันเพ็ญเดือน 6

ตอนสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน
เมื่อพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์สาวก เสด็จถึงเขตเมืองกุสินาราของมัลละกษัตริย์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญวดี พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยมาก จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์ ซึ่งเป็นองค์อุปัฏฐากปูลาดพระที่บรรทม โดยหันพระเศียรไปทางทิศเหนือ ระหว่างต้นสาละทั้งคู่ แล้วพระองค์ก็ทรงสำเร็จสีหไสยาสน์ โดยพระปรัศว์เบื้องขวา (นอนตะแคงขวาพระบาทซ้ายซ้อนทับพระบาทขวา) และแล้วเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพาน

โดยคุณ sornsak21 (3.3K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 14:50 น.] #1172060 (26/75)
ต้นสาละอินเดียกับพระพุทธศาสนา

สาละ เป็นคำสันสกฤต อินเดียเรียกต้นสาละใหญ่ว่า “Sal” เป็นไม้ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง ทั้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน มีความสำคัญในพุทธประวัติดังนี้

ตอนพระพุทธเจ้าประสูติ

ก่อนพุทธศักราช 80 ปี พระพุทธมารดาคือพระนางสิริมหามายา ทรงครรภ์ใกล้ครบกำหนดพระสูติการ จึงเสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อไปมีพระสูติการ ณ กรุงเทวทหะ อันเป็นเมืองต้นตระกูลของพระนาง ตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์ (ที่การคลอดบุตร ฝ่ายหญิงจะต้องกลับไปคลอดที่บ้านพ่อ-แม่ของฝ่ายหญิง) เมื่อขบวนเสด็จมาถึงครึ่งทางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ณ ที่ตรงนั้นเป็นสวนมีชื่อว่า “สวนลุมพินีวัน” เป็นสวนป่าไม้ “สาละใหญ่”

พระนางได้ทรงหยุดพักอิริยาบท (ปัจจุบันคือตำบล “รุมมินเด” แขวงเปชวาร์ ประเทศเนปาล) พระนางประทับยืนชูพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละใหญ่ และขณะนั้นเองก็รู้สึกประชวรพระครรภ์ และได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร ซึ่งตรงกับวันศุกร์ วันเพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี คำว่า “สิทธัตถะ” แปลว่า “สมปรารถนา”

ตอนก่อนพระพุทธเจ้าจะตรัสรู้และแสดงธรรมเทศนา

เมื่อพระองค์เสวยข้าวมธุปายาสที่บรรจุอยู่ในถาดทองคำของนางสุชาดาแล้ว ได้ทรงอธิษฐานว่า ถ้าพระองค์ได้สำเร็จพระโพธิญาณ ขอให้การลอยถาดทองคำนี้สามารถทวนกระแสน้ำแห่งแม่น้ำเนรัญชลาได้ เมื่อทรงอธิษฐานแล้วได้ทรงลอยถาด ปรากฏว่าถาดทองคำนั้นได้ลอยทวนกระแสน้ำ จากนั้นพระองค์เสด็จไปประทับยังควงไม้สาละใหญ่ ตลอดเวลากลางวัน ครั้นเวลาเย็นก็เสด็จไปยังต้นพระศรีมหาโพธิ์ ประทับนั่งบนบัลลังก์ภายใต้ร่มเงาต้นโพธิ์ และได้ทรงบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเวลารุ่งอรุณยามสาม ณ วันเพ็ญเดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 45 ปี

ครั้นวันเพ็ญเดือน 8 สองเดือนหลังตรัสรู้ พระพุทธองค์เสด็จมาถึงบริเวณป่าสาละใหญ่อันร่มรื่น ณ อุทยานมฤคทายวันหรืออิสิปตนมฤคทายวัน ทางทิศเหนือใกล้เมืองพาราณสี แคว้นกาสี ณ ที่นี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนากัณฑ์แรกคือธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โปรดปัญจวัคคีย์ พระรัตนตรัยจึงเกิดครบบริบูรณ์ครั้งแรกในโลกนี้ คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

ตอนพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน

เมื่อมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์สาวก ได้เสด็จถึงเขตเมืองกุสินาราของมัลละกษัตริย์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญวดี เป็นเวลาใกล้ค่ำของวันเพ็ญเดือน 6 วันสุดท้ายก่อนการกำเนิดพุทธศักราช ได้ประทับในบริเวณสาลวโณทยาน พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยมาก จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์ซึ่งเป็นองค์อุปัฏฐากปูลาดพระที่บรรทม โดยหันพระเศียรไปทางทิศเหนือ ระหว่างต้นสาละใหญ่ 2 ต้น แล้วพระองค์ก็ทรงเอนพระวรกายลง ประทับไสยาสน์แบบสีหไสยาเป็นอนุฏฐานไสยา คือการนอนครั้งสุดท้าย โดยพระปรัศว์เบื้องขวา (นอนตะแคงขวาพระบาทซ้ายซ้อนทับพระบาทขวา) และแล้วเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพาน


โดยคุณ Agri_07 (620)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 15:00 น.] #1172072 (27/75)
ดอกสาละลังกา ครับท่าน

เป็นไม้นำมาจากประเทศคิวบา ศรีลังกาได้มาปลูกประมาณปี พ.ศ.2422 ส่วนประเทศไทยปลูกเมื่อปี พ.ศ.2500 เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบสูง ๑๕-๒๕ เมตร เปลือกสีน้ำตาลแตกเป็นร่องและเป็นสะเก็ด ใบเดี่ยวออกเวียนสลับตามปลายกิ่งรูปใบหอกกลับ กว้าง ๕-๘ ซม.ยาว ๑๕-๓๐ ซม. ปลายแหลม โคนสอบ มน ขอบจักตื้น ๆ ดอกสีชมพูอมเหลืองและแดง กลิ่นหอมแรง ออกเป็นช่อใหญ่ตามลำต้น กลีบดอก ๔-๖ กลีบ แข็ง เมื่อบานเส้นผ่านศูนย์กลาง ๕-๘ ซม. โคนของเกสรตัวผู้เชื่อมติดกันเป็นรูปโค้ง ผลรูปกลมผิวสีน้ำตาลเส้นผ่านศูนย์กลาง ๑๐ - ๒๐ ซม. ต้นสาละลังกากับพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นต้นไม้มงคลในพระพุทธศาสนา เนื่องจากชาวลังกาเห็นว่าดอกมีลักษณะสวยและมีกลิ่นหอมจึงนำไปถวายพระ อีกทั้งนิยมปลูกภายในวัดมากกว่าตามอาคารบ้านเรือน

มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา

โดย สาละ เป็นคำสันสกฤต อินเดียเรียกต้นสาละว่า "Sal" เป็นไม้ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง ทั้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน มีความสำคัญในพุทธประวัติ


ตอนพระพุทธเจ้าประสูติ
ก่อนพุทธศักราช 80 ปี พระพุทธมารดาคือพระนางสิริมหามายาทรงครรภ์ใกล้ครบกำหนดพระสูติการ จึงเสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อไปมีพระสูติการที่กรุงเทพวทหะ อันเป็นเมืองต้นตระกูลของพระนาง ตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์ เมื่อขบวนเสด็จมาถึงครึ่งทางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ณ ที่ตรงนั้นเป็นสวนมีชื่อว่า "สวนลุมพินีวัน"
เป็นสวนป่าไม้ "สาละ" พระนางได้ทรงหยุดพักอิริยาบท (ปัจจุบันคือตำบล "รุมมินเด" แขวงเปชวาร์ ประเทศเนปาล) พระนางประทับยืนชูพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละ และขณะนั้นเองก็รู้สึกประชวรพระครรภ์ และได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร ซึ่งตรงกับวันศุกร์เพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี คำว่าสิทธัตถะแปลว่า "สมปรารถนา"


ตอนพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน

เมื่อพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์สาวก เสด็จถึงเขตเมืองกุสินาราของมัลละกษัตริย์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญวดี พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยมาก จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์ ซึ่งเป็นองค์อุปัฏฐากปูลาดพระที่บรรทม โดยหันพระเศียรไปทางทิศเหนือ ระหว่างต้นสาละทั้งคู่ แล้วพระองค์ก็ทรงสำเร็จสีหไสยาสน์ โดยพระปรัศว์เบื้องขวา (นอนตะแคงขวาพระบาทซ้ายซ้อนทับพระบาทขวา) และแล้วเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพาน ขอรับท่าน

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 15:05 น.] #1172086 (28/75)
เซ็งห่านอีกรอบ ไม่เคยทันท่านอื่นเลย รวดเร็วจริงๆ. ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านด้วยจร้า สงสัยไม่ถูกโฉลกกะของดี. งั้นขอเลยละกัน

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 15:09 น.] #1172092 (29/75)
ข้อมูลแน่นปึกกันทั้งนั้นเลยคับพี่น้อง

โดยคุณ textile007 (10K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 15:15 น.] #1172099 (30/75)
รางวัลนี้สำหรับท่านที่มาตอบเท่านั้นครับ ถ้าตอบถูกเยอะๆเดียวรบกวนให้เจ้าของกระทู้ จับรางวัลแจกครับ
พรุ่งนี้มาเฉลยนะครับ
ปล. ขอเลยไม่ได้ครับ คุณขุน ต้องมีค่าสินสอดครับ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 15:46 น.] #1172143 (31/75)
หางานให้แล้วมั้ยล่ะคับพี่ทัช จับเองแจกตัวเองได้ป่าวอ่า เดียวจะเกิดข้อสงสัย พี่ทัชจัดการเองเลยน่ะคับ ขอเป็นคนนั่งชม น่าจะเหมาสมกว่า

โดยคุณ ณัฏฐ์5 (2.9K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 15:54 น.] #1172151 (32/75)
ขอบคุณครับ ความรู้เพียบ **รู้จักแต่ต้นเสาไฟฟ้า เรื่องต้นไม้ไม่รู้จักเลย*** สงสัยไม่ค่อย มีความสุนทรี ตื่นเช้าทำงาน มืดนอน อยู่อย่านนี้...(อดเข้าชิงรางวัลกับเขาเลย)ไม่อย่างนั้น คนตอบมีกี่คน ขอแจมของราวัลด้วยนะครับคุณทัช ของรางวัลขาดเท่าไร เอาเหรียญสตาง์ เสาร์๕ ไปคนละเหรียญ เดียวให้คุณลูกปู่ตากจัดการให้ครับ

โดยคุณ ณัฏฐ์5 (2.9K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 16:17 น.] #1172188 (33/75)
***ผมว่าเฮียณัฐมีเป็นลังอ่ะเอามาแจกพี่ๆน้องๆ น่ะคับผม
.....ตามคำเรียกร้อง ของคูณลูกปู่ตากครับ หางานให้ คุณลูกปู่ตากทำด้วยครับ ...อย่างไรก็ต้องรับทำหน้าที่จัดส่งด้วยละกัน(งานเข้าแล้ว)
...แจกเหรียญสตางค์และกัน... คือให้เล่าเรื่องเกี่ยวกับท่านพระอาจารย์จิ หรือเรื่องต่างๆเกี่ยวกับวัดหนองหว้า สั้นหรือยาวก็ได้ เช่น ประวัติต่างๆ อาทิ วันเกิดวันที่... การศึกษาเรื่องต่างๆ ประสบกราณ์ต่างๆ หรือเรื่องอะไรก็ได้ เรื่องละเหรียญ หรือกี่เหรียญก็แล้วแด่ คุณลูกปู่ตากแล้วกัน ตามสมควร (ไม่จำกัดจำนวน) สนุกๆ อย่างไรก็ศิษย์อาจารย์เดียวกันครับ...
ทำงานหน่อยนะน้องนะ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 16:54 น.] #1172247 (34/75)
โหลๆ สองโหล ค่าส่งเนี่ย คิดกะเฮียณัฐ เลยล่ะกันน่ะคับ กล่องล่ะ 100 ฮ่าๆๆ เอาไม่เยอะ แค่พอซื้อรถ ซื้อบ้านได้ซักหลังก็พอ มักน้อยคับ

โดยคุณ หนุ่ยนคร (4.7K)(1)   [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 16:58 น.] #1172256 (35/75)
ดอกสาละลังกา ครับท่าน

เป็นไม้นำมาจากประเทศคิวบา ศรีลังกาได้มาปลูกประมาณปี พ.ศ.2422 ส่วนประเทศไทยปลูกเมื่อปี พ.ศ.2500 เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบสูง ๑๕-๒๕ เมตร เปลือกสีน้ำตาลแตกเป็นร่องและเป็นสะเก็ด ใบเดี่ยวออกเวียนสลับตามปลายกิ่งรูปใบหอกกลับ กว้าง ๕-๘ ซม.ยาว ๑๕-๓๐ ซม. ปลายแหลม โคนสอบ มน ขอบจักตื้น ๆ ดอกสีชมพูอมเหลืองและแดง กลิ่นหอมแรง ออกเป็นช่อใหญ่ตามลำต้น กลีบดอก ๔-๖ กลีบ แข็ง เมื่อบานเส้นผ่านศูนย์กลาง ๕-๘ ซม. โคนของเกสรตัวผู้เชื่อมติดกันเป็นรูปโค้ง ผลรูปกลมผิวสีน้ำตาลเส้นผ่านศูนย์กลาง ๑๐ - ๒๐ ซม. ต้นสาละลังกากับพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นต้นไม้มงคลในพระพุทธศาสนา เนื่องจากชาวลังกาเห็นว่าดอกมีลักษณะสวยและมีกลิ่นหอมจึงนำไปถวายพระ อีกทั้งนิยมปลูกภายในวัดมากกว่าตามอาคารบ้านเรือน

มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา

โดย สาละ เป็นคำสันสกฤต อินเดียเรียกต้นสาละว่า "Sal" เป็นไม้ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง ทั้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน มีความสำคัญในพุทธประวัติ


ตอนพระพุทธเจ้าประสูติ
ก่อนพุทธศักราช 80 ปี พระพุทธมารดาคือพระนางสิริมหามายาทรงครรภ์ใกล้ครบกำหนดพระสูติการ จึงเสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อไปมีพระสูติการที่กรุงเทพวทหะ อันเป็นเมืองต้นตระกูลของพระนาง ตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์ เมื่อขบวนเสด็จมาถึงครึ่งทางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ณ ที่ตรงนั้นเป็นสวนมีชื่อว่า "สวนลุมพินีวัน"
เป็นสวนป่าไม้ "สาละ" พระนางได้ทรงหยุดพักอิริยาบท (ปัจจุบันคือตำบล "รุมมินเด" แขวงเปชวาร์ ประเทศเนปาล) พระนางประทับยืนชูพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละ และขณะนั้นเองก็รู้สึกประชวรพระครรภ์ และได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร ซึ่งตรงกับวันศุกร์เพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี คำว่าสิทธัตถะแปลว่า "สมปรารถนา"


ตอนพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน

เมื่อพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์สาวก เสด็จถึงเขตเมืองกุสินาราของมัลละกษัตริย์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญวดี พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยมาก จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์ ซึ่งเป็นองค์อุปัฏฐากปูลาดพระที่บรรทม โดยหันพระเศียรไปทางทิศเหนือ ระหว่างต้นสาละทั้งคู่ แล้วพระองค์ก็ทรงสำเร็จสีหไสยาสน์ โดยพระปรัศว์เบื้องขวา (นอนตะแคงขวาพระบาทซ้ายซ้อนทับพระบาทขวา) และแล้วเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพาน ขอรับท่าน

โดยคุณ หน่องโค๊ก (6.1K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 17:00 น.] #1172263 (36/75)
ดอกสาละ

สาละ เป็นคำสันสกฤต อินเดียเรียกต้นสาละว่า "Sal" เป็นไม้ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง ท้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน มีความสำคัญในพุทธประวัติดังนี้

ตอนพระพุทธเจ้าประสูติ
ก่อนพุทธศักราช 80 ปี พระพุทธมารดาคือพระนางสิริมหามายาทรงครรภ์ใกล้ครบกำหนดพระสูติการ จึงเสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อไปมีพระสูติการที่กรุงเทพวทหะ อันเป็นเมืองต้นตระกูลของพระนาง ตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์ เมื่อขบวนเสด็จมาถึงครึ่งทางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ ณ ที่ตรงนั้นเป็นสวนมีชื่อว่า "สวนลุมพินีวัน" เป็นสวนป่าไม้ "สาละ" พระนางได้ทรงหยุดพักอิริยาบท (ปัจจุบันคือตำบล "รุมมินเด" แขวงเปชวาร์ ประเทศเนปาล) พระนางประทับยืนชูพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละ และขณะนั้นเองก็รู้สึกประชวรพระครรภ์ และได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร ซึ่งตรงกับวันศุกร์เพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี คำว่าสิทธัตถะแปลว่า "สมปรารถนา"

อีกตอนหนึ่งก่อนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะตรัสรู้
เมื่อพระองค์เสวยข้าวมธุปายาสที่บรรจะอยู่ในถาดทองคำของนางสุชาดาแล้ว ได้ทรงอธิษฐานว่า ถ้าพระองค์ได้สำเร็จพระโพธิญาณ ขอให้การลอยถาดทองคำนี้สามารถทวนกระแสน้ำแห่งแม่น้ำเนรัญชลาได้ เมื่อทรงอธิษฐานแล้วได้ทรงลอยถาด ปรากฎว่าถาดทองคำนั้นได้ลอยทวนกระแสน้ำ จากนั้นพระองค์เสด็จไปประทับยังควงไม้สาละ ตลอดเวลากลางวัน ครั้นเวลาเย็นก็เสด็จไปยังต้นพระศรีมหาโพธิ ประทับนั่งบนบัลลังก์ภายใต้ต้นโพธิ และได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเวลารุ่งอรุณ ณ วันเพ็ญเดือน 6

ตอนสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน
เมื่อพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์สาวก เสด็จถึงเขตเมืองกุสินาราของมัลละกษัตริย์ ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญวดี พระองค์ทรงเหน็ดเหนื่อยมาก จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์ ซึ่งเป็นองค์อุปัฏฐากปูลาดพระที่บรรทม โดยหันพระเศียรไปทางทิศเหนือ ระหว่างต้นสาละทั้งคู่ แล้วพระองค์ก็ทรงสำเร็จสีหไสยาสน์ โดยพระปรัศว์เบื้องขวา (นอนตะแคงขวาพระบาทซ้ายซ้อนทับพระบาทขวา) และแล้วเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพาน

โดยคุณ ออนไลน์ (884)(1)   [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 17:29 น.] #1172287 (37/75)
ประวัติโดยย่อ พระครูสมุห์สมจิต (พระอาจารย์จิ สมจิตโต) วัดหนองว้า ท่านเกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2507 ที่บ้านในดอน ต.หนองขนาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2527 ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐาน กับหลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง เพชร บุรี และศึกษาพุทธาคมกับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประ จวบฯ ปัจจุบันเป็นรองเจ้าอาวาสวัดหนองว้าและเป็นเลขานุการเจ้าคณะตำบลหาดเจ้าสำราญ
หลังจากปี พ.ศ. 2529 ที่ ท่าน พระอาจารย์จิ ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมวิชาไสย์เวทย์ต่างๆ จากหลวงพ่อยิดจนหมดไส้หมดพุงแล้ว หลวงพ่อยิดท่านได้เอ่ยปากชวนอยู่จำพรรษาที่วัดหนองจอกเลย และจะให้กรรมการปลูกกุฏิให้อยู่จำพรรษาต่างหากเลยแต่พระอาจารย์จิ ท่านก็ไม่สามารถทำตามความประสงค์ของหลวงพ่อยิดได้ ท่านจึงได้ลาหลวงพ่อยิดกลับมาอยู่จำพรรษาต่อที่วัดหนองหว้าและนำวิชาต่างๆ ที่หลวงพ่อยิดถ่ายทอดมาให้หมั่นฝึกฝนอยู่เป็นเนืองนิตย์ไม่เคยขาด ไม่เคยละในวัตรปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน ปฏิบัติหมั่นเพียรอยู่ตลอดเวลา จนจิตเป็นสมาธินิ่งสงบและที่มาที่ไปของคำที่ว่า หลวงพ่อยิดท่าสนเอ่ยปากพูดขึ้นว่า "ท่านจิ ท่าสนเก่งจริงๆ ทำอำไร ปลุกเสกอะไรได้เหมือนหลวงพ่อทุกอย่าง" ท่ามกลางลูกศิษย์ลูกหาหลายท่าน มีทั้งพระสงฆ์ และฆราวาส เนื่องด้วยประมาณปี พ.ศ. 2535 ต้นๆ ปี ในขณะนั้นผู้เขียนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ได้มีพระรูปหนึ่งชื่อ หลวงตาเพลิน เคยบวชอยู่ที่วัดบางทะลุ ตำบลหาดเจ้าสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระผู้ที่มาริเริ่มบูรณะวัดเก่าแก่ ซึ่งเหลือโบสถ์เก่าเป็นหลักฐานอยู่ที่ดอนบ้านใหม่ ในพื้นที่เขตตำบลหาดเจ้าสำราญ รกร้างมานานจนเป็นเรื่องกล่าวขานกันว่า....
วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดย พระสมเด็จพระสังฆราชเจ้าแตงโม เป็นผู้สร้าง ซึ่ง หลวงตาเพลิน เป็นลูกเกิดที่นั่น มีจิตเป็นกุศลอยากจะบูรณะวัดร้างให้เป็นวัดสมบูรณ์จึงพาญาติโยมเดินทางมาหาหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เพื่อขอวัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดไปแจกเป็นมงคลให้กับผู้ที่มาบริจาคทรัพย์ร่วมสร้างวัดดอนบ้านใหม่พอเอ่ยปากบอกกับ หลวงพ่อยิด ท่านจึงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า หลวงตาเพลินจะเอาปลัดขิก ไม่ต้องมาถึงฉันนี่หรอก ไปหาท่านจิ วัดหนองหว้าซิเป็นลูกศิษย์ฉันเอง "ท่านจิท่านเก่งจริงๆ ทำอะไรปลุกเสกอะไรได้เหมือนฉันทุกอย่างเลย" ของที่ท่านจิปลุกเหมือนกับฉันปลุกเสกเลยทุกอย่างไม่ต้องมาถึงกุยบุรีหรอก อยู่เพชรบุรีใกล้กันนิดเดียว จากคำพูดนี้เอง หลวงตาเพลิน จึงได้ให้ชาวบ้านแกะปลัดขิก และนำไปให้ พระอาจารย์จิ ลงจารยันต์ปลุกเสกมาตลอดทุกปี แล้วนำปลักขิกนี้มาแจกให้กับผู้ที่มีความศรัทธา ร่วมสร้างวัดจนเป็นวัดดอนบ้านใหม่อย่างสมบูรณ์แบบทุกวันนี้ก็ด้วยบารมีพระอาจารย์จิ ปลุกเสกปลัดขิกให้จริงๆ มีผู้คนมากมายที่นำวัตถุมงคลของท่านไปใช้ได้ผลจริงๆ มีประสบการณ์มากมาย ปลัดขิกของท่านพุทธคุณครบเครื่องเหมือนกับของหลวงพ่อยิด ผู้เป็นอาจารย์จริงๆ ดีเด่นทางด้านมหาเมตตา ค้าขายดี พกติดตัวแคล้วคลาด แลอดภัย เป็นคงกระพันชาตรีอีกด้วย ปัจจุบันท่านได้สร้างวัตถุมงคลออกมาอย่างเป็นทางการให้ศิษยานุศิษย์ได้บูชากัน ซึ่งมีกระแสตอบรับดีมาก ศิษย์หลวงพ่อยิด จำนวนมากได้มาบูชาเก็บวัตถุมงคลของท่านกัน เพราะรู้ว่าวันข้างหน้าดังแน่นอน จึงได้รีบเก็บบูชาไว้ก่อนต่อไปหายากเดี๋ยวจะบูชาแพงเหมือนของหลวงพ่อยิดที่ตอนนี้หายากแล้ว
ท่านเป็นพระอาจารย์หนุ่ม อายุ 40 กว่าๆ ปี สงบ นิ่ง สุขุม ไม่พูดมาก สำรวมในกริยาแบบพระสุปฎิปันโน ลายจารอักขระสวยงาม เข็มขลัง ไม่แพ้อาจารย์ของท่าน ***ท่านออกวัตถุมงคลมานานแล้ว แต่ด้วยท่านเป็นพระหนุ่ม คนจึงมองข้ามท่านไป ไปเพชรบุรี ก็เข้าวัดตาลกง ไปไม่ถึง วัดหนองหว้า สักที หรือไม่ ก็เลยไปวัดชายนา เลยที่เดียว ด้วยความที่เป็นพระพูดน้อย เลยทำให้บางคนมองไปต่างๆนาๆ ซึ่งความจริงแล้วท่านมีเมตตามาก ขอแค่เอ่ยปากเท่านั้นท่านไม่เคยขัด อันนี้ผมสัมพัสกับตัวเองมาแล้วคับ***

โดยคุณ วัดเพชรดอนยาง (6.6K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 17:48 น.] #1172297 (38/75)
สาละลังกา (Couroupita guianensis Aubl.)

ลักษณะของพืชต้นนี้ เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ เปลือกสีน้ำตาล ใบ เดี่ยว ออกเวียนสลับตามปลายกิ่ง รูปใบหอกกลับ ปลายแหลม โคนสอบ มน ขอบใบจักตื้นๆ ดอก ช่อใหญ่ ยาว ออกตามโคนต้น ดอก สีชมพูอมเหลืองและแดง กลิ่นหอมแรง กลีบดอก 4-6 กลีบ แข็ง หักง่าย เกสรตัวผู้มีจำนวนมาก โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปโค้ง ผล สด รูปกลม ผิวผลสีน้ำตาล เส้นผ่าศูนย์กลางผละประมาณ 10-20 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดหลายเมล็ด



เอาบ้างครับ พี่ๆ ทุกท่าน จับฉลากเพื่อเป็น1ใน2 ที่ได้ของดีสุดยอด

ปิดตาของพี่ขุน ที่แจกเข้าไปดูอีกที มีเจ้าของหมดแระ อดเลย

ขอบคุณมากครับ พี่ textile007 สำหรับตะกรุดยันต์ครู ที่มอบให้ครับ

โดยคุณ ณัฏฐ์5 (2.9K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 17:57 น.] #1172307 (39/75)
***ประสบการณ์ตรง***
(ที่ผมนับถือและศรัทราและได้มาเป็นศิษย์ท่าน ของท่านพระอาจารย์จิ สมจิตฺโต) เริ่มมาจากความศรัทรา การเกิดประสบการณ์ และคงเป็นบุญวาสนา ที่มาพบเจอท่าน ด้วยญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดลบันดาล ให้มาเจอท่านพระอาจารย์จิ โดยบังเอิญ... เรื่องมีอยู่ว่า (คงเล่าโดยย่อ)
...เมื่อประมาณต้น ปี2550(ประมานเดือนมกราคม) พี่สาวและพี่เขยเป็นผู้รับเหมา อยู่ที่จังหวัดน่าน เขาอยากได้ เหรียญหนุมาน ที่มียันต์เกราะเพชรอยู่ที่ด้านหลัง ให้ผมช่วยหาให้ ผมก็ลองกดหาในอินเตอร์เน็ตดู (ก็มีรูปเหรียญหนุมาน หลังยันต์เกราะเพชร วัดหนองหว้า)
...ผมก็ได้เดินทางไปตามหาเหรียญหนุมาน ที่วัดหนองหว้า ไปถึงประมาน หลัง 6 โมงเย็น ผมก็ขึ้นกราบหลวงพ่อวัดหนองหว้า ผมก็บอกหลวงพ่อว่าผมมาเช่าหาเหรียญหนุมาน หลวงพ่อบอกว่าไม่ใช่ของหลวงพ่อ เป็นของรองเจ้าอาวาส ของท่านจิเขา (ผมยังไม่รู้จัดชื่อเสียงของท่านพระอาจารย์จิเลย)...
ผมก็เขาไปกราบท่านพระอาจารย์จิ ท่านพระอาจารย์จิท่านเป็นพระที่ไม่ค่อยพูด และผมก็เป็นคนพูดไม่เก่ง นั่งมองหน้ากันพักใหญ่ นานพอควร (ท่านพระอาจารย์จิงพูดว่า มาทำไมหละ) ผมจึงตอบว่า (ผมมาตามหาเหรียญหนุมาน ของวัดหนองหว้า)
ท่านจึงเรียกพระมา พาผมไปเช่าวัตถุมงคลในตู้ของวัด
ผมจึงเช่า เหรียญหนุมานทองแดง 1 เหรียญ, เหรียญพระพรหมทองแดง 1 เหรียญ, เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก 1 เหรียญ 100บาท (ตอนนั้นท่านพระอาจารย์จิ พึ่งออกเหรียญรุ่นแรก) แล้วพระก็บอกว่า เอาไปให้ท่านพระอาจารย์จิ จาร และอธิฐานจิตอีกครั้งสิ ผมจึงถามว่า จารคึออะไร ผมไม่รู้จัก(ผมไม่เคยเล่นพระ ไม่เคยเช่าพระเลย เป็นวัตถุมงคลที่ผมเช่าครั้งแรก และไม่กล้าเช่าเยอะ เช่ามาเพียง 3 เหรียญ) แล้วผมจึงไปให้ท่านพระอาจารย์จิจาร แล้วก่อนกลับท่านพระอาจารย์จิ ท่านบอกว่า (โชคดี เดินทางปลอดภัยนะ)
***ผมจึงเดินทางออกจากวัดก็โพ้เพ้แล้ว(ไปพร้อมกันกับแฟน และลูกสาว) และไปวัดตาลกง วัดหลวงพ่ออุ้นต่อ แต่ตู้ที่วัดปิดแล้ว ผมจึงเดินขับรถกลับ และเหตุที่มืดแล้วและผมไม่ชินทาง เพราะไม่เคยไปแถวนั้น และผมเป็นคนที่ขับรถเร็ว พอถึงถนนตัด 3 แยกคันคลอง ผมมองไม่เห็น ผมจะชนสะพานข้ามคลองชลประทาน ผมจึงรีบเบรกแล้วหักรถเลี้ยวขวา รถหยุดนิ่ง แล้วมีรถ สิบล้อขับสวนผ่านไป เกือบชนท้ายรถผม(ผมผ่านมาได้นิดเดียว) แฟนผมอุทานว่า ท่านพระอาจารย์จิช่วย ผมจึงกลับไปนึกถึงท่านพระอาจารย์จิ ที่บอกก่อนกลับว่า(โชคดี เดินทางปลอดภัยนะ) และนี้คือประสบการณ์ตรงของผมครับ***
***และตั้งแต่นั้นมาผมก็เริ่มเก็บวัตถุมงคล ของท่านพระอาจารย์จิมาตลอดครับ***
.....เล่ามาพอสมควรอย่างนี้ ต้องได้ เหรียญรุ่นแรก ทองแดงหลังเรียบ ของคุณลูกปู่ตากแล้วหละ... ตะไบหลังเรียบได้กี่เหรียญแล้วครับ




โดยคุณ gotton (1.1K)(1)   [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 20:38 น.] #1172986 (40/75)

โดยคุณ sornsak21 (3.3K)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 20:39 น.] #1173017 (41/75)
สวัสดีครับเฮียณัฏฐ์...
ผมตกลงกับขุนแล้ว..."ทองแดงหลังเรียบ จะนำไปจารยันต์ ตอกโค้ตเศรษฐีชะอำ" ครับ
จัดไปสร้างแค่ 9 เหรียญ...พร้อมกล่องเดิมจากวัด...แบ่งเป็นของหนิง ของขุน ของเฮีย ของพี่ทัช รวมแล้ว 4 เหรียญ

ที่เหลือเดี๋ยวเอามาแจกในเว็บ ผมวางแผนกับขุนทั้งคืน...งานนี้ดังอย่างเดียว...

หนิงกับขุนรับประกันเองครับเฮีย รุ่นนี้ไม่มีเสริม (ทำลายโค้ตทันที)
นัดกันที่ร้าน "3 ค" คนคุ้นเคย (ปลากะพง 3 รส...สุดยอด ถามขุนได้)...
ร้านนี้ข่าวว่า...เฮียคุ้นเคย


โดยคุณ lexibeat (56)  [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 21:54 น.] #1174149 (42/75)
"ทองแดงหลังเรียบ จะนำไปจารยันต์ ตอกโค้ตเศรษฐีชะอำ" น่าสนๆ ขอ +1

โดยคุณ anandusit (1.4K)(4)   [พฤ. 03 มิ.ย. 2553 - 23:59 น.] #1174456 (43/75)
มาที่หลังไม่ทันเลย แต่ก็ดีใจเพื่อนฝูงเยอะดี

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 00:02 น.] #1174458 (44/75)
ชักจะไปกันใหญ่ ป่ะเดี๋ยวทำจริงๆซะหรอก ฮี่ๆ ตอนนี้ได้ สามเหรียญครึ่งแล้วคับ มือบวมพักก่อน ครบ 9 เหรียญเมื่อไหร่ เปิดจองทันที เอาอย่างอย่านี้มั้ย ตอกซัก 19 โค๊ต เอาให้ไม่มีที่จารเลยดีมั้ยคับพี่ ชื่อรุ่น "ไว้โชว์ห้ามขาย" เพราะ คงม่ายมีครายซื้อ ฮี่ๆ

เล่าถึงประสบการณ์พระอาจารย์บ้างซะเรื่องเอาที่เจอกกับตัวเองเลยล่ะกันคับ ชัดเจนที่สุด ผมคงไม่มีประสบการณ์แนวบู๊แก่แล้วคับ กลัวตายแล้วไม่เอาแล้วเรื่องบู๊ๆ ทุกครั้งที่ผมขายของที่สนามหลวงบ้างเป็นบางครั้ง เก็บ ถ้วย ถัง กาละมัง หม้อ ของที่ไม่ใช้แล้วไปขาย ก่อนหน้านั้นเศรษฐกิจไม่ดี เอาทุกอย่างคับ ( ผมไม่ใช่ พานทองแท้อ่ะ ) ปลัดพระอาจารย์แอบจิ้มที่ของคับ อายสาวๆข้างแผง ทุกวันผมกลับบ้านไม่ต่ำกว่า วันล่ะ 500 บาทเป็นอย่างต่ำ บางวัน 2000 ก่าว ขยะน่ะคับเน้นคำว่าขายขยะฮ่าๆ แต่เป็นที่น่าเสียดายปลัดขิกเนื้อเงินผม เบี้ยแก้ผม ดันมาหายทั้งพวงงานไหว้ครูที่เพรชบุรี หายหมายเลข 20 กลับจากงาน หวยออก 20 เต็มๆโอ้ยจะบ้าตาย!! คิดไม่ถึง งานนี้เป็นอันว่าวาสนาน้อยไป เรื่องปลัดขิกนี้เพื่อนผมอีกคนที่เป็นทนายเจอมาบ่อยครั้งที่อัมพวา ขายองุ่นยังไม่ถึงชั่วโมงเก็บร้านก่อนเพื่อน ก็เอาปลัดนี้แหละคับอธิฐาน แล้วก็จิ้ม จิ้มมันเข้าไป เมียมันงงคับ แต่ก่อนขายไม่หมดเน่าบ้างเสียบ้าง เดี๋ยวนี้ไม่เกิน 6 โมงเย็นเกลี้ยงทุกวัน ปลัดขิกนี้ ได้ตอนผมบังคับให้มันเป็นประธานผ้าป่า ตอนนี้ขอคืนมันบอกเดี๋ยวปีหน้าเอาซองมาอีกกูจะเป็นประธานเองฮี่ๆ หวงฉิบ แง้มๆว่าตัวนี้เป็นเนื้อไม้ ท่านสร้างมาสมัยอยู่กัพ่อยิด แจกตอนนั้น ประมาณ 10 กว่าตัวคับ

อีกเรื่องเมื่อตอนต้นเดือนที่แล้ว รถแฟนผมโดนชนด้านข้างประตู ยุบ ต้องตีทั้งบาน จอดไว้เฉยๆ รถคู่กรณีหายต๋อม ( ชนแล้วหนีตามระเบียบ) งานนี้เสียตังค์อีกแน่น เลยพาแฟนไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ก่อนจะไปได้อธิฐาน กับพระอาจารย์ว่าขอให้คนทำผิดมารับผิดชอบด้วย รถกำลังจะไปถึงโรงพัก แค่ 500 เมตร แม่บ้านบอกว่ามีคนมารับผิดชอบแล้ว ผมกับแฟนแทบไม่เชื่อขนลุกชูชัน (ไม่ได้ปวดขี้น่ะคับ) ฮ่าๆ ตอนแรกมันกะหนีแล้ว แต่อีท่าไหนไม่รู้มารับผิดชอบเฉยเลย งานนี้เลยเสียแค่เวลาไม่เสียตังค์ ( ถึงจะไม่ใช่ป้ายแดงแพงโคะตะระ) แต่พระอาจารย์ท่านเมตตาเจิมให้ ไม่เอาเงินซักกะบาท แถมให้ปลัดขิกอันเบ่อเร่อด้วยฮ่าๆ ของฟรีอีกแล้วครับท่าน

(โปรดใช้ดุลพินิจ ในการอ่าน แต่ทั้งหมดคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นผมตัวกะผมเองขอรับ)

*** ความเชื่อของท่าน ศรัทธาของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา***

เคารพ
ลูกปู่ตาก(ขุน)

สรุปแล้วเหรียญสตางค์เฮียณัฐเป็นของผมคนเดียวฮ่าๆๆ ฮิ้ว

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 03:00 น.] #1174551 (45/75)
เรียนพี่วัดเพชร ผมบอกแล้วลงชื่อเลยฮ่าๆ สงสัยช้าไปไม่เป็นไรเพื่อไปคราวนี้ ถ้ามีของแปลกๆ เอามาเล่นเกมแบบพี่ทัชบ้างก็ดีเหมือนกันน่ะผมว่า

ฮิีว!!

โดยคุณ ณัฏฐ์5 (2.9K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 08:04 น.] #1174693 (46/75)
***คุณลูกปู่ตาก***
ค่าจัดส่งเท่าไร ออกใบกำกับภาษี มาเก็บที่ชะอำได้เลย เดี๋ยวจัดการให้ (แต่ห้ามเกิน 20 บาท)
***สวัสดีครับหนิง และทุกๆท่านด้วยนะครับ***
.....ดีใจที่มี เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เข้ามาคุยกันก็บ้าง ก็รู้สึกดีมาก ถ้ามีลูกศิษย์ลูกหามากขึ้น หน้าจะจัดทัวร์บุญไหว้พระ มาแถวเพชรบุรี แล้วแวะกราบนมัสการ ท่านพระอาจารย์จิ วัดหนองหว้า ให้ คุณลูกปู่ตาก และหนิง รับผิดชอบงานหละกัน ค่าใช่จ่ายเก็บที่ลูกปู่ตากแล้วกัน OK นะครับ
-เดี๋ยวเฮียเป็นเจ้าภาพ เลี้ยงปลากระพง 3 รส สักตัวที่ร้าน 3คอ หาดเจ้าสำราญ -

โดยคุณ technolog (4.5K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 08:25 น.] #1174721 (47/75)
ขอร่วมสนุกด้วยคนครับคุณtextile007
จริงๆแล้วดอกที่เป็นคำถามนั้นก็คือดอกต้นสาละลังกาหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ดอกต้นลูกปืนใหญ่หรือต้นแคนนอนบอลซึ่งเป็นคนละต้นกับต้นสาละใหญ่หรือสาละอินเดียต้นใม้ในตำนานพุทธศาสนา
แต่ด้วยความที่ว่าต้นสาละลังกามีดอกสวยและมีกลิ่นหอม คนเลยนิยมนำไปใช้ถวายพระอีกทั้งนิยมปลูกในวัดมากกว่าปลูกตามอาคารบ้านเรือน

ลักษณะผลของต้นสาละลังกาก็เป็นลูกกลมใหญ่เขาเลยเรียกว่าแคนนอนบอลซึ่งแตกต่างกับต้นสาละใหญ่มากที่ผลเป็นลักษณะเล็กและะมีครีบปีกยาว ลักษณะใบก็แตกต่างกันครับต้นสาละลังกาใบจะเรียวยาวส่วนต้นสาละใหญ่ใบกว้างคล้ายรูปไข่

สรุปว่าคนไทยใช้สับสนกันมานานแล้วครับลองเข้าไปอ่านรายละเอียดที่เวปนี้นะครับ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=12385



โดยคุณ textile007 (10K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 09:49 น.] #1174885 (48/75)


(D)


สวีสดียามเช้าครับ เดียวมาเฉลยคำตอบช่วงบ่ายครับ ท่านใดยังไม่ตอบแวะมาตอบนะครับ ถ้ามีคนตอบถูกมากเดียวผมจับเองแจกเองครับ
ปล. สำหรับเหรัยญทองแดงหลังเรียบของคุณลูกปูตาก ผมขอสละสิทธฺดีกว่าครับ ผมขอแขวนรุ่นธรรมดาน่าจะสบายใจกว่าครับ
ปลล.นำภาพสวยๆ มาฝากครับ เชิญไปเที่ยวกันเยอะๆนะครับ

โดยคุณ textile007 (10K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 09:56 น.] #1174898 (49/75)
สำหรับในภาพ ถ้าท่านใดทายถูกว่าอยู่ที่ไหน อย่างละเอียด แจกเพิ่ม อีก2 รางวัลครับ ปิดรับคำถามช่วงบ่ายแก่ๆครับ ถ้าท่านใดทายถูกเกินสองท่านขอจับฉลากนะครับ
ปล. เท่ากับ รางวัลของผมที่แจกมีทั้งหมดสี่รางวัล
1. รางวัล ผู้ตอบคำถามต้นไม้ 2 รางวัล
2. รางวัลผู้ตอบคำถาม ทะเล 2 รางวัล
ปล.ส่วนของรางวัลท่านลูกปู่ตากและ พี่ณัฐ5 ท่านใจดี อาจแจกทุกคนครับ

โดยคุณ หนุ่ยนคร (4.7K)(1)   [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 09:59 น.] #1174903 (50/75)
ประวัติโดยย่อ พระครูสมุห์สมจิต (พระอาจารย์จิ สมจิตโต) วัดหนองว้า ท่านเกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2507 ที่บ้านในดอน ต.หนองขนาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2527 ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐาน กับหลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง เพชร บุรี และศึกษาพุทธาคมกับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประ จวบฯ ปัจจุบันเป็นรองเจ้าอาวาสวัดหนองว้าและเป็นเลขานุการเจ้าคณะตำบลหาดเจ้าสำราญ
หลังจากปี พ.ศ. 2529 ที่ ท่าน พระอาจารย์จิ ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมวิชาไสย์เวทย์ต่างๆ จากหลวงพ่อยิดจนหมดไส้หมดพุงแล้ว หลวงพ่อยิดท่านได้เอ่ยปากชวนอยู่จำพรรษาที่วัดหนองจอกเลย และจะให้กรรมการปลูกกุฏิให้อยู่จำพรรษาต่างหากเลยแต่พระอาจารย์จิ ท่านก็ไม่สามารถทำตามความประสงค์ของหลวงพ่อยิดได้ ท่านจึงได้ลาหลวงพ่อยิดกลับมาอยู่จำพรรษาต่อที่วัดหนองหว้าและนำวิชาต่างๆ ที่หลวงพ่อยิดถ่ายทอดมาให้หมั่นฝึกฝนอยู่เป็นเนืองนิตย์ไม่เคยขาด ไม่เคยละในวัตรปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน ปฏิบัติหมั่นเพียรอยู่ตลอดเวลา จนจิตเป็นสมาธินิ่งสงบและที่มาที่ไปของคำที่ว่า หลวงพ่อยิดท่าสนเอ่ยปากพูดขึ้นว่า "ท่านจิ ท่าสนเก่งจริงๆ ทำอำไร ปลุกเสกอะไรได้เหมือนหลวงพ่อทุกอย่าง" ท่ามกลางลูกศิษย์ลูกหาหลายท่าน มีทั้งพระสงฆ์ และฆราวาส เนื่องด้วยประมาณปี พ.ศ. 2535 ต้นๆ ปี ในขณะนั้นผู้เขียนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ได้มีพระรูปหนึ่งชื่อ หลวงตาเพลิน เคยบวชอยู่ที่วัดบางทะลุ ตำบลหาดเจ้าสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระผู้ที่มาริเริ่มบูรณะวัดเก่าแก่ ซึ่งเหลือโบสถ์เก่าเป็นหลักฐานอยู่ที่ดอนบ้านใหม่ ในพื้นที่เขตตำบลหาดเจ้าสำราญ รกร้างมานานจนเป็นเรื่องกล่าวขานกันว่า....
วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดย พระสมเด็จพระสังฆราชเจ้าแตงโม เป็นผู้สร้าง ซึ่ง หลวงตาเพลิน เป็นลูกเกิดที่นั่น มีจิตเป็นกุศลอยากจะบูรณะวัดร้างให้เป็นวัดสมบูรณ์จึงพาญาติโยมเดินทางมาหาหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เพื่อขอวัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดไปแจกเป็นมงคลให้กับผู้ที่มาบริจาคทรัพย์ร่วมสร้างวัดดอนบ้านใหม่พอเอ่ยปากบอกกับ หลวงพ่อยิด ท่านจึงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า หลวงตาเพลินจะเอาปลัดขิก ไม่ต้องมาถึงฉันนี่หรอก ไปหาท่านจิ วัดหนองหว้าซิเป็นลูกศิษย์ฉันเอง "ท่านจิท่านเก่งจริงๆ ทำอะไรปลุกเสกอะไรได้เหมือนฉันทุกอย่างเลย" ของที่ท่านจิปลุกเหมือนกับฉันปลุกเสกเลยทุกอย่างไม่ต้องมาถึงกุยบุรีหรอก อยู่เพชรบุรีใกล้กันนิดเดียว จากคำพูดนี้เอง หลวงตาเพลิน จึงได้ให้ชาวบ้านแกะปลัดขิก และนำไปให้ พระอาจารย์จิ ลงจารยันต์ปลุกเสกมาตลอดทุกปี แล้วนำปลักขิกนี้มาแจกให้กับผู้ที่มีความศรัทธา ร่วมสร้างวัดจนเป็นวัดดอนบ้านใหม่อย่างสมบูรณ์แบบทุกวันนี้ก็ด้วยบารมีพระอาจารย์จิ ปลุกเสกปลัดขิกให้จริงๆ มีผู้คนมากมายที่นำวัตถุมงคลของท่านไปใช้ได้ผลจริงๆ มีประสบการณ์มากมาย ปลัดขิกของท่านพุทธคุณครบเครื่องเหมือนกับของหลวงพ่อยิด ผู้เป็นอาจารย์จริงๆ ดีเด่นทางด้านมหาเมตตา ค้าขายดี พกติดตัวแคล้วคลาด แลอดภัย เป็นคงกระพันชาตรีอีกด้วย ปัจจุบันท่านได้สร้างวัตถุมงคลออกมาอย่างเป็นทางการให้ศิษยานุศิษย์ได้บูชากัน ซึ่งมีกระแสตอบรับดีมาก ศิษย์หลวงพ่อยิด จำนวนมากได้มาบูชาเก็บวัตถุมงคลของท่านกัน เพราะรู้ว่าวันข้างหน้าดังแน่นอน จึงได้รีบเก็บบูชาไว้ก่อนต่อไปหายากเดี๋ยวจะบูชาแพงเหมือนของหลวงพ่อยิดที่ตอนนี้หายากแล้ว
ท่านเป็นพระอาจารย์หนุ่ม อายุ 40 กว่าๆ ปี สงบ นิ่ง สุขุม ไม่พูดมาก สำรวมในกริยาแบบพระสุปฎิปันโน ลายจารอักขระสวยงาม เข็มขลัง ไม่แพ้อาจารย์ของท่าน ***ท่านออกวัตถุมงคลมานานแล้ว แต่ด้วยท่านเป็นพระหนุ่ม คนจึงมองข้ามท่านไป ไปเพชรบุรี ก็เข้าวัดตาลกง ไปไม่ถึง วัดหนองหว้า สักที หรือไม่ ก็เลยไปวัดชายนา เลยที่เดียว ด้วยความที่เป็นพระพูดน้อย เลยทำให้บางคนมองไปต่างๆนาๆ ซึ่งความจริงแล้วท่านมีเมตตามาก ขอแค่เอ่ยปากเท่านั้นท่านไม่เคยขัด อันนี้ผมสัมพัสกับตัวเองมาแล้วคับ***

โดยคุณ หนุ่ยนคร (4.7K)(1)   [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 10:29 น.] #1175002 (51/75)


(D)


"เกาะนางยวน" เป็นเกาะหนึ่งในจำนวน 100 เกาะของจังหวัดสุราษฏร์ธานี อยู่ปลายของเกาะเต่า มองเห็นเป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะซึ่งเชื่อมต่อด้วยหาดทรายสีขาว 3 สาย เสน่ห์ของเกาะนางยวนนั้น มาจากน้ำทะเลสีมรกตที่ใสจนมองเห็นตัวปลาตัวเล็กตัวน้อย เปลือกหอย และปะการัง ซึ่งอยู่ใต้น้ำอย่างชัดเจน ส่วนกิจกรรมสุดฮิตของที่นี่คือ การดำน้ำดูปะการังปละปลาสวยงาม เล่นน้ำริมหาด จะว่าไปนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เลือกมาท่องเที่ยวและพักผ่อนที่นี่นั้น เหตุเพราะมีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว อากาศสดชื่น ทั้งยังมีความเขียวขจีของเขาเล็กๆ 3 เขารายรอบ และความงามของท้องทะเลมาบรรจบกัน
สำหรับที่พักบนเกาะนางยวนนั้น ก็มีให้เลือกหลากหลายตามความชอบ ทั้งรีสอร์ทและบังกะโล ที่สร้างเล่นระดับได้อย่างสวยงามผสมกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างที่สุด ทุกๆ หลังจะหันหน้าสู่ท้องทะเล ในมุมที่แตกต่างกัน สามารถนอนกินลมชมวิวที่สวยงามได้อย่างสบายๆ ในวันที่อากาศแสนดี

โดยคุณ หน่องโค๊ก (6.1K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 10:56 น.] #1175055 (52/75)
เกาะนางยวน
มีลักษณะเป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะ อยู่ด้านตะวันตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า ใกลกันกับแหลมยายณี ใช้เรือหางยาวในการเดินทางจากแหลมยายณีไปเกาะนางยวนเพียง 5 นาทีครับ ลักษณะของเกาะมีความสวยงามมากครับ เพราะเกาะทั้งสามถูกเชื่อมให้เดินได้ถึงกันด้วยสันสายที่เป็นแนวยาว ชายหาดที่นี่เป็นชายหาดที่สะอาดมาก ๆ เลยครับ เพราะเข้มงวดกับการรักษาความสะอาดมาก เป็นเกาะหนึ่งในจำนวน 100 เกาะของจังหวัดสุราษฏร์ธานี อยู่ปลายของเกาะเต่า มองเห็นเป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะซึ่งเชื่อมต่อด้วยหาดทรายสีขาว 3 สาย เสน่ห์ของเกาะนางยวนนั้น มาจากน้ำทะเลสีมรกตที่ใสจนมองเห็นตัวปลาตัวเล็กตัวน้อย เปลือกหอย และปะการัง ซึ่งอยู่ใต้น้ำอย่างชัดเจน ส่วนกิจกรรมสุดฮิตของที่นี่คือ การดำน้ำดูปะการังปละปลาสวยงาม เล่นน้ำริมหาด จะว่าไปนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เลือกมาท่องเที่ยวและพักผ่อนที่นี่นั้น เหตุเพราะมีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว อากาศสดชื่น ทั้งยังมีความเขียวขจีของเขาเล็กๆ 3 เขารายรอบ และความงามของท้องทะเลมาบรรจบกัน

โดยคุณ ออนไลน์ (884)(1)   [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 11:21 น.] #1175087 (53/75)
เกาะนางยวน
มีลักษณะเป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะ อยู่ด้านตะวันตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า ใกลกันกับแหลมยายณี ใช้เรือหางยาวในการเดินทางจากแหลมยายณีไปเกาะนางยวนเพียง 5 นาทีครับ ลักษณะของเกาะมีความสวยงามมากครับ เพราะเกาะทั้งสามถูกเชื่อมให้เดินได้ถึงกันด้วยสันสายที่เป็นแนวยาว ชายหาดที่นี่เป็นชายหาดที่สะอาดมาก ๆ เลยครับ เพราะเข้มงวดกับการรักษาความสะอาดมาก เป็นเกาะหนึ่งในจำนวน 100 เกาะของจังหวัดสุราษฏร์ธานี อยู่ปลายของเกาะเต่า มองเห็นเป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะซึ่งเชื่อมต่อด้วยหาดทรายสีขาว 3 สาย เสน่ห์ของเกาะนางยวนนั้น มาจากน้ำทะเลสีมรกตที่ใสจนมองเห็นตัวปลาตัวเล็กตัวน้อย เปลือกหอย และปะการัง ซึ่งอยู่ใต้น้ำอย่างชัดเจน ส่วนกิจกรรมสุดฮิตของที่นี่คือ การดำน้ำดูปะการังปละปลาสวยงาม เล่นน้ำริมหาด จะว่าไปนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เลือกมาท่องเที่ยวและพักผ่อนที่นี่นั้น เหตุเพราะมีบรรยากาศที่เป็นส่วนตัว อากาศสดชื่น ทั้งยังมีความเขียวขจีของเขาเล็กๆ 3 เขารายรอบ และความงามของท้องทะเลมาบรรจบกัน

โดยคุณ หน่องโค๊ก (6.1K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 12:18 น.] #1175153 (54/75)
ประวัติโดยย่อ พระครูสมุห์สมจิต (พระอาจารย์จิ สมจิตโต) วัดหนองว้า ท่านเกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2507 ที่บ้านในดอน ต.หนองขนาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2527 ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐาน กับหลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง เพชร บุรี และศึกษาพุทธาคมกับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประ จวบฯ ปัจจุบันเป็นรองเจ้าอาวาสวัดหนองว้าและเป็นเลขานุการเจ้าคณะตำบลหาดเจ้า สำราญ
หลังจากปี พ.ศ. 2529 ที่ ท่าน พระอาจารย์จิ ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมวิชาไสย์เวทย์ต่างๆ จากหลวงพ่อยิดจนหมดไส้หมดพุงแล้ว หลวงพ่อยิดท่านได้เอ่ยปากชวนอยู่จำพรรษาที่วัดหนองจอกเลย และจะให้กรรมการปลูกกุฏิให้อยู่จำพรรษาต่างหากเลยแต่พระอาจารย์จิ ท่านก็ไม่สามารถทำตามความประสงค์ของหลวงพ่อยิดได้ ท่านจึงได้ลาหลวงพ่อยิดกลับมาอยู่จำพรรษาต่อที่วัดหนองหว้าและนำวิชาต่างๆ ที่หลวงพ่อยิดถ่ายทอดมาให้หมั่นฝึกฝนอยู่เป็นเนืองนิตย์ไม่เคยขาด ไม่เคยละในวัตรปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน ปฏิบัติหมั่นเพียรอยู่ตลอดเวลา จนจิตเป็นสมาธินิ่งสงบและที่มาที่ไปของคำที่ว่า หลวงพ่อยิดท่าสนเอ่ยปากพูดขึ้นว่า "ท่านจิ ท่าสนเก่งจริงๆ ทำอำไร ปลุกเสกอะไรได้เหมือนหลวงพ่อทุกอย่าง" ท่ามกลางลูกศิษย์ลูกหาหลายท่าน มีทั้งพระสงฆ์ และฆราวาส เนื่องด้วยประมาณปี พ.ศ. 2535 ต้นๆ ปี ในขณะนั้นผู้เขียนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ได้มีพระรูปหนึ่งชื่อ หลวงตาเพลิน เคยบวชอยู่ที่วัดบางทะลุ ตำบลหาดเจ้าสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระผู้ที่มาริเริ่มบูรณะวัดเก่าแก่ ซึ่งเหลือโบสถ์เก่าเป็นหลักฐานอยู่ที่ดอนบ้านใหม่ ในพื้นที่เขตตำบลหาดเจ้าสำราญ รกร้างมานานจนเป็นเรื่องกล่าวขานกันว่า....
วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดย พระสมเด็จพระสังฆราชเจ้าแตงโม เป็นผู้สร้าง ซึ่ง หลวงตาเพลิน เป็นลูกเกิดที่นั่น มีจิตเป็นกุศลอยากจะบูรณะวัดร้างให้เป็นวัดสมบูรณ์จึงพาญาติโยมเดินทางมาหา หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เพื่อขอวัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดไปแจกเป็นมงคลให้กับผู้ที่มาบริจาคทรัพย์ร่วม สร้างวัดดอนบ้านใหม่พอเอ่ยปากบอกกับ หลวงพ่อยิด ท่านจึงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า หลวงตาเพลินจะเอาปลัดขิก ไม่ต้องมาถึงฉันนี่หรอก ไปหาท่านจิ วัดหนองหว้าซิเป็นลูกศิษย์ฉันเอง "ท่านจิท่านเก่งจริงๆ ทำอะไรปลุกเสกอะไรได้เหมือนฉันทุกอย่างเลย" ของที่ท่านจิปลุกเหมือนกับฉันปลุกเสกเลยทุกอย่างไม่ต้องมาถึงกุยบุรีหรอก อยู่เพชรบุรีใกล้กันนิดเดียว จากคำพูดนี้เอง หลวงตาเพลิน จึงได้ให้ชาวบ้านแกะปลัดขิก และนำไปให้ พระอาจารย์จิ ลงจารยันต์ปลุกเสกมาตลอดทุกปี แล้วนำปลักขิกนี้มาแจกให้กับผู้ที่มีความศรัทธา ร่วมสร้างวัดจนเป็นวัดดอนบ้านใหม่อย่างสมบูรณ์แบบทุกวันนี้ก็ด้วยบารมีพระ อาจารย์จิ ปลุกเสกปลัดขิกให้จริงๆ มีผู้คนมากมายที่นำวัตถุมงคลของท่านไปใช้ได้ผลจริงๆ มีประสบการณ์มากมาย ปลัดขิกของท่านพุทธคุณครบเครื่องเหมือนกับของหลวงพ่อยิด ผู้เป็นอาจารย์จริงๆ ดีเด่นทางด้านมหาเมตตา ค้าขายดี พกติดตัวแคล้วคลาด แลอดภัย เป็นคงกระพันชาตรีอีกด้วย ปัจจุบันท่านได้สร้างวัตถุมงคลออกมาอย่างเป็นทางการให้ศิษยานุศิษย์ได้บูชา กัน ซึ่งมีกระแสตอบรับดีมาก ศิษย์หลวงพ่อยิด จำนวนมากได้มาบูชาเก็บวัตถุมงคลของท่านกัน เพราะรู้ว่าวันข้างหน้าดังแน่นอน จึงได้รีบเก็บบูชาไว้ก่อนต่อไปหายากเดี๋ยวจะบูชาแพงเหมือนของหลวงพ่อยิดที่ ตอนนี้หายากแล้ว
ท่านเป็นพระอาจารย์หนุ่ม อายุ 40 กว่าๆ ปี สงบ นิ่ง สุขุม ไม่พูดมาก สำรวมในกริยาแบบพระสุปฎิปันโน ลายจารอักขระสวยงาม เข็มขลัง ไม่แพ้อาจารย์ของท่าน ***ท่านออกวัตถุมงคลมานานแล้ว แต่ด้วยท่านเป็นพระหนุ่ม คนจึงมองข้ามท่านไป ไปเพชรบุรี ก็เข้าวัดตาลกง ไปไม่ถึง วัดหนองหว้า สักที หรือไม่ ก็เลยไปวัดชายนา เลยที่เดียว ด้วยความที่เป็นพระพูดน้อย เลยทำให้บางคนมองไปต่างๆนาๆ ซึ่งความจริงแล้วท่านมีเมตตามาก ขอแค่เอ่ยปากเท่านั้นท่านไม่เคยขัด อันนี้ผมสัมพัสกับตัวเองมาแล้วคับ***

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 13:41 น.] #1175250 (55/75)
สุดยอดอยากไปเที่ยวจังเลย ใครออกตังให้ทีจะจูบแก้ทก้นงามๆ สามทีคับ

โดยคุณ Agri_07 (620)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 15:21 น.] #1175374 (56/75)
ประวัติโดยย่อพอสังเขป
พระครูสมุห์สมจิต (พระอาจารย์จิ สมจิตโต) วัดหนองว้า ท่านเกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2507 ที่บ้านในดอน ต.หนองขนาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2527 ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐาน กับหลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง เพชร บุรี และศึกษาพุทธาคมกับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประ จวบฯ ปัจจุบันเป็นรองเจ้าอาวาสวัดหนองว้าและเป็นเลขานุการเจ้าคณะตำบลหาดเจ้าสำราญ
หลังจากปี พ.ศ. 2529 ที่ ท่าน พระอาจารย์จิ ท่านได้ศึกษาวิชาอาคมวิชาไสย์เวทย์ต่างๆ จากหลวงพ่อยิดจนหมดไส้หมดพุงแล้ว หลวงพ่อยิดท่านได้เอ่ยปากชวนอยู่จำพรรษาที่วัดหนองจอกเลย และจะให้กรรมการปลูกกุฏิให้อยู่จำพรรษาต่างหากเลยแต่พระอาจารย์จิ ท่านก็ไม่สามารถทำตามความประสงค์ของหลวงพ่อยิดได้ ท่านจึงได้ลาหลวงพ่อยิดกลับมาอยู่จำพรรษาต่อที่วัดหนองหว้าและนำวิชาต่างๆ ที่หลวงพ่อยิดถ่ายทอดมาให้หมั่นฝึกฝนอยู่เป็นเนืองนิตย์ไม่เคยขาด ไม่เคยละในวัตรปฏิบัติพระกัมมัฏฐาน ปฏิบัติหมั่นเพียรอยู่ตลอดเวลา จนจิตเป็นสมาธินิ่งสงบและที่มาที่ไปของคำที่ว่า หลวงพ่อยิดท่าสนเอ่ยปากพูดขึ้นว่า "ท่านจิ ท่าสนเก่งจริงๆ ทำอำไร ปลุกเสกอะไรได้เหมือนหลวงพ่อทุกอย่าง" ท่ามกลางลูกศิษย์ลูกหาหลายท่าน มีทั้งพระสงฆ์ และฆราวาส เนื่องด้วยประมาณปี พ.ศ. 2535 ต้นๆ ปี ในขณะนั้นผู้เขียนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ได้มีพระรูปหนึ่งชื่อ หลวงตาเพลิน เคยบวชอยู่ที่วัดบางทะลุ ตำบลหาดเจ้าสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระผู้ที่มาริเริ่มบูรณะวัดเก่าแก่ ซึ่งเหลือโบสถ์เก่าเป็นหลักฐานอยู่ที่ดอนบ้านใหม่ ในพื้นที่เขตตำบลหาดเจ้าสำราญ รกร้างมานานจนเป็นเรื่องกล่าวขานกันว่า....
วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดย พระสมเด็จพระสังฆราชเจ้าแตงโม เป็นผู้สร้าง ซึ่ง หลวงตาเพลิน เป็นลูกเกิดที่นั่น มีจิตเป็นกุศลอยากจะบูรณะวัดร้างให้เป็นวัดสมบูรณ์จึงพาญาติโยมเดินทางมาหาหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เพื่อขอวัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดไปแจกเป็นมงคลให้กับผู้ที่มาบริจาคทรัพย์ร่วมสร้างวัดดอนบ้านใหม่พอเอ่ยปากบอกกับ หลวงพ่อยิด ท่านจึงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า หลวงตาเพลินจะเอาปลัดขิก ไม่ต้องมาถึงฉันนี่หรอก ไปหาท่านจิ วัดหนองหว้าซิเป็นลูกศิษย์ฉันเอง "ท่านจิท่านเก่งจริงๆ ทำอะไรปลุกเสกอะไรได้เหมือนฉันทุกอย่างเลย" ของที่ท่านจิปลุกเหมือนกับฉันปลุกเสกเลยทุกอย่างไม่ต้องมาถึงกุยบุรีหรอก อยู่เพชรบุรีใกล้กันนิดเดียว จากคำพูดนี้เอง หลวงตาเพลิน จึงได้ให้ชาวบ้านแกะปลัดขิก และนำไปให้ พระอาจารย์จิ ลงจารยันต์ปลุกเสกมาตลอดทุกปี แล้วนำปลักขิกนี้มาแจกให้กับผู้ที่มีความศรัทธา ร่วมสร้างวัดจนเป็นวัดดอนบ้านใหม่อย่างสมบูรณ์แบบทุกวันนี้ก็ด้วยบารมีพระอาจารย์จิ ปลุกเสกปลัดขิกให้จริงๆ มีผู้คนมากมายที่นำวัตถุมงคลของท่านไปใช้ได้ผลจริงๆ มีประสบการณ์มากมาย ปลัดขิกของท่านพุทธคุณครบเครื่องเหมือนกับของหลวงพ่อยิด ผู้เป็นอาจารย์จริงๆ ดีเด่นทางด้านมหาเมตตา ค้าขายดี พกติดตัวแคล้วคลาด แลอดภัย เป็นคงกระพันชาตรีอีกด้วย ปัจจุบันท่านได้สร้างวัตถุมงคลออกมาอย่างเป็นทางการให้ศิษยานุศิษย์ได้บูชากัน ซึ่งมีกระแสตอบรับดีมาก ศิษย์หลวงพ่อยิด จำนวนมากได้มาบูชาเก็บวัตถุมงคลของท่านกัน เพราะรู้ว่าวันข้างหน้าดังแน่นอน จึงได้รีบเก็บบูชาไว้ก่อนต่อไปหายากเดี๋ยวจะบูชาแพงเหมือนของหลวงพ่อยิดที่ตอนนี้หายากแล้ว
ท่านเป็นพระอาจารย์หนุ่ม อายุ 40 กว่าๆ ปี สงบ นิ่ง สุขุม ไม่พูดมาก สำรวมในกริยาแบบพระสุปฎิปันโน ลายจารอักขระสวยงาม เข้มขลัง ขอรับท่าน

โดยคุณ textile007 (10K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:13 น.] #1175453 (57/75)


(D)
ปิดรับคำตอบครับ
เฉลยครับ
งานนี้จับกันเห็นๆขอชื่อที่อยู่ด้วยนะครับ รายชื่อผู้โชคดีครับ
1 หนุ่ยนคร
2 technolog
3 หน่องโค้ก
4 Agril o7
ครับ ขอที่อยู่จัดส่งด้วยนะครับ
ปล.ชัดเจนครับ จับโดยน้องเลขาที่ทำง่านครับ

โดยคุณ textile007 (10K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:15 น.] #1175456 (58/75)
แสดงความยินดีด้วยนะครับ ส่วนท่านที่ไม่ได้ เดียวทางพี่ณัฐ กะ ท่านลูกปตาก คงจัดการให้ทุกท่านครับ

โดยคุณ textile007 (10K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:18 น.] #1175461 (59/75)


(D)
จากมีผู้ตอบทั้งหมดแปดท่านจับสี่ท่านผู้โชคดีครับ
ปล. ของรางวัลไว้รอดูเองนะครับ

โดยคุณ Agri_07 (620)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:27 น.] #1175479 (60/75)
โดยคุณ textile007 [สมาชิกที่ผ่านการรับรองบุคคลแล้ว] [ดูรายการทั้งหมดของผู้ตั้งประมูล] (58.8.40.*) [4 Jun 2010 16:13] #1175453 (57/58)


(Y)
ปิดรับคำตอบครับ
เฉลยครับ
งานนี้จับกันเห็นๆขอชื่อที่อยู่ด้วยนะครับ รายชื่อผู้โชคดีครับ
1 หนุ่ยนคร
2 technolog
3 หน่องโค้ก
4 Agril o7
ครับ ขอที่อยู่จัดส่งด้วยนะครับ
ปล.ชัดเจนครับ จับโดยน้องเลขาที่ทำง่านครับ



ขอบคุณมากครับพี่ท่านtextile007

ปล. ที่อยู่ผมจัดส่ง ไปให้เรียบร้อย ขอรับพี่ท่าน

โดยคุณ technolog (4.5K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:27 น.] #1175480 (61/75)
ขอบคุณคุณtextile007(คนตั้งรางวัล)และคุณลูกปู่ตาก(เจ้าของกระทู้)มากครับ ขอให้รวย ๆๆๆๆๆๆครับ

โดยคุณ textile007 (10K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:34 น.] #1175492 (62/75)
-รับทราบครับท่านAgril07 จัดส่งวันจันทร์ทุกท่านครับ
ปล.ขอบคุณมากครับพี่ชัย เทคโนร็อค งวดนี้ผมโดน งวดหน้าพี่ขอให้โดนนะครับ

โดยคุณ หน่องโค๊ก (6.1K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:38 น.] #1175503 (63/75)
ที่อยู่ครับ

ยุทธพงษ์ ศิริวิกุล

111/217 หมู่ที่ 11 หมู่บ้านอยู่สบาย3

ต.หัวทะเล อ.เมือง

จ.นครราชสีมา 30000


ขอบคุณครับ

โดยคุณ textile007 (10K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:46 น.] #1175527 (64/75)
รับทรายครับท่านหน่องโค้กครับ ขอบคุณมากๆครับ

โดยคุณ หนุ่ยนคร (4.7K)(1)   [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:56 น.] #1175542 (65/75)
พรศักดิ์ ทิพย์ธเนศวร

58 ถ.จอมพล อ.เมือง

ต.ในเมือง จ.นครราชสีมา

30000

โดยคุณ textile007 (10K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 16:58 น.] #1175547 (66/75)
รับทราบครับ ท่านหนุ่ยนคร ขอบคุณมากครบ

โดยคุณ textile007 (10K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 17:01 น.] #1175551 (67/75)
สืบเนื่องจากประสบการณ์ครับ
บางอย่างเล่าที่นี่ มันเรื่องปัตจัตตัง มากเกินไปเล่าที่นี้อาจไม่สมควรเท่าไรนักครับ
แต่ โนมยิทธิ ของหลวงพ่อท่านแจ่มแจ้ง ชัดเจนมากครับ สาธุ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 17:23 น.] #1175584 (68/75)
ผมอยากขอเรื่องเดียวเท่านั้นคับพี่ทัช เมื่อไหร่จะถูกหวยซักทีคร๊าบพี่น้องคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบ

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 17:26 น.] #1175587 (69/75)
พี่ทัช น้องเลขางามจัง น่าอิจฉาคนทำงานไกล้ๆฮี่ๆๆฮิ้ว!

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 17:29 น.] #1175590 (70/75)
ลืมอีก วุ้ยเรา ท่านใดที่พลาดรางวัลลองชื่อที่อยู่ได้เลยคับ เหรียญสางต์ในกล่องงามๆ ของเฮียณัฐรอท่านอยู่ จร้า

โดยคุณ ออนไลน์ (884)(1)   [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 17:45 น.] #1175608 (71/75)
พรประสิทธิ์ วิเวชภูวนนท์

19 ถ.โพธิ์กลาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา 30000

โดยคุณ ออนไลน์ (884)(1)   [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 17:46 น.] #1175610 (72/75)
ขอบคุณครับท่าน

โดยคุณ ลูกปู่ตาก (2K)  [ศ. 04 มิ.ย. 2553 - 19:00 น.] #1175685 (73/75)
รับทราบคับ ท่านออนไลน์ขอบคุณมากคับ เดียววันจันทร์จัดส่งให้

โดยคุณ textile007 (10K)  [จ. 07 มิ.ย. 2553 - 15:11 น.] #1179192 (74/75)
จัดส่งของรางวัลให้ทุกท่านเรียบร้อยละครับ

โดยคุณ Agri_07 (620)  [พ. 09 มิ.ย. 2553 - 14:50 น.] #1181659 (75/75)
ผมได้รับพระเรียบร้อย ขอบคุณครับพี่ท่านtextile007

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www5