 (D)

****เห็นโฆษณา...กันแพร่หลาย....หลายหลวงพ่อ....หลายอาจารย์.....หลายสำนัก......เนื่องจากเป็นผู้หนึ่งที่ได้ร่วมจัดพิธีประมาณ 3 - 4 ครั้ง......จึงเอาประวัติพร้อมการสร้างพอสังเขปมาให้อ่าน( จริงๆหลวงปู่มาท่านเคยทำเป็นหนังสือไว้แต่ได้แจกไปหมดจึงนำมาเท่าที่จำได้ครับ )....โปรดใช้พิจารณาเองครับ*******
ในสมัยพุทธกาล มหาเศรษฐีทั้งเก้าท่าน ได้เป็นพุทธอุปัฎฐากขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยังเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "เป็นผู้เลิศในการทำบุญและเป็นยอดแห่งมหาเศรษฐีทั้งปวง"
ท่านมหาเศรษฐีทั้งเก้าท่าน มีรายนามดังนี้
1. ธนัญชัยมหาเศรษฐี
2. ยัสสะมหาเศรษฐี
3. สุมนะมหาเศรษฐี
4. ชฏิสัสสะมหาเศรษฐี
5. อนาถบิณฑิกะมหาเศรษฐี
6. เมณฑกะมหาเศรษฐี
7. โชติกะมหาเศรษฐี
8. สุมังคละมหาเศรษฐี
9. มหาอุบาสิกาวิสาขา (พระนางวิสาขา)
ท่านมหาเศรษฐีทั้งเก้าท่าน ล้วนแต่เป็นพระอริยโสดาบันทั้งสิ้น กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม ความดีงาม
พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ มีตำนานเล่าขานในราชอาณาจักรล้านช้างโบราณ ว่า ในยุคหนึ่งได้เกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ฝนไม่ตกเจ็ดปี เกิดทุกข์เข็ญ ความเดือดร้อน ตลอดทั้งเกิดโรคอหิวาตกโรค ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมาก
ในเวลาต่อมาได้มีพระอรัญญวาสี (พระผู้อยู่ในป่า) ผู้ทรงคุณในทางวิปัสสนากัมมัฏฐาน ได้มาบอกให้เจ้าพญาผู้ครองราชอาณาจักรว่า "ให้พากันสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ หรือ พระเก้าเศรษฐีขึ้นมาทำการสักการบูชาเสียแล้วเหตุเภทภัยทั้งหลาย จะระงับดับไป"
พระอรัญญวาสี ยังได้บอกเคล็ดและวิธีการต่างๆ ตลอดถึงฤกษ์ยามอันเป็นมงคล สำหรับใช้ในการจัดสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ
เจ้าพญาผู้ครองราชอาณาจักร ได้ทำตามวิธีการนั้น ไม่นานปรากฏผล เรื่องเลวร้ายต่างๆ ได้เกิดระงับดับไปตามที่พระอรัญญวาสีองค์นั้นได้บอกไว้ทุกประการ ตลอดทั้งเกิดความอุดมสมบูรณ์ ด้วยข้าวปลาอาหาร ร่มเย็นเป็นสุข
ด้วยเหตุนี้ ประชาชนแห่งราชอาณาจักรล้านช้างโบราณ จึงนิยมจัดสร้างและบูชาสักการะองค์พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ส่วนกำเนิดพระมหาเศรษฐีนวโกฏิในแผ่นดินสยาม พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) อดีตเจ้าอาวาส วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ พระอาจารย์ใหญ่ สายวิปัสสนากัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ในสมัยที่ท่านได้ไปเป็นผู้ปกครองการคณะสงฆ์ในตำแหน่งพระสังฆปาโมกข์ ที่นครจำปาศักดิ์ และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดอำมาตยาราม ได้รับการสืบทอดตำรามาจากญาท่านสำเร็จลุน วัดบ้านเวินไซ
เมื่อท่านได้รับการถ่ายทอดตำรามาแล้ว ท่านได้ศึกษาค้นคว้าจนเข้าใจถึงอรรถาธิบาย ถึงวิธีการสร้าง พิธีการจัดการปลุกเสก ตลอดถึงฤกษ์ยามในพิธีการจัดสร้าง จนเป็นที่เข้าใจ
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ได้มอบตำรานี้แก่พระเทพวรคุณ (หลวงปู่อ่ำ ภัทราวุโธ) วัดมณีชลขันธ์ อ.เมือง จ.ลพบุรี ผู้เป็นน้องชาย
ต่อมา ตำราการสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ได้ตกทอดไปอยู่กับพระปราจีนมุนี วัดมะกอก จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ชั้นผู้ใหญ่ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
พ.ศ.2489 พระปราจีนมุนี ได้มอบตำราการสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ให้กับหลวงปู่มา ญาณวโร สันติวิเวก อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
ภายหลัง หลวงปู่มา ( ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม เป็นศิษย์ผู้พี่หลวงพ่อแย้ม )ได้รับการสืบทอดตำราแห่งการสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ หลวงปู่ได้ออกธุดงควัตร จนกระทั่ง สร้างวัดวิเวกอาศรม ต.ภูเงิน อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ( ภายหลังย้ายมาสร้างวัดใหม่ คือ สันติวิเวก อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ประมาณปีพ.ศ. 2548 -2530 และอยู่มาจนมรณภาพเมื่อปลายปีที่แล้วครับ )และได้จัดสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ มอบให้กับลูกศิษย์ใกล้ชิด
พ.ศ.2519 หลวงปู่มา ญาณวโร ได้สร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิแกะสลักจากไม้ยอป่า จัดสร้างเป็นวัตถุงคลพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ เป็นรูปหล่อลอยองค์เป็นครั้งแรก
***ตามที่หลวงปู่มาเคยเล่าให้ฟังและพอจำได้ การสร้างตามตำราโบราณ จะใช้ไม้มงคล 9 ชนิด โดยองค์พระจะใช้ไม้ยอป่า ( ถ้าได้ไม้ย่อป่าที่เกิดกลางจอมปลวกจะมีคุณวิเศษสุด ) ฐานทำด้วยไม้ขนุนแล้วอุดใต้ฐานด้วย ไม้มงคลอีก 7 ชนิด.........แต่เนื่องจากไม้หลายอย่างหายากจึงได้ใช้โลหะ 9 อย่างแทน ( นวะโลหะ ) แล้วจึงอุดด้วยผงไม้มงคล 9 ชนิด....โดยจะทำพิธีได้ปีละครั้ง ในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 เท่านั้น ( ตามตำราโบราณ ) ในพิธีจะมีเครื่องบวงสรวงเหมือนพิธีทั่วไป แต่จะต่างกันที่ของบวงสรวงทุกอย่างจะต้องเป็นอย่างละ 9 และบายศรีต้องเป็นบายศรี 9 ยอด 9 ชั้น และต้องมีอาวุธ เป็นตัวประกอบด้วย โดยช่วงที่ได้ร่วมพิธีกับท่านจะได้อาวุธโบราณ ( จากพี่เขยผมซึ่งเป็นลูกหลานเจ้าเมืองอุบลฯเก่า ปัจจุบันได้มอบให้พิพิธภัณท์แห่งชาติ จ.อุบลฯไว้แล้ว ) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ พร้อมปืนสั้น ยาวและ เอ็ม 16 ลูกระเบิด จากทหารค่ายจ.ยโสธร อย่างละ 9 เป็นองค์ประกอบเพิ่มเติม*******
*****แต่ที่หลวงปู่มาท่านได้เคยกล่าวไว้ ท่านบอกว่า พิธีของ ปี พ.ศ. 2535 ( สร้างเป็นรุ่นที่ 5 ของท่าน ) เป็นพิธีที่สมบูรณ์ที่สุด ******
*****ตามรูป...รุ่น 3 ครับ*******
****หากค้นเจอโอกาศหน้าจะนำมาลงให้แบบครบถ้วนทั้งเนื้อหาและพระเครื่องครับ******** |