ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : หลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม อายุ103 ปี เทวดาผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน พระผู้สำเร็จพระอรหันต์ แห่งแดนอีสานใต้



(D)
คนดีศรีเมืองทุ่ม ::: ปูชนียบุคคลของอีสาน :::

หลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม หรือ พระครูโกวิทพัฒนาโนดม
วัดศรีธาตุ (โนนแกด) บ้านโนนแกด ตำบลทุ่ม อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ

ประวัติหลวงปู่เกลี้ยง เตชธัมโม
เดิมชื่อ เกลี้ยง คุณมานะ เกิดวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๔๕๐ณ บ้านก้านเหลือง ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
เป็นบุตรของนายบุญมี คุณมานะ และนางผิว คุณมานะ มีพี่น้องทั้งหมด ๗ คน

สถานที่เกิด
หลวงปู่เกลี้ยงเกิดที่บ้านก้านเหลือง ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ อายุได้ 3 ปี ครอบครัวได้ย้ายมาอยู่บ้านโนนแกด ตำบล ทุ่ม อำเภอ เมือง จังหวัด ศรีสะเกษ

ความพิเศษในวัยเยาว์
ในวัยเด็กนั้นหลวงปู่มีอุปนิสัยค่อนข้างแปลกกว่า พี่ น้อง ร่วมบิดามารดาเดียวกันหลายอย่าง เช่น อาหารการรับประทานของหลวงปู่หาก เป็นอาหารที่ไม่ท่านไม่ทาน โยมแม่จะบังคับยังไงท่านก็ไม่ยอม ยอมอดข้าวดีกว่าจะทานอาหารประเภทนั้น

โดยคุณ nkkrala (2K)  [พฤ. 18 ก.พ. 2553 - 01:57 น.]



โดยคุณ nkkrala (2K)  [พฤ. 18 ก.พ. 2553 - 01:58 น.] #1046447 (1/13)


(D)
บรรพชา
หลวงปู่เกลี้ยงได้เติบโตมาเหมือนกับเด็กลูกหลานชาวบ้านทั่วไปในยุคนั้นได้ความรักจากมารดาเลี้ยงดูด้วยดี เนื่องจากบิดาได้เสียชีวิตตั้งแต่หลวงปู่ยังเยาว์ แม่ต้องเลี้ยงดูลูกๆทั้ง 7 ด้วยความยากลำบาก แต่ก็หยิ่งในเกียรติ ศักดิ์ศรี เนื่องจากต้องดูแลลูกๆ ทั้งหมดแม่ของหลวงปู่จึงย้ายจากบ้านก้านเหลืองกลับมากอยู่ที่บ้านโนนแกด เนื่องจากที่บ้านโนนแกดมีญาติเยอะพอที่จะได้พึ่งพาอาศัย

สาเหตุที่หลวงปู่ต้องบวชเป็นสามเณรนี้นเนื่องจากหลวงปู่เป็นลูกคนรอง
สุดท้ายเมื่องโยมพ่อของท่านเสียชีวิตโยมแม่ลำบากมาก ต้องดูแลลูกๆทั้งหมด หลวงปู่ กับ น้องสาวคนสุดท้องจะถูกพี่ๆมองว่าเป็นลูกคนโปรดของแม่ คือมีความเข้าใจตามประสาของเด็กๆทั่วไป จนกระทั่งครั้งหนึ่งเด็กชายเกลี้ยง คุณมะนะ ล้มป่วยลงขั้นล้มหมอนนอนสื่อ แม่หาหยูกยามารักษยังไงไม่หาย อาทรงและทรุดโดยลำดับ นอนป่วยมาสามปีเต็มๆ จนญาติๆบอกให้โยมแม่ของท่านทำใจว่าลูกชายคนรองสุดท้องคนนี้คงไม่รอดแล้ว หมอยาดีๆ ที่ไหนมีเป็นตามมารักษาหมด กระทั่งวันหนึ่งเพื่อนรุ่นเดียวกันกับหลวงปู่เกลี้ยงได้เข้าไปเยี่ยมป่วยพร้อมกับพูดชักชวนขึ้นว่า

“เราไปบวชเณรกันเกอะ. เพื่อรักในวัยเยาว์ชวน
“ไปสิไปบวชวัดไหน” เด็กชายเกลี้ยงถาม
“บวชที่วัดพระครูธรรมจินดา” “เอ้อ ได้ ยินมาว่าหลวงพ่อพระครูท่านเก่ง”
สมัยนั้นกิตติคุณของพระครูธรรมจินดา วัดหลวงในเมืองศรีษะเกษ เป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนเมืองนี้ทั้งเมืองเลยทีเดียว คิดดูขนาดหลวงปู่เกลี้ยงตอนนั้นอายุ ราว 13-14 ขวบก็ยังรู้จัก และ ให้ความเลื่อมในศรัทธา
“เอ็งบวชไม่ได้หรอก” โยมแม่ของท่านขัดขึ้น
“ป่วยออดๆ แอๆ สามวันดีสี่วันไข้อย่างเอ็งท่านไม่ให้บวช” โยมแม่ให้เหตุผล
“หากผมหายป่วยก็บวชเป็นเณรได้ใช่ไหมแม่” เด็กชายเกลี้ยง ถามผู่เป็นแม่
“เอ้อ....” แม่ตอบสั้นๆ

“เอาล่ะข้าจะรอบวชเป็นเณรพร้อมกับเอ็ง หากเอ็งไม่หายป่วยข้าก็ได้ได้บวชเณรด้วย” เพื่อนรักของหลวงปู่เกลี้ยงสมัย เด็กท่านั้นกล่าวเหมือนให้สัญญา
“ข้าหายป่วยวัดใดไปบวชเณรวัดนั้น” หลวงปู่เกลี้ยงกล่าวกับเพื่อนมั่นเหมาะ
“เอ้อ....หากเอ็งหายแม่ให้เอ็งบวช” โยมแม่ของท่านซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ ก็รับปากออกมา
น่าแปลกประหลาดหรือท่านจะเรียกเหตุการณ์ที่เกิดกับหลวงปู่สมัย ท่านเป็นเด็กตอนนี้ว่ายังไงก็สุดแท้แต่จะเรียก แต่ที่แน่ๆ นับจากวันที่รับปากกันกับเพื่อนและแม่แล้วอาการป่วยจนนอนโทรมของเด็กชายเกลี้ยงก็หายราวปลิดทั้ง กลับมากแข็งแรง ดังนั้นอีก 7 วันต่อมาโยมแม่ก็อนุญาตให้หลวงปู่เกลี้ยงบรรพชาเป็น สามเณรได้สมปรารถนา การบรรพชาเป็นสามเณรของหลวงปู่เกลี้ยงกับเพื่อนตั้งใจว่าจะไปบวชที่ วัดมหาพุทธาราม (วัดพระโต) กับพระครูธรรมจินดา แต่เนื่องจากเกิดเรื่องเปลี่ยนแปลงในทางคณะสงฆ์ พระครูธรรมจินดาเบื่อหน่ายวัดในเมือง ออกเดินธุดงค์ไปจำพรรษาอยู่บนภูเขาพนมดงรัก หลวงปู่กับเพื่อนรักของท่านจึงได้บรรพชาเป็นเณร ที่วัดบ้านโนนแกด

โดยคุณ nkkrala (2K)  [พฤ. 18 ก.พ. 2553 - 01:59 น.] #1046449 (2/13)


(D)
ด้านการศึกษา
หลวงปู่เข้ารับการศึกษาชั้นประถมศึกษาในโรเรียนวัดบ้านโนนเกด
จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และเรียนต่อ ม.๓ จบในปี ๒๔๖๖

จึงออกมาช่วย
มารดาประกอบอาชีพ เพื่อช่วยเหลือครอบครัว ในปี พ.ศ.๒๔๖๗ ทางราชการ
รับสมัครผู้ที่จบประถมปีที่ ๔ เข้าสมัครเป็นครูช่วยสอน หลวงปู่ไปสอบและสอบผ่าน
จึงได้มีโอกาสเป็นครูช่วยสอน ครั้งแรกที่โรงเรียนบ้านโนนแกด สอนได้สองเดือน
ทางราชการให้ย้ายไปช่วยสอนที่โรงเรียนบ้านโพรง ตำบลไพรบึง อำเภอขุขันธ์
จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเวลา ๓ ปี ๖ เดือน


การศึกษาด้านธรรม
ในขณะที่สอนหนังสืออยู่นั้น สุขภาพร่างกายของหลวงปู่ไม่ค่อยสู้ดีนัก
จึงขอลาออกมาเพื่อรักษาตัว เมื่อสุขภาพดีขึ้นแล้ว หลวงปู่จึงขอลาบวชสามเณร
ที่วัดบ้านโนนแกด ด้วยความอยากเรียนต่อ กอปรกับได้เคยทำการสอนมาแล้ว

จึงมองเห็นความสำคัญของการศึกษา จึงขออนุญาตเจ้าอาวาสไปเรียนนักธรรม
ที่วัดบ้านดวนใหญ่ กิ่งอำเภอวังหิน (ในขณะนั้น) จังหวัดศรีสะเกษ
เรียนนักธรรมตรีที่สนามหลวง ซึ่งมีพระ สามเณร ไปสอบจำนวน ๔๗ รูป
ปรากฏว่า หลวงปู่เกลี้ยงและพระภิกษุสิงห์ สอบผ่านแค่ ๒ รูป เท่านั้น
จากนั้นก็เรียนต่อนักธรรมโทที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในขณะที่ศึกษานักธรรมโทอยู่นั้น
ทางราชการก็มีหมายเรียกให้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร หลวงปู่จำเป็นต้องลาสิกขา

โดยคุณ nkkrala (2K)  [พฤ. 18 ก.พ. 2553 - 02:00 น.] #1046451 (3/13)


(D)
ด้านความรู้ความสามารถพิเศษ
หลวงปู่ได้อาศัยความรู้เดิมประสบการณ์ที่เคยมีมาในขณะรับราชการทหาร
เคยออกรบสงครามมหาเอเชียบูรพา ในการรักษาพยาบาล หลวงปู่ช่วยชาวบ้าน
รักษาพยาบาลด้วยสมุนไพร ผู้คนที่เจ็บป่วยก็หายป่วย จึงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา

การอุปสมบท
เมื่อพุทธศักราช ๒๕๑๘ หลวงปู่ได้อุปสมบท ณ วัดบ้านแทง ตำบลซำ
อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีพระเกษตรศีลาจารย์
วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ
เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๘ ขณะอายุ ๖๗ ปี
หลวงปู่ได้รับสมณศักดิ์ พระครูโกวิทพัฒโนดม พร้อมตาลปัตรพัดยศ
เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๔ ถึงปัจจุบัน

โดยคุณ nkkrala (2K)  [พฤ. 18 ก.พ. 2553 - 02:02 น.] #1046452 (4/13)
เช้า พรุ่งนี้ มาเล่าต่อครับ



ง่วงแล้วครับ

ราตรีสวัสดิ์

โดยคุณ gotton (1.1K)(1)   [พฤ. 18 ก.พ. 2553 - 09:06 น.] #1046674 (5/13)

โดยคุณ nkkrala (2K)  [พฤ. 18 ก.พ. 2553 - 20:55 น.] #1047735 (6/13)
ตอน 2

https://www.g-pra.com/webboard/show.php?Category=general_talk&No=177421



ขอบคุณที่เยี่ยมชม

โดยคุณ _DomeO_ (3.2K)  [พฤ. 18 ก.พ. 2553 - 21:42 น.] #1047816 (7/13)
ได้ข่าวว่าจะออกวัตถุมงคล รุ่นฉลองครบ๑๐๓ปี ใครมีข้อมูลมาลงหน่อยดิครับ

โดยคุณ nkkrala (2K)  [พฤ. 18 ก.พ. 2553 - 23:18 น.] #1047954 (8/13)
ได้ครับ พี่โดม วันพรุ่งนี้นำมาให้ชม

โดยคุณ doonuss_23 (1.9K)  [ศ. 19 ก.พ. 2553 - 10:08 น.] #1048239 (9/13)
เยี่ยมมากครับ ข้อมูลดีมากๆครับ

โดยคุณ nkkrala (2K)  [ศ. 19 ก.พ. 2553 - 12:27 น.] #1048344 (10/13)
https://www.g-pra.com/webboard/show.php?Category=general_talk%20&No=177520

โดยคุณ nkkrala (2K)  [ศ. 19 ก.พ. 2553 - 12:32 น.] #1048346 (11/13)


(D)


โดยคุณ _DomeO_ (58.11.60.*) [18 Feb 2010 21:42] #1047816 (7/10)

ได้ข่าวว่าจะออกวัตถุมงคล รุ่นฉลองครบ๑๐๓ปี ใครมีข้อมูลมาลงหน่อยดิครับ

ตอบ :เริ่มเปิดตัวแล้ว

https://www.g-pra.com/webboard/show.php?Category=general_talk&No=177421

โดยคุณ nkkrala (2K)  [อ. 17 พ.ค. 2554 - 22:22 น.] #1662977 (12/13)
อานุภาพแห่งว่านมงคล 108 ชนิด ตามตำราโบราณ
1. ว่านตระกูลกวัก ซึ่งบันทึกไว้ในตำราสมุดข่อยโบราณ กล่าวไว้ว่ามีอานุภาพทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ดีทางโภคทรัพย์ เป็นสิริมงคลต่อผู้ครอบครอง ประกอบด้วย ว่านกวักพระพุทธเจ้าหลวง ว่านกวักนางพญาใหญ่ ว่านกวักนางพญาเล็ก หรือ ว่านกวักนางพญามหาเศรษฐี ว่านกวักมาคาวดี หรือ ว่านมหาโชค ว่านกวักหงสาวดี ว่านกวักแม่จันทร์ ว่านกวักโพธิ์เงิน ว่านกวักทองใบ ว่านกวักเงิน กวักทอง ว่านกวักเศรษฐีพญาบดินทร์ ว่านกวักนางพญาเผือก โดยเฉพาะว่านกวักนางพญา ถือกันว่า เป็นว่าน ที่มีตระกูลสูงส่งผลทางด้านอำนาจราชศักดิ์ เรียกอีกอย่างว่า ว่านทรงยศ ทรงเกียรติ เป็นสง่าราศีแก่ผู้พบเห็น
2. ว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ ประกอบด้วย เสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์ เสน่ห์จันทร์ขาว เสน่ห์จันทร์แดง เสน่ห์จันทร์เขียว เสน่ห์จันทร์หอม เสน่ห์จันทร์ทอง อานุภาพของว่านตระกูลเสน่ห์จันทร์ จะเด่นทางด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น โบราณใช้ทำนางกวัก ค้าขายดี มีโชคลาภ
3. ว่านตระกูลเศรษฐี เป็นว่านที่บ่งบอกในตัวเอง อานุภาพให้คุณทางด้านลาภผล เงินทอง โบราณกล่าวว่า ผู้ใดได้ครอบครอง จะเจริญด้วยฐานะ บริบูรณ์ ด้วย โภคทรัพย์ ข้าทาสบริวาร จัดเป็นตระกูลว่านที่นิยม อย่างยิ่ง โบราณมักจะนำมาปลูกในกระถางที่มีค่า เช่น กระถางลายคราม ดังนั้น จึงเป็นว่านตระกูลสูงอีกประเภทหนึ่งมีดังนี้ ว่านเศรษฐีเรือนนอก ว่านเศรษฐีเรือนใน ว่านเศรษฐีขอด (กอบ ทรัพย์) ว่านเศรษฐีด่าง ว่านเศรษฐีมงคล ว่านมหาเศรษฐี ว่านเศรษฐีจีน ว่านเศรษฐีญวน ว่านเศรษฐีแขก ว่านเศรษฐีใบพาย ว่านเศรษฐีใบโพธิ์ ว่านเศรษฐีเรือนใหญ่ ว่านเศรษฐีเรือนแก้ว
4. ว่านโกเมน อานุภาพทางด้านเมตตามหานิยม มีโชคลาภ
5. ว่านหม่องเล ว่านนี้ตามตำราพม่ากล่าวว่า มีอานุภาพ เรียกเงินเรียกทองเข้าบ้าน เรียกมิตรมาหาร้านค้าขาย ควรมีว่านชนิดนี้ไว้ครอบครอง
6. ว่านไก่กุก อานุภาพทางเสน่ห์เมตตานิยม ซึ่งว่านนี้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้สร้างพระสมเด็จอันลือชื่อก็ได้ใช้ว่านนี้เป็นส่วนผสมในพระสมเด็จวัดระฆังที่ท่านสร้างด้วย
7. ว่านไก่ฟ้าพญาแล อานุภาพทางด้านเมตตามหานิยม
8. ว่านกำแพงเจ็ดชั้น มีอานุภาพทางด้านคุ้มครอง ป้องกันภัย กันและแก้คุณไสย ภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลทั้งปวงไม่ให้กล้ำกราย
9. ว่านกระแจะจันทร์หงสา มีอานุภาพทางเสน่ห์เมตตา นิยม เป็นที่รัก เมตตาแก่ผู้พบเห็น
10. ว่านคุ้มรจนา มีอานุภาพคุ้มครองปกป้องเคหะสถาน บ้านเรือนให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข
11. ว่านเครือสาวหลง เป็นว่านพิเศษที่มีลักษณะฝอยๆ ไม่มีลำต้น ไม่มีใบ จะเกาะอยู่ตามต้นไม้ขนาดใหญ่ในป่าลึก มีกลิ่นหอมตลอดเวลา มีอานุภาพทางด้านเมตตามหานิยมสูงมาก ซึ่งว่านนี้พระเทพรัตนกวี เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุได้ให้พวกที่หาของป่า และนำมาวางขายในวัดช่วงงานประจำปี ไปหามาจากป่าลึกทางภาคเหนือ
12. ว่านเงินไหลมา มีอานุภาพเรียกเงินทองให้เข้ามาสู่เคหะสถาน บ้านเรือน ทั้งยังคุ้มครองปกป้อง เป็นว่านนิยมมากของคนไทย
13. ว่านเงาะถอดรูป มีอิทธิฤทธิ์เมตตามหานิยม เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น ดีทางค้าขาย ประดุจเงาะถอดรูป ใครเห็นใครก็รัก แล้วยังมีอานุภาพเรียกลูกค้าเข้ามาสู่ร้านค้าอีกด้วย
14. ว่านช้างพลาย มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เป็นสง่าราศี ขับเสนียดจัญไร ศัตรูหมู่มาร เป็นเดชอำนาจบารมี
15. ว่านช้างดำ มีอานุภาพทางคุ้มครองป้องกัน เสมือนเกราะแก้ว คุ้มกัน และ ป้องกันไฟเวทย์มนต์คาถาทำอันตรายไม่ได้
16. ว่านญาณรังษี มีอานุภาพประดุจพทุธานุภาพแห่งพระพุทธองค์ หัวว่านนี้ มีลักษณะชั้นๆ 3 ชั้น คล้ายพระพุทธรูปประทับนั่งบนรัตนบัลลังก์
17. ว่านถุงเงินถุงทอง มีอานุภาพทางด้านโภคทรัพย์ ประดุจถุงเงินถุงทอง ในเคหะสถานบ้านเรือนดีทางโชคลาภ และป้องกันคุณไสยต่างๆ
18. ว่านทองไหลมา เป็นว่านมงคลคู่กัยว่านเงินไหลมา อานุภาพให้ผู้ครอบครองมีโชคลาภอยู่เป็นนิจ
19. ว่านเทพรำพึง เป็นเอกทางด้านเมตตามหานิยม เป็นสิริมงคลแก่ผู้ครอบครอง
20. ว่านธรรมรักษา เป็นว่านสิริมงคล โน้มน้าวให้ประพฤติปฏิบัติ อยู่ในศีลธรรม ป้งอกันภัยพิบัติ
21. ว่านนางพญาหงษ์ทอง เป็นว่านทางเมตตามหานิยม เจรจาสิ่งใดจะเป็นที่พอใจถูกอัธยาศัยกับผู้ที่พบเห็น
22. ว่านนพมาศ เป็นว่านเก่าแก่ครั้งกรุงสุโขทัย มีอานุภาพป้องกันเสนียดจัญไร คุ้มครองป้องกันภัยพิบัติ เป็นสิริมงคล พร้อมพรั่งทางด้านเมตตานิยม เป็นสง่าราศี
23. ว่านนเรศวร เป็นว่านที่ทรงอานุภาพ ด้านมหาอำนาจ ตบะเดชะ เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู หมู่มาร และ คุ้มครองปกป้องเป็นเลิศ
24. ว่านน้ำเต้าทอง เด่นทางเมตตา โชคลาภ ทั้งยังมีคุณทางด้านอยู่ยงคงกระพัน
25. ว่านปัดตลอด อานุภาพทางด้านแคล้วคลาด ปราศจาก อุปสรรค
26. ว่านปัญจเศวตร มีอานุภาพด้านคุ้มครอง ปกป้องเป็นตบะบารมี
27. ว่านประกายเพชร ดีทางโชคลาภ เป็นเสน่ห์มหานิยม เจริญด้วยโภคทรัพย์
28. ว่านพญาหัวเสือ เด่นทางด้านอำนาจราชศักดิ์ เป็นตบะเดชะ นะจังงัง และ คงกระพันชาตรี
29. ว่านพญากาเผือก เป็นว่านที่ดีทางเรียกโชค เรียกลาภ เด่นเป็นสง่า คือ เมตตาหานิยม
30. ว่านเพชรกลับดำ อานุภาพเด่นทางแคล้วคลาด ปกป้องจากสิ่งอัปมงคล ไปที่ใดปราศจากอันตราย และกลับถึงเคหะสถานได้เป็นอัศจรรย์
31. ว่านเพชรหลีก ดีทางแคล้วคลาดจากภยันตราย ศาตราวุธ ทั้งปวง
32. ว่านมหาอุตม์ มีอานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรี เป็นว่านเก่าโบราณ
33. ว่านมหาหงษ์แดง เป็นว่านที่มีสิริมงคล คนโบราณมักพกพากับตัวเวลาเข้าหาเจ้านาย ว่ากันว่าเป็นเสน่ห์มหานิยมยิ่งนัก
34. ว่านมงคลชัย เป็นว่านที่มีสิริมงคลตามชื่อว่าน ศัตรูหมู่มารมิอยากเข้าใกล้ ก็ด้วยอานุภาพแห่งชัยมงคลของว่านนี้
35. ว่านวาสนาทางลาย เด่นทางโชคลาภวาสนา เจริญด้วยความสมบูรณ์พูนสุข
36. ว่านแววมยุรา เป็นว่านที่มีสรรพคุณทางเมตตามหานิยม นำโชคลาภเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือนผู้ครอบครอง

โดยคุณ nkkrala (2K)  [อ. 17 พ.ค. 2554 - 22:25 น.] #1662982 (13/13)


(N)
T

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www5