(D)
อ่านเจอเลยเอามาฝาก สนุกดีครับ ไม่สงสัยเลยว่าคนสุพรรณอะไรๆก็หลวงพ่อมุ่ย--------
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เคยได้รับการบอกเล่าและบันทึกไว้โดยท่านอาจารย์มนัส โอภากุล ปราชญ์คนสำคัญของแดนดินถิ่นสุพรรณครับโดยท่านได้เล่าไว้ว่า เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่2 เมืองสุพรรณบุรีถือเป็นแหล่งของชุมเสือ ที่โด่งดังเป็นที่กล่าวขานร่ำลือในระดับประเทศ ด้วยว่ามีการปล้นเกิดขึ้นกันชนิดที่ว่าปล้นรายวัน ด้วยวันนี้เสือเข้าปล้นที่นี่ พรุ่งนี้เสือเข้าปล้นที่โน่นจนคนในสมัยก่อนนั้นได้ยินข่าวการปล้นจนเป็นเรื่องปกติจนกล่าวกันว่า "เสือปล้นชุมกว่ายุง" แต่เสือในสมัยก่อนไม่ฆ่าคนกันง่ายๆ ถ่าหากไม่มีการต่อสู้หรือขัดขืน บรรดาเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่จะย้ายมาประจำปฏิบัติหน้าที่ที่เมืองสุพรรณต่างก็แหยงขยาดไปตามๆกัน ด้วยความกลัวว่าเสือจะมาปล้นมาฆ่า แต่ในความเป็นจริงนั้นเสือทั้งหลายไม่เคยมาแผ้วพานเพ่นพ่านภายในตัวเมืองสุพรรณ ทำให้คนที่มาอยู่เมืองสุพรรณอยู่ๆไปก็เกิดชอบ รักในนิสัยของคนสุพรรณจนไม่ยอมย้ายออกหรือจากเมืองสุพรรณไปง่ายๆ เพราะด้วยนิสัยของคนสุพรรณ พูดจริง ทำจริง เปิดเผย มีน้ำจิตน้ำใจ รักคนต่างถิ่น
ชุมเสือปล้นที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงโด่งดังในยุคปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น คือ ชุมเสือฝ้าย และชุมเสือดำ โดยเสือฝ้ายมีลูกน้องสมุนคนสนิทที่โด่งดังคือ เสือใบ และเสือมเหศวร โดยบรรดาเสือชื่อดังทั้งหลายเหล่านี้ล้วนต่างเคยมาหาหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เพื่อขอวัตถุมงคลและสักยันต์ ซึ่งหลวงพ่อก็ไม่เคยขัดศรัทธาของผู้มาขอ ท่านก็สงเคราะห์โดยการสักให้ทุกๆรายไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ยาก มาก ดี คนจนหรือคนมี จะเป็นเสือเป็นสางหลวงพ่อท่านก็เมตตาสักให้กับทุกคนไป ปรากฏว่า เมื่อเสือปล้นทั้งหลายเหล่านั้นเกิดปะทะเข้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เสือก็แคล้วคลาดหลบหนีไปได้ทุกที จนครั้งหนึ่ง เสือดำได้ยกพวกเข้าเปิดศึกรณรงค์เข้ากับตำรวจกองปราบและประชาชน โดยฝ่ายของประชาชนมีผู้ใหญ่จำรัส ขันทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลกระเสียว อำเภอสามชุก ได้ใช้ปืนพระรามยิงถูกเสือดำจนหกคะเมนตีลังกา แต่ลูกปืนก็หาได้ระคายผิวหนังของเสือดำ เสือดำก็ต่อสู้อย่างเสือจนตรอก ดิ้นรนสุดชีวิตเพื่อหนีเอาตัวรอด โดยเสือดำได้ยิงประชาชนที่หาญเข้าต่อกรจนเสียชีวิตไป 2-3 คน ผู้ใหญ่หลอม รุ่งแจ้ง ได้เอาปืนเมาเซอร์ต่อด้ามยิงเสือดำในระที่ไม่ห่างไกลนัก ลูกปืนแทนที่จะถูกตัวเสือดำกลับตกลงข้างหน้า มันน่าประหลาดใจยิ่งนัก ต่อมาทางราชการได้สืบทราบว่าบรรดาเสือร้ายทั้งหลายเหล่านั้นสักและพกเครื่องรางของขลังของหลวงพ่อมุ่ย ก็ได้มาขอร้องหลวงพ่อว่าอย่าสักให้เสืออีกเลย หลวงพ่อมุ่ยท่านก็รับปาก นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมาหลวงพ่อก็ไม่ยอมสักให้กับใครอีก ไม่ว่าจะเป็นเสือสางหรือเทวดา |