ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม วัดท่ามะกรูด จังหวัดสุพรรณบุรี



(D)
หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม วัดท่ามะกรูด จังหวัดสุพรรณบุรี
พระเถระผู้เป็นดั่งเพชรซ่อนแสงแห่งเมืองสุพรรณ
ปรากฏเกียรติคุณความเข้มขลังมานานปี
ผู้เป็นบุตรบุญธรรมหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา
ผู้เป็นศิษย์รูปสำคัญแห่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
ผู้เจนจบวิชาดวงแก้วพระสิวลี ด้วยเป็นศิษย์หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
สมณะสารูปเรียบง่าย สมถะ สันโดษ ไม่สนใจลาภยศตำแหน่งใดๆ
สำเร็จกสิณไฟ นั่งบนผิวน้ำ รู้ใจคน พูดกับลิงรู้เรื่อง
ขับมอเตอร์ไซค์บิณฑบาตร ฝนตกไม่เปียก ลองฤทธิ์กับเจ้าพ่อเขาเขียว
ถูกโจรปล้นโดนทำร้าย3ครั้งจนเกือบมรณะภาพ
แต่ไม่ยอมหนีรอใช้หนี้กรรม
โดนมีดอีเหน็บฟันจนกรามขวาหัก
มีด3เล่มแทงซี่โครงขวาหักไม่มีแผล หมอศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดแต่ว่ามีดผ่าไม่เข้า
เจ้าของฉายานามว่า จี้กง จอมขมังเวทย์แห่งเขาเขียว หลวงปู่ตี๋ เมืองสุพรรณ

หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม ป็นบุตรชายคนโตของ นาย ห้อย น้ำดอกไม้ และ นางกิมบี้ แซ่แต้ บิดาเป็นคนราชบุรีมารดา เป็นคนอำเภอ สองพี่น้อง เมื่อทั้งสองแต่งงานกันแล้วจึงอพยพโยกย้ายมาทำมาหากินอยู่ที่ตลาดท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โดยยึดอาชีพค้าขาย มีบุตรด้วยกัน 5 คนเป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 1 คน
หลวงปู่ตี๋ เกิดที่ตลาดท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ 2467 ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 9 ปีชวด โยมห้อยผู้เป็นบิดานั้นเป็นช่างก่อสร้างและช่างฝีมือประจำวัดหัวเขารุ่นเก่า ในยุคสมัยที่ยังมีหลวงพ่ออิ่ม สิริปุญโญ อดีตปรมาจารย์นามกระเดื่องเป็นเจ้าสำนัก ขณะนั้นวัดหัวเขาได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างมณฑปบนยอดเขาซึ่งนับว่าเป็นงานอันสำคัญ หลวงพ่ออิ่มจึงมอบหมายให้ช่างห้อยบิดาของท่านเป็นผู้ควบคุมดำเนินงาน หลวงปู่ตี๋ซึ่งอยู่ในวัยเด็กก็ได้มีโอกาสติดสอยห้อยตามบิดามาอยู่กินนอนที่วัดหัวเขาเป็นประจำ จากวันเป็นเดือนจากเดือนเลื่อนไปเป็นปี จนกระทั่งหลวงปู่ตี๋เติบโตวิ่งเล่นเป็นเด็กวัดหัวเขาไปโดยปริยาย ซึ่งนั่นอาจหมายถึงคำว่าบุญวาสนาที่เป็นกุศลผลกรรมอันน่ายินดี ที่ในกาลต่อมาหลวงปู่ตี๋ได้กลายมาเป็นบุตรบุญธรรมของหลวงพ่ออิ่มที่ท่านรักและเฝ้าฝากฝังไว้กับบรรดาพระภิกษุต่างๆที่มาเรียนวิชากับท่านในยุคนั้นโดยเฉพาะกับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่นั้น หลวงพ่ออิ่มท่านเชื่อมั่นในศิษย์ผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยเด็กน้อยผู้นี้นั้น ท่านเห็นแววแห่งอนาคตอันจะบังเกิดขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า กับคำทำนายของท่านที่ว่า ต่อไปไอ้ตี๋คนนี้จะบวชไม่สึก ฝากให้ท่านมุ่ยช่วยเป็นธุระสั่งสอนถ่ายทอดวิชาให้มันด้วย
แม้แต่ในหมู่ศิษย์ยุคหลังอย่างหลวงพ่อกวยวัดโฆสิตาราม ที่มาเรียนวิชาที่วัดหัวเขา หลวงพ่ออิ่มท่านก็ไม่ลืมที่จะออกปากฝากเด็กน้อยก้นกุฏิอย่างหลวงปู่ตี๋ด้วย ดังปรากฏจากมรดกของหลวงพ่ออิ่มที่ท่านได้เมตตาทิ้งไว้ให้โดยมอบตำราให้ใว้เล่มหนึ่งโดยฝากไว้กับนายห้อยผู้เป็นบิดา บอกว่าเก็บไว้ให้ไอ้ตี๋มันด้วย สำหรับนายห้อยนั้นหลังจากที่เจ้าสำนักวัดหัวเขาได้ละสังขารไปเมื่อปีพ.ศ.2481แล้วก็คงมีชีวิตอยู่ยืนยาวมาอีกนานหลายปีแม้จะมีอุปัทวเหตุต่างหลายครั้งหลายหนก็ไม่เคยได้รับอันตรายอะไรทั้งสิ้นหลายคนเชื่อว่ามาจากวาจาสิทธิ์ที่ปรมาจารย์แห่งวัดหัวเขาได้ประสิทธิ์ประสาทพรอันศักดิ์สิทธิ์ให้ไว้ในกาลก่อนว่า “ คนอย่างมึงมันไม่ตายง่ายๆหรอกมึงต้องอยู่รอเอาตำราให้ใอ้ตี๋มันก่อน” และนายห้อยก็ตายยากอย่างที่หลวงพ่ออิ่มว่าไว้จริงๆ ตั้งแต่ครั้งที่ตกนั่งร้านศาลาวัดท่าช้างแล้วไม่เป็นอะไร ต่อมาได้ตกนั่งร้านแถวๆท่าข้าม และที่ฮือฮาอย่างมากก็คือคราวขึ้นใปปั้นลายประดับบนยอดปล่องเมรุวัดหัวเขา แกก็พลัดตกลงมาจากยอดเมรุที่สูงลิ่วหล่นลงพื้นท่ามกลางสายตาผู้คนที่เห็นเหตุการณ์มากมายมีผู้เห็นเหตุการณ์ช่วยเอายาหม่อง วนจมูก บีบๆนวดๆเท่านั้นแกก็ฟื้นมาเฉยๆไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น จนกระทั่งมาเสียชีวิตเอาเมื่อปี 2520ในวัยใกล้ร้อยปีทีเดียว

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 16:54 น.]



โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 16:57 น.] #948535 (1/66)


(D)


เหรียญรุ่นสาม หลวงปู่ตี๋ ที่สร้างตามแบบเหรียญโบราญ เป็นเหรียญปั๊มกระบอก และหูเหรียญเป็นแบบหูเชื่อมครับ

โดยคุณ gotton (1.1K)(1)   [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:02 น.] #948548 (2/66)


สวย อีกแล้ว พี่

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:06 น.] #948551 (3/66)


(D)


ในปีนี้คณะศิษย์ ของหลวงปู่ ได้ออกแบบเหรียญอีกรุ่นของหลวงปู่ ชื่อรุ่น"เจริญสุข" เพื่อนำรายได้ไปสร้างรูปเหมือนเท่าองค์จริงของหลวงปู่ และรายได้ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะถวายให้หลวงปู่ทั้งหมด เพื่อเป็นกองทุนดูแลสุขภาพของหลวงปู่ครับ

จากรูป รูปแบบเหรียญ "เจริญสุข" ซึ่งหลวงปู่ตี๋ท่านตั้งชื่อรุ่นเองครับ
(ขนาดความสูงของเหรียญ 4.2 ซ.ม. ครับ)

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:11 น.] #948553 (4/66)


(D)
เหรียญรุ่น "เจริญสุข" จะนำมาเปิดจอง ในหน้ากระดานซื้อขาย ในวันที่ 5 ธันวาคม 2552 นี้ครับ

รายละเอียดการจัดสร้าง และรายละเอียดประวัติของหลวงปู่ตี๋ สามารถหาอ่านได้ในหนังสือลานโพธิ์ ฉบับล่าสุดนี้ครับ

โดยคุณ บ้านนา (885)(4)   [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:14 น.] #948558 (5/66)
สวยครับผม คนสุพรรณ ต้องร่วมทำบุญนะครับ

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:15 น.] #948560 (6/66)


(D)
สำหรับหลวงปู่ตี๋นั้น นับตั้งแต่วันที่หลวงพ่ออิ่มรับเป็นป็นบุตรบุญธรรมแล้ว ท่านเองก็ไม่อยากจะกลับบ้านอีกต่อไปคงอยู่วัดปรนนิบัติรับใช้อยู่ภายในวัดหัวเขาจนกระทั่งหลวงพ่ออิ่มมรณภาพลงในปี พ.ศ.2481 ซึ่งเจ้าอาวาสรูปต่อมาก็คือ พระครูอเนกคุณากร(หลวงพ่อแขก ) เป็นเจ้าอาวาสวัดหัวเขา ก็ยังคงอุปถัมภ์ค้ำชูหลวงปู่ตี๋ต่อมาโดยตลอด ทั้งสอนวิชาต่างๆให้โดยไม่มีปิดบัง ขณะนั้นหลวงปู่ท่านอยู่วัดหัวเขาก็เรียนหนังสีอขอมพร้อมบาลีจนกระทั่งอายุได้ 15 ปี (พ.ศ. 2482 ) ท่านก็ได้บรรชาเป็นสามเณรอยู่รับใช้หลวงพ่อแขกราว 5 พรรษา จนถึงอายุครบ 20 ปีจึงเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดเขาพระ ต. เขาพระ อ. เดิมบางนางบวช จ. สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ. ศ. 2487 เวลา 09 .39 น. โดยมีพระครูเอนกคุณากร (หลวงพ่อแขก) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ฉันทธัมโม ภิกขุ อยู่วัดหัวเขาเรียนวิชากับหลวงพ่อแขกได้ 10 พรรษา จนล่วงถึง ปี พ.ศ. 2497 หลวงพ่อแขกผู้เป็นอุปัชฌาจารย์เห็นว่าอันวิชาความรู้ต่างๆก็มีอยู่พอจะรู้รักษาตนสามารถประคองเพศพรหมจรรย์ให้ยั่งยืนเป็นที่พึ่งแก่หมู่ชนทั้งหลายในภายภาคหน้า จึงเห็นสมควรแก่เวลาที่จะแนะนำพระเถระสำคัญยิ่งอีกรูปหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์รุ่นน้องของท่านเองที่กำลังเลื่องลือเกียรติคุณเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนั้น ซึ่งนั่นก็คือหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ อดีตพระเกจิอาจารย์นามอุโฆษแห่งเมืองสุพรรณนั่นเอง
หลวงปู่ท่านเล่าว่าทันทีที่มาถึงวัดดอนไร่ ทันทีที่เข้าไปกราบนมัสการแล้ว พระเดชพระคุณท่าน หลวงพ่อมุ่ยนั้นยังคงจำหลวงปู่ได้ดี ถึงเด็กวัดก้นกุฏิอาจารย์ใหญ่วัดหัวเขา ที่ท่านเคยเฝ้าฝากฝังเอาไว้ตั้งแต่ครั้งเก่าก่อ้น ทันทีที่กราบเรียนแจ้งความประสงค์กล่าวถึงองค์อาจารย์ผู้แนะนำให้มาหา “เพียงเพื่อแวะมากราบนมัสการโดยที่ยังไม่ได้ตระเตรียมดอกไม้ธูปเทียนมาให้ทันกับวันเวลา ครั้นถึงเวลาหน้าเกล้ากระผมจะกลับมาใหม่” แต่ด้วย เมตตาธรรมแห่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อมุ่ยผู้มากล้นเปี่ยมไปด้วยพรหมวิหารธรรม ก็ไม่รอช้าจูงมือภิกษุหนุ่มที่นั่งพนมมืออยู่ตรงหน้าเข้ากุฏิเริ่มสอนวิชาให้ในทันที โดยที่ยังไม่ทันได้เตรียมดอกไม้ธูปเทียนมาแม้แต่กำเดียว ว่ากันว่าอันสรรพวิชาต่างๆที่บังเกิดมีและปรากฏให้เห็นเป็นองค์วิชาอันเข้มขลังและอัศจรรย์ใจในภาพของหลวงปู่ตี๋ที่เราทั้งหลายทั้งปวงรู้จักกันนั้น เริ่มปรากฏแสงอันเรืองรองมาจากพื้นฐานที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อมุ่ยเป็นผู้ปูพื้นฐานวางไว้ให้ทั้งสิ้น ตั้งแต่การสำเร็จกสิณไฟเป็นเบื้องต้น จนถึงการปลุกเสกอักขระเลขยันต์แคล้วคลาดคงกะพันมหาอุดสารพัดสุดจะพรรณาก็ล้วนแต่สำเร็จมาจากสรรพวิชา การอบรมวางพื้นฐานจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อมุ่ยทั้งสิ้น

ท่านคร่ำเคร่งฝึกฝนกับหลวงพ่อมุ่ยอยู่นานราว 8 ปี ล่วงเข้าปี พ.ศ.2505 หลวงปู่ตี๋ในขณะนั้นก็เจริญก้าวหน้าในสรรพวิชาต่างๆแก่กล้าเจนจบในวิชาอาคม สูงส่งจนเป็นที่พอใจของอาจารย์ ซึ่งเริ่มปรากฏความขลังทางด้านนี้มาตั้งแต่ยังเป็นพระลูกวัดอยู่ที่หัวเขาในยุคหลวงพ่อแขกยังอยู่ด้วยซ้ำไป ที่เล่าลือกันก็คือเรื่องที่หลวงปู่ตี๋ได้ใช้วิชาอาคมอำนาจแห่งจิตอันแกกล้าอันเป็นผลจากการฝึกฝนมาจนชำนาญจากรากฐานวิชาแห่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อมุ่ยนั้น ปราบเปรตที่วัดหัวเขาจนสิ้นฤทธิ์ ซึ่งชาวบ้านมักเรียกกันว่า เปรตต้นสำโรง อันเป็นสถานที่สิงสู่ที่อยู่ท้ายวัดติดกับป่าช้าที่น่าสพรึงกลัว โดยมักปรากฏว่ามีเปรตเที่ยวหลอกหลอนผู้คนจนเข็ดขยาดไปตามๆกัน ค่ำคืนหนึ่ง หลวงปู่ตี๋ออกมาเดินจงกรมรออยู่ที่ต้นสำโรง ดังที่ท่านคาดไว้ไม่ผิด เพียงเวลาผ่านไปไม่นาน ก็ปรากฏร่างเปรตตนหนึ่งสำแดงตนขึ้นมาต่อหน้า ร่างกายสูงใหญ่จนพ้นยอดสำโรง ส่งเสียงร้องโหยหวนชวนให้น่าหวั่นไหวเป็นอย่างยิ่ง ด้วยจิตที่สงบนิ่งอันมาจากการฝึกฝนมาอย่างดียิ่ง ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้านั้น ไม่ได้ทำให้หลวงปู่ท่านหวั่นไหวแม้แต่น้อย ท่านเอาไฟฉายส่องขึ้นไปดูเห็นพอหน้าเปรตที่ยืนค้ำทะมึนอยู่ก็จำได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของชาวบ้านแถวๆนั้นนั่นเอง ซึ่งท่านเคยรู้ว่าสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่มักมีเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัดที่ชอบยักยอกขโมยหยิบฉวยเอาไปไว้ที่บ้านอยู่เป็นอาจิญ พอหมดดับจิตสิ้นชีวิตจากความเป็นมนุษย์ที่สูงส่ง ผลแห่งกรรมอันหนักหนาก็ยังผลให้ไปเป็นเปรตอยู่ไปนานนับกัปกัลป์ ทันทีที่ท่านเห็นหน้าคนที่เคยรู้จักในร่างเปรตก็ปลงสังเวชในเวรกรรมที่มันต้องมาชดใช้ หลวงปู่ท่านแผ่เมตตาให้จนกระทั่งเสียงร้องโหยหวนนั้นค่อยๆพลันจางหายไป คืนนั้นหลวงปู่ท่านเลือกเอากุฏิหลังหนึ่งเป็นที่จำวัด เนื่องจากเหตุที่ว่าอยู่ใกล้ต้นสำโรงที่ว่า กุฏิหลังนี้จึงไม่ค่อยมีใครกล้ามาเหยียบ ภาพที่จะบรรยายได้ก็คือกุฏิไม้ทรงไทยโบราณที่เก่าแก่แทบทุกหลังนั้น น่าแปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือทุกๆห้อง จะต้องมีไม้กระดานพาดอยู่บนขื่อเป็นทางเดินระหว่างจั่วอยู่แทบทุกหลัง พอหลวงปู่กลับขึ้นกุฏิเพื่อเข้าจำวัดจัดแจงปัดกวาดสถานที่เรียบร้อยสวดมนต์แผ่เมตตาเสร็จ ก็เตรียมตัวจำวัด ขณะเอนกายลงนอนหันหน้าขึ้นมองหลังคา พลันสายตาก็เห็นผีสองตัวนั่งชันเข่าอยู่บนขื่อ ไอ้ตัวแรกไต่ตามไม้กระดานที่พาดนั้น ค่อยๆกระเถิบมาเรื่อยดูผมเผ้าของมันยาวรุงรังคลุมเลยหน้ายาวลงมาคลุมกระดานเป็นที่น่าเกลียดน่ากลัว พอมันคลานมาถึงตำแหน่งที่หลวงปู่นอนไอ้ผีตัวแรกก็กระโดดลงใส่ทันที ฉับพลันก่อนที่มันจะถึงตัว หลวงปู่ท่านก็พลิกหนี เสียงมันกระแทกพื้นดังโครมสนั่น ทันทีที่หลบทันท่านก็คว้าผ้าไตรที่วางอยู่หันกลับมาฟาดมันอย่างแรงไอ้ผีสองตัวทั้งที่อยู่บนพื้นและที่อยู่บนขื่อก็พลันหายจ้อย หลวงปู่เล่าว่าขนาดแผ่เมตตาให้แล้วมันยังไม่เลิกรา ไหนๆกูก็ศิษย์มีครูเล่นกับกูอย่างนี้ท่านก็เลยทำวิชา ผูกผี เสียในคืนนั้น หลวงปู่ว่าวิชาที่ท่านใช้มัด และอำนาจมนต์ที่ท่านลงกำกับเอาไว้นั้นจะคงอยู่ไปอีกนานแสนนานจนกว่าผีเปรตทั้งสองนั้นจะสิ้นกรรมที่เคยทำมา จบเรื่องเปรตต้นสำโรงในคืนนั้นก็ไม่เคยปรากฏว่ามีผู้ใดได้พบเห็นเหตุการณ์ใดๆอีกเลย

โดยคุณ พรโกสีย์ (8.4K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:16 น.] #948564 (7/66)

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:19 น.] #948573 (8/66)


(D)
คอยติดตามนะครับ เร็วนี้ จะหาของดี ของหลวงปู่ตี๋ มาแจกครับผม

โดยคุณ kwang (125.25.249.*) [1 Dec 2009 16:09] #948458 (39/41)

กรรมการ หมดจริง ๆ ครับ งานนี้เป็นงานบุญครับพี่ไก่ รุ่นนี้ไม่มีนายทุน
เพราะเดิมที่ลูกศิษย์ตั้งใจ จะหาเงินเพื่อให้หลวงปู่ไว้ใช้รักษาตัว และสร้างรูปบูชาขนาดเท่าองค์จริง ไว้ที่วัดครับ จึงได้คิดสร้างเหรียญรุ่นนี้ขึ้น
ให้ลูกศิษย์วงในได้บูชากัน คือชุดกรรมการ 4000 บาท จำนวน 199 ชุด ก็หมดในเวลารวดเร็ว
แต่ผมเองเห็นว่า ไหน ๆ ก็สร้างแล้ว ควรที่จะให้ผู้อื่นได้รู้จักหลวงปู่มากขึ้น
จึงเสนอให้สร้างรายการย่อย และมีการให้เปิดจองขึ้น
โดยศูนย์จองที่เปิด ก็เป็นพรรคพวก เพื่อนฝูงกัน ทั้งนั้น ทุก ๆ คน ก็เต็มใจช่วยเปิดจองให้ โดยไม่คิด เปอร์เซ็นต์
ส่วนผมเองจะจองยังต้องจองในราคาเต็มเช่นกันครับ ไม่ได้ส่วนลดครับ
ดังนั้น เหรียญรุ่นนี้จึงเป็น งานบุญจริง ๆ ครับ ได้ร่วมทำบุญกับหลวงปู่ครับ
ส่วนชื่อรุ่น หลวงปู่ตั้งเองครับ และก็ไปตรงกับนามสกุลของพี่ไก่ ยินดีกับพี่ไก่ด้วยครับ
สงสัยหลวงปู่ตั้งใจ ให้พี่ไก่ไว้บูชาแน่ ๆ เลยครับ
ส่วนความก้วนหน้า คงจะเป็นหน้าที่ของพี่บ้านพระระยอง ต่อครับ

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:24 น.] #948583 (9/66)
แต่สำหรับหลวงปู่ตี๋ผู้เป็นศิษย์นั้น ในวัยสามสิบต้นๆ พึ่งจะเริ่มหัดเดินตามรอยอาจารย์ได้เพียงไม่กี่ปี ยังมีเวลาฝึกฝนอีกนาน แต่ด้วยท่านป็นผู้มีนิสัยใจร้อน ไม่เกรงคน พูดจาโผงผาง ตรงไปตรงมาเรียบง่ายตามสไตล์ลูกทุ่งเมืองสุพรรณ โดยเฉพาะศิษย์ใกล้ชิดนั้นเคยชินกันดี แต่ที่สำคัญจนเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งก็คือท่านมั่นใจและถือขลังเป็นอย่างยิ่งชอบลองของ

ถึงแม้ท่านมั่นใจและถือขลัง แต่ท่านก็ไม่ลืมครูบาอาจารย์ ดังนั้นในการสร้างเหรียญรุ่นแรกของท่าน เมื่อปี 2513 นั้น ท่านจึงได้นำไปถวายหลวงพ่อมุ่ย ผู้เป็นอาจารย์ปลุกเสกนานถึง 1 พรรษาเต็มๆ จากนั้นท่านก็นำกลับมาปลุกเสกของท่านเองที่วัดกระเสียว ด้วยความมั่นอกมั่นใจอยู่ทุกคืนวัน เหรียญรุ่นแรกนี่ท่านหวงพอดู จะมอบให้ใครก็ใช่ว่าจะได้กันง่าย ๆ แทบทุกรายจะต้องถูกมีดอีเหน็บฟันหลังแอ่นกันทุกราย บางรายที่หนักหน่อยก็โดนอีเหน็บขว้างตามหลังหลบทันก็รอดหลบไม่ทันก็หลังงอไปตามๆกัน อีกอย่างหนึ่งก็คือหลวงปู่เป็นพระที่ชอบเดินธุดงค์เป็นสรณะไม่ค่อยจะอยู่วัด เมื่อรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกระเสียว ต.กระเสียว อ.สามชุก จ. สุพรรณบุรี หลวงปู่ก็ยังออกธุดงค์เป็นประจำ ธุดงค์บ่อยหรือนานแค่ใหนก็ไม่อาจคำนวณได้ รู้แต่ว่าหลวงปู่ท่านเดินธุดงค์เพลินจนกระทั่งโดนยึดตำแหน่งเจ้าอาวาสนั่นเลยทีเดียว แทนที่จะทำให้หลวงปู่เรียกร้องดิ้นรนเอาตำแหน่งกลับมา ประดับความเป็นตัวกูดังที่ควรทำ แต่หลวงปู่ท่านกลับหันหลังให้กับยศตำแหน่งอย่างไม่ใยดี เรื่องยศช้างขุนนางพระ ท่านว่าเป็นสิ่งที่สั่งสมกิเลศตัณหาพุทธบุตรผู้มีปัญญาไม่ควรจมอยู่กับหล่มปลักโคลนเหล่านี้ และนั่นก็เป็นเหตุให้ท่านมุ่งมั่นใฝ่หาแสวงแต่วิชาความรู้ทางพระเวทย์วิทยาคมเพียงอย่างเดียว หลวงปู่จึงเป็นพระสงฆ์เพียงรูปเดียวในย่านนั้นที่ไม่มีอะไรกับเขาเลยทั้งยศตำแหน่งหน้าที่การงาน อะไรก็ตามที่พระสงฆ์สมัยนี้วิ่งกันให้วุ่นวายนั้น หลวงปู่ตี๋ผู้นี้ไม่เคยมีและไม่เคยเอาอะไรกับใครเขาทั้งสิ้น ถ้าจะมีก็คงจะมีแต่อย่างเดียว ซึ่งนั่นก็คือ วิชาอาคม เท่านั้นที่ทำให้ท่านเฟื่องฟูรุ่งเรืองกว่าใครผู้ใดในย่านนั้นจนปัจจุบัน
ขณะที่หลวงปู่ยังอยู่ที่วัดกระเสียวนั้นท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงกันดีด้านสักยันต์อาบน้ำมนต์ปลุกเสกพระเครื่องทั้งอภินิหาร อิทธิฤทธิ์ บุญญฤทธิ์ ทุกอย่างทั้งวิชาอาคมครบเครื่องครั้งหนึ่งที่วัดกระเสียวหลวงปู่ได้สำเร็จวิชามาจากวัดดอนไร่หมาด ๆ ได้ลองวิชาให้ศิษย์ดูเป็นขวัญตา โดยท่านนั่งสมาธิบนน้ำแล้วให้ลูกศิษย์สองคนที่บวชเป็นพระอยู่ที่วัดกระเสียว ลงไปลอยคออยู่ในน้ำพยายามกดร่างหลวงปู่ให้จมน้ำ โดยช่วยกันดึง ช่วยกันกดร่างหลวงปู่ที่นั่งสมาธิอยู่เหนือน้ำนั้นให้จมลง เป็นที่น่าประหลาดและอัศจรรย์นักก็คือ ไม่ว่าจะช่วยกันดึงหรือช่วยกันกดอย่างไรก็ตาม พยายามอยู่นานจนกระทั่งหมดเรี่ยวหมดแรง ก็ไม่สามารถจะดึงร่างหลวงปู่ให้จมลงได้แม้แต่น้อย ถึงวันดีคืนดีก็มักจะมีผู้พบเห็นหลวงปู่ลงไปนั่งอยู่กลางสระน้ำโดยท่านนั่งอยู่บนกอผักตบชวา ใครๆที่ผ่านไปผ่านมาก็ว่าท่านเป็นพระบ้า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะนำเอาความอัศจรรย์ที่พบเห็นนั้นไปร่ำลือกันอยู่เสมอ แต่ที่น่าแปลกก็คือขึ้นชื่อว่าอาจารย์ตี๋แล้วแต่ไหนแต่ไรมา ผู้คนทั่วไปมักมองข้ามท่านกันหมด คงเห็นว่าหลวงปู่ท่านไม่มีอะไร แค่หลวงตาธรรมดาๆยิ่งท่านไม่ค่อยง้อใครแล้ว ก็เลยไม่มีใครค่อยเข้าหาเป็นประเภทใกล้เกลือกินด่างกันหมด นี่อาจเป็นบทสรุปในมาตรฐานสังคมสมัยนี้ที่น่าจะเด่นชัดอยู่ว่า ถ้าไม่คุยโม้ไม่โอ้อวดโฆษณายกหางตนเองแล้ว ก็ยากที่จะดัง และยิ่งไร้ซึ่งยศถาบรรดาศักดิ์ วัดไม่สวย โบสถ์ไม่ไหญ่โต นั่งรถไม่โก้ จีวรเก่าคร่ำคร่า และที่สำคัญเวลาพูดจา พูดจ๊ะ พูดจ๋า ยกยอ ญาติโยมไม่เป็นแล้วก็คงลำบากอย่างหลวงปู่ตี๋ผู้นี้เป็นตัวอย่าง และก็ย่อมเป็นธรรมดาเราทั้งหลายกว่าจะมาทราบประวัติของพระอย่างหลวงปู่นี้ก็มักจะสายอยู่เสมอๆ

แต่อย่างไรเสีย ก่อนที่จะโด่งดังนามอย่างหลวงปู่ตี๋นี้นั้น จึงต้องอาศัยร่มใบบุญแห่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อมุ่ยผู้เป็นอาจารย์มาช่วยหนุน เพราะใครหลายคนมักจะถามกันอยู่เสมอๆว่าท่านเป็นศิษย์ของใคร
สำหรับอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่สำคัญยิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือ ยอดพระเถระแห่งเมืองสรรค์บุรี ผู้มีฉายาว่าผู้วิเศษแห่งเมืองสรรค์ คำนวนวันเวลาประมาณราว พ.ศ.2515 หลวงปู่ได้ไปขอฝากตัวเรียนวิชากับหลวงพ่อกวย ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดโฆสิตาราม รู้กันภายในหมู่ศิษย์ว่าท่านตั้งใจจะตามเก็บวิชาที่แตกแขนงไปจากหลวงพ่ออิ่มกลับคืนมาให้ได้ครบ ฉะนั้นเมื่อไปถึงหลวงปู่ตี๋จึงแจ้งความประสงค์ว่าเป็นลูกบุญธรรมของหลวงพ่ออิ่มมีเจตนาอันแน่วแน่ที่ต้องการรวบรวมตำราวัดหัวเขาไว้ให้ครบถ้วนจึงมาขอฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อกวยจำได้ว่าท่านเคยรับปากกับอาจารย์ใหญ่เอาไว้เมื่อตอนที่เคยไปเรียนวิชากับหลวงพ่ออิ่ม ตั้งแต่สมัยที่หลวงปู่ยังเป็นเด็กวัดในครั้งเก่าก่อน จึงเมตตาถ่ายทอดวิชาให้โดยมิได้ปิดบัง เท่าที่ทราบมา อันวิชาต่างๆที่ได้เรียนมาจากหลวงพ่อมุ่ยนั้นก็นับว่าเพียงพออยู่ ขาดแต่เพียงเกร็ดเล็กๆน้อยบางอย่างที่ผู้ใฝ่รู้อย่างหลวงปู่นั้น ท่านพยายามใฝ่หาเพิ่มเติม ซึ่งเท่าที่เห็นนั้นล้วนแต่เป็นวิชาที่หลวงพ่อมุ่ย มิได้ถือและใช้เป็นหลักสำคัญ เช่น วิชาปลุกปลัดขิก และการสักยันต์ ประมาณว่าหลวงพ่อมุ่ยท่านไม่ค่อยชอบทางนี้ ถึงท่านจะร่ำเรียนมาแม้จะเก่งกล้าแตกฉาน แต่ในเมื่อท่านไม่ใส่ใจท่านเลยไม่ได้สอนเป็นพิเศษ เกร็ดต่างๆเหล่านี้จึงเป็นหน้าที่ของหลวงปู่ผู้ใฝ่รู้ต้องเป็นผู้เสาะหาเอาเอง จึงเป็นเหตุที่ทำให้ท่านต้องมาเรียนกับหลวงพ่อกวยโดยเฉพาะ ส่วนวิชาเสกสิงห์ราช ทางมหาอำนาจที่หลวงปู่ท่านใช้อยู่ การปลุกเสก การลงอักขระเลขยันต์และตระกรุดโทน อันโด่งดังทางแคล้วคลาดคงกระพันมหาอุดนั้น หลวงปู่ท่านได้ใช้วิชาทางหลวงพ่อมุ่ยเป็นหลักมาตั้งแต่ต้น จนไม่ต้องดิ้นรนไปเรียนที่ใดอีก โดยเฉพาะเรื่องการลงตระกรุดนั้นหลวงปู่เคยเปรยว่า หลวงพ่อมุ่ย อาจารย์ท่านนั้นนับว่าเป็นสุดยอด ทั้งยังบอกศิษย์ใกล้ชิดอยู่เสมอว่าในบรรดาวัตถุมงคลที่โด่งดังของหลวงพ่อมุ่ยนั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปหล่อ พระสมเด็จ หรือเหรียญทุกรุ่นที่โด่งดังนั้น หลวงปู่ท่านเลือกเอาตระกรุดเพียงอย่างเดียว ส่วนของหลวงพ่อกวยนั้นหลวงปู่ท่านว่าท่านเลือกเอาพญาครุฑ ซึ่งท่านก็มีพกติดตัวอยู่เสมอ หลวงปู่ท่านว่าเป็นสุดยอดของหลวงพ่อกวย ไม่มีอะไรเกิน วิชาอีกอย่างที่หลวงปู่ได้มาทั้งสองหลวงพ่อนั้นคือวิชาจินดามณี หรือมนต์พระสังข์เรียกเนื้อเรียกปลา หลวงปู่ท่านว่าของทั้งสองอาจารย์นั้นไม่แตกต่างกัน เพราะว่าเรียนมาจากหลวงพ่ออิ่มทั้งคู่ สำหรับหลวงพ่อกวยนั้นหลวงปู่ท่านใกล้ชิดเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่กล่าวกันในหมู่ลูกศิษย์ของหลวงพ่อกวยว่า สาม ต. คืออาจารย์ ตั้ว อาจารย์เตี้ย และอาจารย์ตี๋ ศิษย์ทั้งสามท่านนี้ นับกันว่าเป็นที่เชื่อถือได้

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:40 น.] #948596 (10/66)


(D)


ต้องขอขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 17:43 น.] #948599 (11/66)


(D)


ข้อมูลจากหนังสือลานโพธิ์ครับ..

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 18:00 น.] #948620 (12/66)


(D)


เหรียญรุ่น 3 เนื้อนวะโลหะ(สัมฤทธิ์แก่เงิน) จำนวนสร้าง 320 เหรียญ ตอกเลข+โค๊ต เอามาให้ชมครับ

โดยคุณ kungfujay (618)(5)   [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 19:18 น.] #948689 (13/66)
ในที่สุด ความฝันที่จะได้

เหรียญหลวงปู่ตี๋ ไว้ห้อยคอ

ก็เป็น จริงสักที...................

โดยคุณ c_chai27 (1.9K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 19:57 น.] #948770 (14/66)

โดยคุณ p_sak (661)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 20:06 น.] #948792 (15/66)


(D)
ที่วัดยังมีเปล่าครับ ถ้าไม่มีที่ไหนมีม้ง สวยมากครับ

โดยคุณ apaitoon (440)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 21:22 น.] #948946 (16/66)

โดยคุณ สิทธิโชติ (263)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 22:10 น.] #949039 (17/66)

โดยคุณ Matin22 (4K)  [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 22:21 น.] #949082 (18/66)

โดยคุณ เพชรพระอุมา (146)(1)   [อ. 01 ธ.ค. 2552 - 22:53 น.] #949132 (19/66)
การออกแบบเหรียญดูคลาสสิคดีครับ....เห็นแล้วชอบมาก สงสัยช่วงปีใหม่คงต้องไปกราบท่านบ้าง.....

โดยคุณ BOONRUKSA (498)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 01:56 น.] #949308 (20/66)
งานออกแบบรูปแบบสวยงามครับ เข้าใจว่าผู้สร้างคงต้องการเน้นงานแนวคลาสสิก เยี่ยมจริงๆ

โดยคุณ toei89 (625)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 03:17 น.] #949325 (21/66)
ข้อมูลดีๆขอบคุณครับ

โดยคุณ สาวบางโพ (1.9K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 04:24 น.] #949330 (22/66)

โดยคุณ gotton (1.1K)(1)   [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 09:31 น.] #949493 (23/66)

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 09:48 น.] #949516 (24/66)


(D)
เหรียญรุ่น "เจริญสุข" เป็นการใช้เทคนิคการปั้น-ย่อครับ
คือใช้ปูนปั้นเป็นต้นแบบเหรียญ ขนาดประมาณ 20 ซม. (จะได้รายละเอียดมาก สมจริง เพราะมีขนาดใหญ่)
แล้วนำแบบย่อลงในบล็อกเหล็ก (คล้าย ๆ สมัย เด็ก ๆ ที่ืเราใช้เครื่องมือวาดรูป จากรูปต้นแบบ ลักษณะเป็นแขน ด้านหนึ่งเป็นเข็ม จิ้มต้นแบบ อีกด้านเป็นดินสอ จิ้มบนกระดาษเปล่า)
หลังจากนั้น นำบล็อกเหล็กมาแต่งด้วยมือครับ

เหรียญนี้ถ้าไม่ใช้วิธีปั้น-ย่อ ช่างคงแกะได้ลำบากครับ

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 09:51 น.] #949523 (25/66)


(D)


รายการจัดสร้างเหรียญหลวงปู่ตี๋ รุ่นเจริญสุข

โดยคุณ GST99 (3.8K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 13:28 น.] #949705 (26/66)
ขออภัยครับ ไม่ทราบ รายการที่ 1-3 ทำไม ราคา ต้องสอบถาม ครับ แจ้งราคาเลยไม่ได้หรือครับพี่ พอดี สนใจครับพี่บ้านพระระยอง

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 14:02 น.] #949739 (27/66)
โดยคุณ GST99 (125.25.235.*) [2 Dec 2009 13:28] #949705 (26/26)

ขออภัยครับ ไม่ทราบ รายการที่ 1-3 ทำไม ราคา ต้องสอบถาม ครับ แจ้งราคาเลยไม่ได้หรือครับพี่ พอดี สนใจครับพี่บ้านพระระยอง

ตอบครับ.... กำลังจะทำการปั๊มเหรียญ ยังไม่รู้ต้นทุนเหรียญเลยครับ (การคำนวนราคาอยากให้เป็นราคาที่สมเหตสมผลครับ กลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่ทำด้วยใจกันครับ) ที่ต้องลงไว้ว่าสอบถาม เพาะยังกำหนดราคาไม่ได้จริงๆครับ คาดว่าอีก ๗ วันน่าจะสรุปราคาได้ครับ

ขอขอบคุณที่ทุกท่านให้ความสนใจกัน งานนี้เป็นงานบุญ จริงๆครับ

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 14:09 น.] #949742 (28/66)
ในที่นี้ต้องขอขอบคุณ นิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ เป็นอย่างยิ่งครับ ที่ช่วยลงโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ ได้ยินมาว่าช่วยนำไปลงให้ แบบงานช่วยร่วมบุญ โดยไม่คิดเงินครับ แบบฟรีๆๆๆๆๆ ครับผม

คณะลูกศิษย์หลวงปู่ตี๋ ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ



โดยคุณ saintjames (346)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 14:48 น.] #949789 (29/66)


น่าสนใจ น่าสะสม

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 15:04 น.] #949808 (30/66)


(D)


การปั้นขึ้นรูปครั้งแรก ใช้การปั้นมือครับ ขนาดความสูงที่ใช้กำหนดการปั้น สูง 20 ซ.ม. ครับ

และนำแบบปั้นที่เสร็จแล้วมาทำการย่อลงในบล็อคเหล็ก ให้เหลือขนาด 4.2 ซ.ม. ครับ ทำการตบแต่งบล็อคด้วยงานแต่งมือของช่างแกะบล็อคเหรียญอีกครั้ง

ลองชมภาพกันดูครับ

โดยคุณ พรโกสีย์ (8.4K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 15:07 น.] #949810 (31/66)

โดยคุณ พรโกสีย์ (8.4K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 15:24 น.] #949815 (32/66)
ได้ข่าวว่ารุ่นนี้เป็นงานบุญจริง สาธุ สาธุ ครับ สงสัยต้องร่วมบุญซะแล้วงานบุญแบบนี้ชอบจริงๆครับ

โดยคุณ kungfujay (618)(5)   [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 16:56 น.] #949892 (33/66)
ผมอยู่สามพราน จองที่ไหนใก้ลสุดครับพี่

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 17:12 น.] #949901 (34/66)
โดยคุณ kungfujay (125.27.222.*) [2 Dec 2009 16:56] #949892 (33/33)

ผมอยู่สามพราน จองที่ไหนใก้ลสุดครับพี่

ตอบ... จองในเวป หน้ากระดาน เสนอขายพระเครื่อง วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ ครับ จ่ายเพิ่มแค่ค่าบริการจัดส่งไปรษณีย์ครับ

หรือที่พันธ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ร้านมรดกไทย ครับ


โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 18:10 น.] #949947 (35/66)
พี่สุชาติ พี่เอก พี่ธง คุณนกกะลา เตรียมใส่เสก็ตได้เลยครับ....

โดยคุณ GST99 (3.8K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 18:15 น.] #949952 (36/66)
ขอบคุณครับพี่ แล้วจะติดตามครับ

โดยคุณ apaitoon (440)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 21:27 น.] #950184 (37/66)
แล่มจริงๆ

คุณ บ้านพระระยอง มีกรรมการแบ่งมั้ยครับ

โดยคุณ Matin22 (4K)  [พ. 02 ธ.ค. 2552 - 22:20 น.] #950250 (38/66)
ชูดยอดครับพี่..

โดยคุณ mixing (1.4K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 00:00 น.] #950354 (39/66)
สร้างน้อยมากๆ รอครับๆ

โดยคุณ ปรมัตถ์ (1.4K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 00:06 น.] #950357 (40/66)
ท่านเป็นพระที่สมถะ และเก่งจริง ขอยืนยัน ในอดีตท่านสร้างวัตถุมงคลไม่บ่อยเท่าไร แต่ละอย่างท่านตั้งใจมาก ก่อนที่ท่านจะถูกทำร้ายเมื่อมีเวลาท่านจะจารของไว้แจก ส่วนตัวคิดว่าท่านน่าจะเป็นเกจิฯที่เก่งที่สุดองค์หนึ่งในสุพรรณฯเลยทีเดียว

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 09:01 น.] #950572 (41/66)


(D)
เปิดรับจองตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ จนถึงวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๓

กำหนดรับพระ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ (วันตรุตจีนครับ)

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 09:10 น.] #950580 (42/66)
โดยคุณ apaitoon (110.164.158.*) [2 Dec 2009 21:27] #950184 (37/41)

แล่มจริงๆ

คุณ บ้านพระระยอง มีกรรมการแบ่งมั้ยครับ

ตอบครับ.... ต้องขออภัยจริงครับ สำหรับชุดกรรมการได้เปิดแจกจ่ายให้ช่วยกันช่วยร่วมบุญกัน ท่านละชุดสองชุดตั้งแต่สามเดือนที่แล้วครับ (ตอนยังเป็นแบบกระดาษอยู่เลยครับ) เพาะต้องนำเงินมาเป็นทุนในการจัดทำเบื้องต้นครับ ส่วนใหญ่จะเป็นการบอกบุญต่อๆกันในกลุ่มลูกศิษย์ครับ

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 09:15 น.] #950584 (43/66)


(D)
แบบโบชัวร์

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 09:15 น.] #950585 (44/66)


(D)
แบบโบชัวร์

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 09:21 น.] #950592 (45/66)


(D)
แบบโบชัวร์

โดยคุณ kungfujay (618)(5)   [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 09:39 น.] #950610 (46/66)
สอบถามหน่อยครับ เนื้อสามกษัตรีย์ ที่สร้าง 99 องค์

ราคาจองเท่าไรครับ ขอบคุณครับ

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 10:42 น.] #950662 (47/66)
โดยคุณ kungfujay (125.27.210.*) [3 Dec 2009 09:39] #950610 (46/46)

สอบถามหน่อยครับ เนื้อสามกษัตรีย์ ที่สร้าง 99 องค์

ราคาจองเท่าไรครับ ขอบคุณครับ

โดยคุณ GST99 (125.25.235.*) [2 Dec 2009 13:28] #949705 (26/26)

ขออภัยครับ ไม่ทราบ รายการที่ 1-3 ทำไม ราคา ต้องสอบถาม ครับ แจ้งราคาเลยไม่ได้หรือครับพี่ พอดี สนใจครับพี่บ้านพระระยอง

ตอบครับ.... กำลังจะทำการปั๊มเหรียญ ยังไม่รู้ต้นทุนเหรียญเลยครับ (การคำนวนราคาอยากให้เป็นราคาที่สมเหตสมผลครับ กลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่ทำด้วยใจกันครับ) ที่ต้องลงไว้ว่าสอบถาม เพาะยังกำหนดราคาไม่ได้จริงๆครับ คาดว่าอีก ๗ วันน่าจะสรุปราคาได้ครับ

ขอขอบคุณที่ทุกท่านให้ความสนใจกัน งานนี้เป็นงานบุญ จริงๆครับ

โดยคุณ parinya_utra (1.1K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 12:27 น.] #950744 (48/66)
ใครสนใจ ร่วมด้วยช่วยกันทำบุญน่ะครับ เหรียญสวยจริง ๆ ครับ ดูแล้วคลาสสิค มากครับ

โดยคุณ komprakorn (225)(1)   [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 13:02 น.] #950766 (49/66)
ถ้าเหรียญจริงเป็นตามรูป ต้องยอมรับว่าสวยจริงๆ สวยมาก ดูแล้วขลังดีด้วย ผมรอติดตามตรับ ไม่อยากตกรถไฟจองแน่นอน

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 16:55 น.] #950938 (50/66)


(D)


ลองชมภาพลับ... ของตะกั่วลองพิมพ์... ที่ทำการปั๊มขึ้นมาดู...ว่าคมชัดสมบูรณ์พอหรือยังครับ

โดยคุณ บ้านพระระยอง (2.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 16:56 น.] #950939 (51/66)


(D)
อีก ๑ ภาพ ครับ

ตัดสินใจช้า... ถ้าไม่ทัน... ห้ามต่อว่าผมนะครับ...

พี่น้องในเวปยังไงก็รับข่าวสารเร็วกว่าข้างนอกอยู่แล้วนะครับ

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 18:27 น.] #951009 (52/66)


(D)
ใบจองชุดกรรมการครับ....นวะเปลี่ยนเป็นนวะโลหะหน้ากากเงิน คุ้มมากๆครับ

โดยคุณ kaicpac (1.2K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 18:32 น.] #951012 (53/66)


(D)


เหรียญรุ่น 3 ออกปีที่แล้ว เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง สร้าง 550 เหรียญ สวยคลาสสิค มากๆครับ..

โดยคุณ apaitoon (440)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 20:04 น.] #951157 (54/66)
โอ้ววววววววววว

คุณ kaicpac มีชุดกรรมการพอจะแบ่งบ้างมั้ยคร้าบบบบ

โดยคุณ apaitoon (440)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 20:05 น.] #951161 (55/66)
สนใจ สนใจจริงๆ ครับ

โดยคุณ พรโกสีย์ (8.4K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 20:58 น.] #951331 (56/66)
เหรียญรุ่น3ปั๊มกระบอก หูเชื่อม สวยซึ้ง คลาสสิคจริงๆครับ

โดยคุณ วัตถุมงคล (1.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 23:08 น.] #951574 (57/66)


(D)



โดยคุณ วัตถุมงคล (1.3K)  [พฤ. 03 ธ.ค. 2552 - 23:09 น.] #951576 (58/66)


(D)

โดยคุณ พรโกสีย์ (8.4K)  [ศ. 04 ธ.ค. 2552 - 08:04 น.] #951915 (59/66)
รุ่น3 ทองแดง สร้างแค่ 3100 น้อยมากๆๆๆๆ

โดยคุณ komprakorn (225)(1)   [ศ. 04 ธ.ค. 2552 - 10:07 น.] #952092 (60/66)
รุ่น 3 ก็เท่ห์ รุ่นต่อไปก็สวย ทีมสร้างเข้าใจคิดเนาะ

โดยคุณ ชายหน่อง (124)  [ศ. 04 ธ.ค. 2552 - 11:21 น.] #952160 (61/66)
ได้ข่าวว่าเสี่ยไก่ซีแพคได้ชุดกรรมการมา 2 ชุดครับ...

โดยคุณ kwang (2.3K)  [ศ. 04 ธ.ค. 2552 - 11:56 น.] #952183 (62/66)


(D)


เอาเหรียญไม่ได้เชื่อมหู มาฝากครับ

โดยคุณ kwang (2.3K)  [ศ. 04 ธ.ค. 2552 - 11:58 น.] #952186 (63/66)


(D)


1

โดยคุณ พรโกสีย์ (8.4K)  [ศ. 04 ธ.ค. 2552 - 13:23 น.] #952262 (64/66)
ว้าว

โดยคุณ kungfujay (618)(5)   [ศ. 04 ธ.ค. 2552 - 17:41 น.] #952557 (65/66)
พรุ่งนี้ผมจะไปเที่ยว ตลาดสามชุก

แล้วจะไปวัดท่ามะกรูด ต่อ ไม่ทราบว่าจะจองเหรียญที่วัดได้หรือป่าวครับ

เพราะว่าเบอร์มือถือ ที่ลงว่า เป็นเบอร์หลวงพ่อเจ้าอาวาส กับ พระเลขา

โทรไป ปิดเครื่องครับ ขอบคุณครับ

โดยคุณ kwang (2.3K)  [ศ. 04 ธ.ค. 2552 - 22:29 น.] #952901 (66/66)


(D)
ได้ข่าวว่า ตอนนี้เจ้าอาวาสและพระเลขาไปออกปริวาส น่าจะยังไม่กลับ
ยังไงลองดูศูนย์อื่น ยังมีอีกหลายที่ครับ
ที่สุพรรณ ก็จองกับคุณโก๋ บ้านกร่าง ก็ได้ครับ
หรือจองกับพี่บ้านพระระยองในเวปก็ได้ครับ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www5