ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : อีกหนึ่งยอดเกจิ เพชรน้ำเอกแห่งนครปฐม """" หลวงพ่อสืบ วัดสิงห์"""



(D)
หลวงพ่อสืบ? หรือ ?พระครูพิทักษ์วีรธรรม (สืบ ปริมุตโต)? เจ้าคณะตำบลท่าพระยา

ประวัติ
หลวง พ่อสืบ เกิดที่บ้านตลาดบน ต.ท่ากระจับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2475 ในครอบครัวเกษตรกรรม บิดาชื่อ นายชาญ มารดาชื่อ นางเพียร สกุล "ยอดยง" เข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดไทร จนจบชั้นประถมจึงเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเพิ่มวิทยา วัดกลางบางแก้ว เมือปีพ.ศ. 2492 จบชั้นมัธยมแล้วจึงสอบเข้าโรงเรียนพลตำรวจ จบการศึกษาจากโรงเรียนพลตำรวจำด้รับการเข้าบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ณ สถานีตำรวจลุมพินี กรุงเทพฯ รับราชการตำรวจอยู่ได้ 3 ปี เกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส จึงตัดสินใจลาออกเพื่ออุปสมบท เมื่อปีพ.ศ. 2497 ณ วัดท่าใน ต. ท่าพญา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยมี พระครูสิริวุฒาจารย์ (ห่วง สุวัณโณ ) วัดท่าใน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ ปิ่น วัดศรีษะทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการ ม้วน วัดไทร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา " ทานรโต " หลังจากอุปสมบทแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดท่าในศึกษาธรรมและปฏิบัติรับใช้ " หลวงพ่อห่วง วัดท่าใน "

โดยคุณ som3693 (6.5K)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 21:25 น.]



โดยคุณ som3693 (6.5K)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 21:26 น.] #941066 (1/21)
หลวง พ่อห่วง องค์นี้เป็นเกจิอาจารย์ที่มีวิชาแก่กล้ามากเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้าน เป็นสหธรรมกับ หลวงพ่อ เงิน วัดดอนยายหอม และ หลวงพ่อ น้อย วัดธรรมศาลา แม้แต่หลวงพ่อเงินเองก็ยังกล่าวยกย่องในความสามารถของหลวงพ่อห่วง ชาวบ้านแถวๆ ต.ท่าพญา นครชัยศรี เมื่อเดินทางไปขอวัตถุมงคลกับหลวงพ่อเงินมักจะออกปากว่า "คุณเลยของดีมาเสียแล้วหลวงพ่อห่วง วัดท่าใน นั่นแหละของดี ของจริง ไปเอาที่นั่นเถอะโยม "
หลวงพ่อสืบ ปฏิบัติรับใช้หลวงพ่อห่วง วัดท่าใน ได้ 1 ปี ได้เรียนวิชาก้าวหน้าพอสมควร จิตใจเกิดรุ่มร้อน อยากจะลองวิชาที่รียนมาว่าเป็นอย่างไรกันแน่ อยู่ไม่ได้จึงตัดสินใจลาสิกขา นึกถึงคำพูดของเพื่อนว่า " เป็นลูกผู้ชายต้องเป็นทหารกล้า " จากนั้นบ่ายหน้าไปสอบเข้าเรียนโรงเรียนนายสิบทหารม้ายานเกราะรุ่น 5 รุ่นเดียวกับ พ.ท.ทองสุข เก่งศิริ,พ.อ.นคร ธีระเนตร, พ.อ. ประสาน รักปทุม จบจากโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ได้รับยศสิบโท ไปสังกัดกองพันทหารม้ายานเกราะสระบุรี ใช้ชีวิตลูกผู้ชายคุ้มค่าโลดโผนโจนทยาน เข้าออกคุกทหารเป็นประจำจนเบื่อหน่ายเต็มที่หันหน้ากลับท้องทุ่งท่าพญา นครชัยศรีไปพบหลวงพ่อม้วนซึ่งสมัยบวชครั้งแรกเป็นคู่สวด ขณะนั้นเป็น" พระครูอินทรสิริชัย " ระบายความในใจว่าชีวิตฆราวาสมีแต่ทุกข์สับสนวุ่นวายกิเลสตัญหามากมาย แก่งแย่งชิงดีมีแต่อิจฉาริษยา ได้ไปทดลองท่องดินแดนฆราวาสมานานหลายปี รับรู้รสชาติหมดทุกอย่างมิใช่หนทางแห่งการสิ้นทุกข์ มีแต่ทุกข์เพิ่มขึ้นเหมือนอยู่ในวังวนแห่งกิเลส ปรึกษากับ " หลวงพ่อม้วน " แล้วจึงตัดสินใจออกบวชอีกครั้ง ครั้งนี้จะใช้ชีวิตบรรพชิตจนชีวิตจะหาไม่
จึง อุปสมบทในปี พ.ศ. 2514 โดยมี พระครูอินทสิริชัย ( ม้วน อินทสุวัณโณ ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการ ง้อ ปัญญาธโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า " ปริมุตโต " จำพรรษาอยู่วัดไทร ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระธรรมจนแตกฉาน สามารถสอบนักธรรมตรี-โท-เอก ได้โดยลำดับในปี พ.ศ. 2518 แล้วหันมาสนใจเวทวิทยาคม ระลึกถึงภูมิเก่าวิชาที่ได้รับมาจากหลวงพ่ดห่วง วัดท่าใน ทบทวนจนแม่นยำและศึกษาเพิ่มเติมจาก " หลวงพ่อม้วน "

โดยคุณ som3693 (6.5K)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 21:26 น.] #941068 (2/21)
"หลวง พ่อม้วน" วัดไทร องค์นี้เป็นศิษย์พุทธคมของพระครูอุตรการบดีหรือหลวงพ่อสุข วัดห้วยจรเข้ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชามาจาก "หลวงปู่ นาค วัดห้วยจรเข้" ผู้สร้างพระปิดตาเนื้อเมฆพัด ได้ขลังโด่งดัง เป็นพระปิดตาอันดับหนึ่งของเมืองไทย หลวงพ่อม้วนเป็นศิษยืเอกของหลวงพ่อสุข หนึ่งในสาม อีกสององค์คือหลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร และหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หลวงพ่อม้น วัดไทร องค์นี้ขลัง ดังเงียบ วัตถุมงคลของท่านสร้างน้อย แจกยาก เลือกคนแจกไม่ได้ให้ง่ายๆ จึงไม่แพร่หลายแต่เหนียวเหลือเกิน
" หลวงพ่อสืบ " ได้ศึกษาวิชามาจากหลวงพ่อม้วนอีกทางหนึ่ง เมื่อมารวมกับหลวงพ่อห่วง วัดท่าใน แล้วก็มีวิชามามากพอตัว จัดว่าท่านเป็นศิษย์สืบสายวิชามาจาก "หลวงปู่นาค วัดห้วยจรเข้" สหธรรมกับ "หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว" อัธยาศัยของหลวงพ่อสืบเป็นคนมีจิตใจนักเลงติดตัวมาตั้งแต่ครั้งเป็นฆราวาส จึงมีจิตใจแน่วแน่เด็ดเดี่ยว พูดอย่างไรทำอย่างนั้น ผู้ที่มีจิตใจเช่นนี้ จึงทำของได้ขลังเพราะมีจิตกล้าแข็งเป็นหนึ่งเดียว ทำให้มีพลังเกิดขึ้นได้ แต่ก็ซ่อนเร้นเหมือน "เสือซ่อนเล็บ"หรือ "สิงห์สิงถ้ำ" ไม่เคยทำวัตถุมงคลใดๆให้ใครทั้งสิ้น
พรรษานี้"หลวงพ่อสืบ" ท่านนึกขลังขึ้นมาอยากให้ชาวบ้านมาร่วมทำบูญพัฒนาวัดท่านจึงตัดสินใจสร้าง "ตะกรุดนวหรคุณ เกื้อหนุนชีวิต" ร้อยด้วยไหม" เบญจพรรณ "จารด้วยมือ ซุ่มสร้างซุ่มทำอยู่ตลอดพรรษาได้ตะกรุดชั้นเยี่ยมมากมายหลายดอก จนเป็นข่าวดังเกรียวกราวในหน้าหนังสือพิมพ์ที่ท่านได้เห็นมาไม่นานนี้

โดยคุณ som3693 (6.5K)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 21:27 น.] #941069 (3/21)
ที่มาของ สมเด็จปืนเสีย และตระกรุดปืนเสีย !!!!
เนื่อง ด้วยมีคนต้องการทดลองของขลังของหลวงพ่อสืบท่านจึงลองนำไปยิงด้วยปืนลูกโม่ ปรากฎว่าลูกโม่ถึงกับแตกกระสุนหลุดกระเด็นออกมา ปืนที่ใช้ก็ใหม่ๆ ไม่ใช่ปืนเก่าอะไร หลังจากนั้นผู้คนจึงได้ให้สมญานามท่านว่าหลวงพ่อสืบปืนเสีย และเรียก สมเด็จที่ท่านสร้างรวมทั้งตระกรุดว่า สมเด็จปืนเสีย และตระกรุดปืนเสีย จนหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และลานโพธิ์ได้นำเรื่องของท่านไปลง ทำให้ท่านมีชื่อเสียงขึ้นมา

โดยคุณ som3693 (6.5K)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 21:34 น.] #941077 (4/21)


(D)


เหรียญเสมารุ่นแรก

โดยคุณ som3693 (6.5K)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 21:37 น.] #941080 (5/21)
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก www.thaiamuletclub.com


และรูปภาพสวยๆจากคุณ สิบทัศน์ ครับ


โดยคุณ p_sak (661)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 22:20 น.] #941127 (6/21)

โดยคุณ ผู้จัดการ (2.4K)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 22:48 น.] #941160 (7/21)
เหรียญสวยมากครับ....

โดยคุณ Ronado (10.2K)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 23:28 น.] #941203 (8/21)
ผมห้อยตะกรุดของท่านอยู่ครับ รู้สึกมั่นใจจริงๆ

โดยคุณ สิทธิโชติ (263)  [อ. 24 พ.ย. 2552 - 23:34 น.] #941222 (9/21)
ไปกราบหลวงพ่อที่วัดมาแล้วครับ ตระกรุดปืนแตกของหลวงพ่อ ผมพกติดตัวทุกวันครับ

โดยคุณ toei89 (625)  [พ. 25 พ.ย. 2552 - 02:25 น.] #941302 (10/21)

โดยคุณ คนสุพรรณฯ (6)  [พ. 25 พ.ย. 2552 - 06:44 น.] #941352 (11/21)

โดยคุณ kiat_wan (1.3K)  [พ. 25 พ.ย. 2552 - 08:33 น.] #941412 (12/21)

โดยคุณ มงคลธรรม (1.1K)  [พ. 25 พ.ย. 2552 - 11:50 น.] #941591 (13/21)
ตะกรุดท่าน ยังจารเองทุกดอก คุ้มครองตัวได้ครับ ไม่ธรรมดาจริงๆครับ ลองหาติดตัวไว้บ้างนะครับ ราคายังไม่สูง

โดยคุณ kungfujay (618)(5)   [พ. 25 พ.ย. 2552 - 12:27 น.] #941617 (14/21)
ผมก็ห้อย เหรียญรุ่นแรก เนื้อ เงิน หลวงพ่อสือ อยู่ครับ

ท่าน เมตตา จริง ๆ ลองไปกราบ ท่านดู .............

โดยคุณ kungfujay (618)(5)   [พ. 25 พ.ย. 2552 - 12:32 น.] #941624 (15/21)
โทษครับ พิมม์ผิด หลวงพ่อสืบ ครับ

โดยคุณ ถาวรวัฒนะ (1.4K)(28)   [พ. 25 พ.ย. 2552 - 20:41 น.] #942132 (16/21)
ผมก็ไปวัดของหลวงพ่อสืบมาวันนี้เองครับ

โดยคุณ schoolbus (103)  [พฤ. 26 พ.ย. 2552 - 10:03 น.] #942874 (17/21)


(D)


เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงที่ประสบด้วยตนเอง
วันที่ 12สค52 ตัวผมได้เดินทางจากที่พักย่านบางนาไปกราบหลวงพ่อสืบ ที่จ.นครปฐม ตามปรกติของวันหยุดเพื่อให้หลวงพ่อช่วยจารเหรียญ(และปลุกเสกอีก1รอบก่อนที่จะนำไปใช้เองและฝากเพื่อน) รดน้ำมนต์และขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล
เรื่องราวที่ข้าพเจ้าจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง กับตัวข้าพเจ้าเองและเป็นความเชื่อส่วนบุคคล (ไม่อยากให้กลายเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ) ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยครับ
เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สค 2552 ข้าพเจ้าและผู้รับเหมาอีกจำนวน 2 คน(ผู้รับเหมาคนหนึ่งขับ อีกคนนั่งข้างคนขับ ส่วนข้าพเจ้านั่งหลัง)ได้ขับรถออกจากกรุงเทพฯ มุ่งตรงไปจ.ระยอง ไปตามทางบนถนนทางหลวงหมายเลข ๗ ด้วยความเร็วสูงประมาณ ๑๔๐ กม./ ชม. ซึ่งระหว่างทางฝนตกอย่างหนักมองทางไม่ชัดเจน และข้าพเจ้าซึ่งนั่งมาเบาะหลังสังเกตว่ารถส่วนใหญ่ชนิด ๔ ล้อจะหลบจอดอยู่ข้างทาง ส่วนรถที่ยังแล่นอยู่บนท้องถนนจะเปิดไฟฉุกเฉิน แต่รถที่ข้าพเจ้านั่งไปนั้น ผู้ขับยังคงขับรถด้วยความเร็วสูง พร้อมทั้งยังขับฉวัดเฉวียนแซงซ้าย แซงขวามาตลอดทาง จนถึงที่เกิดเหตุประมาณกิโลเมตร ๓๘-๓๙ ขณะนั้นฝนเริ่มซาลง ผู้ขับได้ขับรถแซงรถคันหน้าโดยเปลี่ยนจากเลนซ้ายมาเลนขวา ก็มาเจอน้ำ ผู้ขับจึงได้ทำการห้ามล้อกะทันหัน แต่เนื่องจากรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง จึงทำให้รถเสียหลัก พุ่งเข้าชนแท่งปูนกั้นกลางถนน ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำไปประมาณสองตลบ ตกลงไปในร่องลึกกลางถนน และเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าซึ่งนั่งโดยสารมาในรถด้านหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส (ผู้ขับและผู้นั่งด้านหน้าบาดเจ็บเล็กน้อยเพราะมีเข็มขัดนิรภัยและAirbag) จากนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาให้การช่วยเหลือนำข้าพเจ้าส่งที่ รพ กรุงเทพ-พัทยา และส่งตัวต่อมาที่ รพ ราชวิถี เพราะต้องผ่าตัดโดยด่วน เนื่องจาก กระดูกคอข้อที่ 5และ6หัก ข้อที่ 7 เคลื่อนกดทับเส้นประสาท แต่ทีน่าแปลกคือร่าง กายภายนอกของข้าพเจ้าไม่พบบาดแผลใดๆเลย และรักษาตัวอยู่ที่ รพ ราชวิถีรวม 50 วัน (ออกจากรพ 09 ตค 2552) ซึ่งขณะรักษาตัวอยู่นั้น ผู้ที่มาเยี่ยมข้าพเจ้านั้น ต่างถามเป็นคำถามเดียวกันว่า "ข้าพเจ้ามีของดีอะไร ทำไมสภาพรถยับเยินและคอหักแต่ไม่ตาย" ข้าพเจ้าได้แต่ตอบไปว่าตอนนั้นข้าพเจ้าไม่ได้คิดถึงอะไร นอกจาก พ่อแก้ว แม่แก้ว ช่วยลูกช้างด้วย แต่ถ้าพูดถึงของดีที่พกติดตัวในวันนั้น ข้าพเจ้าพกตะกรุด หนังกลองตะโพน และ เหรียญรุ่นแรก ของ หลวงพ่อสืบ วัดสิงห์ ติดตัวเท่านั้น ( ส่วนคนด้านหน้าที่พกเหรียญยันต์เฑาะห์เนื้อเงิน และ เหรียญหนุมาณเหินหาวปรากฏแผลเดียวบริเวณปากเป็นรอยแผลฉีก )
เรื่องที่ข้าพเจ้าเล่าให้ฟังนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ของผู้ที่ชอบขับรถเร็วขณะฝนตกหนัก เพราะว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้สูญเสียทรัพย์สินแล้ว อาจทำให้ผู้ที่ร่วมทางไปด้วยได้รับบาดเจ็บ ยกตัวอย่างข้าพเจ้าที่ออกจาก รพแล้วแต่ยังต้องพักรักษาตัวอีกอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งมันไม่คุ้มค่าเลย

โดยคุณ schoolbus (103)  [พฤ. 26 พ.ย. 2552 - 10:04 น.] #942876 (18/21)


(D)


ขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาล

โดยคุณ กรประเสริฐ (277)  [พฤ. 26 พ.ย. 2552 - 20:57 น.] #943584 (19/21)

โดยคุณ พรปัทมา (624)  [ศ. 27 พ.ย. 2552 - 12:31 น.] #944130 (20/21)

โดยคุณ sitti (2.6K)  [ศ. 27 พ.ย. 2552 - 20:36 น.] #944553 (21/21)

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!


Copyright ©G-PRA.COM
www5