กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

ร่วมเสนอความคิดเห็น

หัวข้อกระทู้ : มังกรคู่ รุ่นแรก เงินไหลมา ลป.เรส อคฺควโร

(N)

#จองรายการไหนแจ้งได้เลยครับ
#มังกรคู่_รุ่นแรก_เงินไหลมา
ลป.เรส อคฺควโร

#ราคาตามใบจองทุกรายการ
+ค่าจัดส่งราคาเดียว 60฿/ครั้ง

จองทักมาได้เลย

โดยคุณ Thanapol_25 (2.8K)

[จ. 22 ต.ค. 2561 - 21:00 น.]

โดยคุณ Thanapol_25 (2.8K)

[จ. 22 ต.ค. 2561 - 21:17 น.] #3889384 (3/10)

ประวัติ หลวงปู่เรศ
สถานะเดิม ชื่อ เรศ สกุล ชูกลิ่น เกิดเมื่อ วันที่ 16 ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๖๔
หลวงปู่เรศ อายุ ๙๗ ปี ๔๖ พรรษา เกิดที่บ้านพราน ตำบลพราน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
บิดา ชื่อ แก้ว ชูกลิ่น มารดาชื่อ ชู ชูกลิ่น
ในวัยเด็ก หลวงปู่เป็นคนที่ชอบเรื่องการเพาะปลูกต้นไม้และพืชทุกชนิด และมีความอยากรู้ว่าต้นไม้
แต่ละต้นนั้น ชื่ออย่างไร และมีคุณสมบัติหรือประโยชน์ของต้นไม้เป็นอย่างไร เป็นยามั้ย หรือเป็นพิษ เมื่อสงสัย
ก็ได้นำต้นไม้หรือพืชผักไปสอบถามจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน อยู่เป็นประจำ จนสามารถรู้ว่าพืชแต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไร เป็นยาหรือเป็นพิษ เมื่อถึงวัยเรียน ท่านเล่าเรียนศึกษาจนจบ อาชีวะ3 แผนกช่างทอ ช่างเย็บ ที่ร.ร.อาชีวะศรีสะเกษ หลังจากเรียนจบ ท่านก็สามารถสอบ บรรจุครูได้ และได้เข้าสอนที่ ร.ร.วัดสำโรงระวี อำเภอศรีรัตนะในปัจจุบัน ต่อมาได้ย้ายไปสอนที่ โรงเรียน วัดศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ หลังจากนั้นไม่นาน ท่านเกิดเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้ลาออกจากการเป็นครู แล้วเข้าสู่ร่มกาสาวพัฒน์ เข้าอุปสมบท ณ อุโบสถวัดศรีแก้ว ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูรัตนพิจารย์ พระคู่สวด คือพระครูสิริธรรมมงคล พระครูอรรถกิจสุนทร(เจ้าคณะอำเภอรูปแรกของอำเภอศรีรัตนะ) ท่านได้รับ ฉายาว่า อคค.วโร หลังจากนั้นท่านได้เดินตามทางที่ชอบมาแต่ตอนเป็นเด็ก ท่านจึงได้เดินธุดงค์เสาะแสวงหาพืชที่เป็นสมุนไพร ทั้งในพื้นที่ใกล้ไกล ตามป่าเขาลำเนาไพร ท่านก็เสาะแสวงหาไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นบนเขากุเลน ประเทศกัมพูชา ท่านเข้าออกหลายรอบเพื่อนำสมุนไพรมา บำบัดทุกข์ให้ชาวบ้านที่ป่วย ทั้งที่รักษาจากโรงพยาบาลมาไม่หายก็ต้องมาให้ท่านรักษาจึงหาย ทั้งโดนคุณไสย์ ท่านก็อาบน้ำมนต์ ให้ดื่มน้ำสมุนไพรก็หายเป็นปลิดทิ้ง
แต่ด้วยเหตุบังเอิญหรือเพราะบุญบารมีของหลวงปู่เรศ ตอนท่านได้ธุดงค์ไปเก็บสมุนไพรที่ เขากุเลน ประเทศกัมพูชา ขณะที่ท่านนั่งพักที่เขากุเลน ได้ปรากฏมีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น นุ่งขาวห่มขาว รูปร่างสูง แขนขายาวเป็นพิเศษ ท่านนึกในใจว่าคงเป็นดาบสที่จำศีลอยู่ที่เขากุเลนเป็นแน่ ท่านเลยถามว่า ท่านดาบสเป็นใครรึ มาถือศีลภาวนาหรือเปล่า ฉันมาครั้งก่อนๆไม่เคยเห็นท่านเลย ดาบสกลับไม่ตอบแต่กลับถามมายังหลวงปู่เรศว่า มาเก็บสมุนไพรหรือ หลวงปู่เรศได้ตอบว่า ฉันมาเก็บหาสมุนไพร ไปไว้รักษาคนป่วย คนเดือดร้อน ที่มาหาที่วัด แล้วดาบสก็ได้บอกแนะนำหลวงปู่เรศว่ามีสมุนไพรอะไรรักษาโรคได้บ้าง และยังได้บอกวิธีใช้สมุนไพรบางอย่างด้วย ทั้งยังบอกสูตรยาอายุวัฒนะให้กับหลวงปู่เรศด้วย เมื่อคุยกันได้สักพัก ดาบสได้บอกให้หลวงปู่เรศ เดินทางไปเก็บสมุนไพรที่เขาอีกลูกใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วหลวงปู่เรศได้เดินทางไปตามคำแนะนำของดาบสท่านนั้นอย่างไม่รีรอ เมื่อหลวงปู่เรศเดินทางถึงเขาลูกที่ดาบสบอก หลวงปู่เรศตกใจมากเมื่อเห็นดาบส นั่งถือสมุนไพรบางชนิดไว้รอแล้ว หลวงปู่เรศนึกในใจว่า ท่านดาบส ท่านนี้มาถึงก่อนเราได้ยังไง เราก็ไม่ได้พักระหว่างทางเลย สงสัยคงมีทางลัดแน่ๆ เมื่อได้สมุนไพรตามที่ต้องการแล้ว หลวงปู่เรศได้ขอบอกลาท่านดาบสผู้นั้นกลับประเทศไทย ดาบสได้ล้วงไปในย่ามเอาของกินให้หลวงปู่เรศไว้กินระหว่างทางด้วย พร้อมกับหยิบของบางอย่างใส่ในย่ามหลวงปู่เรศด้วย หลวงปู่เรศเลยขอถามดาบสว่าท่านดาบสชื่ออะไร จะได้ไปเล่าให้ลูกหลานฟังว่ามีท่านอยู่ที่นี่ ดาบสท่านนั่งนิ่งสูบบุหรี่สักพักก็พูดเปรยๆออกมาว่า แล้วแต่เขาจะเรียก บ้างก็เรียกตาซวง บ้างก็เรียกตาสัจจัง บางคนก็เรียก ตาสรวง หลวงปู่เรศได้ฟังถึงกับตกใจ เพราะเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้าง ไม่คิดว่าจะได้เจอดาบสสรวง แล้วดาบสสรวงได้บอกกับหลวงปู่เรศว่า จะรักษาคนต้องมีใจรัก ต้องตั้งใจ ดาบสสรวงบอกให้เอากล้วยน้ำหว้าแช่น้ำผึ้งเดือน๕เป็นยาอายุวัฒนะ (ออยยัวเจกตรำตึก ขมุม ทนำอาโยกเวง)(อายุยืน) และดาบสสรวงได้บอกหลวงปู้เรศว่า”ให้กลับไปช่วยคนนะเพราะแต่ก่อนท่านเป็นเทวดาที่มีวาจาสิทธิ์” แล้วค่อยเจอกันที่บ้านม่วงแยกนะ” หลังจากฟังคำพูดดาบสสรวงแล้ว หลวงปู่เรศได้เดินทางกลับไทย พอเดินทางกลับมาถึงที่บ้านม่วงแยก อำเภอขุนหาญ หลวงปู่เรศ เห็นดาบสสรวงกำลังเล่นว่าวอยู่ ท่านนั่งลงด้วยความเหนื่อย และอดสงสัยไม่ได้ว่าดาบสสรวงมาตั้งแต่ตอนไหนถึงได้มาเล่นว่าวแล้ว ท่านได้แต่สงสัยในใจแล้วก็หัวเราะออกมาในความงงงวยที่เหมือนปาฏิหาริย์ของดาบสสรวง หลังจากนั้นท่านได้เชิญดาบสสรวงฉันข้าวด้วยกัน พอฉันเสร็จ มีโยมนำผ้าไตรมาถวายให้ดาบสสรวง เมื่อดาบสสรวงรับผ้าไตรแล้วกลับเอาผ้าไตรพาดบ่าแล้วเดินจากไปไม่พูดไม่จากับใครเลย สร้วงความงงงวยให้กับหลวงปู่เรศอีกครั้ง เมื่อดาบสสรวงได้เดินหายไปอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทันว่าเดินไปทางไหน เมื่อหลวงปู่เรศกลับถึงวัดท่านก็ได้ช่วยรักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วยไข้ทั้งที่รู้โรคและไม่รู้โรค ท่านก็รักษาให้หายได้
-ได้มีคนไปอาบน้ำมนต์ขอพรจากหลวงปู่เรศ เพื่อให้หมดหนี้หมดสิน หลวงปู่เรศได้บอกแค่ว่า “ เออ ไปๆกลับไปเถอะ อีก 2-3 เดือนหนี้ก็หมดแล้ว”อีกไม่นาหนี้ก็หมดจริงๆ
-สามีภรรยาคู่หนึ่งอยากค้าขายแต่ไม่มีทุนก็ได้เข้าไปกราบหลวงปู่เรศ และขอพรบอกว่าอยากมีเงินทุนทำมาค้าขาย หลวงปู่บอกว่า เออกลับไปเดี๋ยวก็ได้แล้ว หลังจากนั้นสามีภรรยาก็ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 2
-มีสามีและภรรยา สามีเป็นชาวต่างชาติแต่งงานมา 5 ปีไม่มีลูก จึงได้มากราบขอพรหลวงปู่เรศ หลวงปู่เรศก็บอกว่า เออเดี๋ยวก็ได้ จากนั้นไม่นานก็ได้ลูกสมใจปรารถนา
-ได้มีข้าราชการท่านหนึ่ง เข้ามากราบหลวงปู่เรศเพื่อขอพรเพราะอยากเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่าเดิม แล้วหลวงปู่ได้บอกว่า กลับไปเถอะเดี๋ยวก็ได้
จากเหตุการณืที่เกิดขึ้นกับหลายคนจนเป็นที่เคารพและศรัทธาในเรื่องการมาขอพรจากหลวงปู่และรักษาโรค ไม่ว่าใครจะเดือดร้อนมาแบบไหนท่านก็ช่วยคลายบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้านได้ทุกรายไป เมื่อมาหาท่านท่านบอกว่าหายก็คือหายทุกราย ท่านบอกว่าไม่รอดก็คือไม่รอด ช่างเป็นวาจาที่ศักดิ์สิทธิ์เสียจริง นับวันมีแต่ผู้คนจะเข้าไปกราบสักการะหลวงปู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ด้านสหายธรรมของหลวงปู่เรศท่านอื่นอีกมากมายที่ท่านได้สนทนาธรรมแลกเปลี่ยนวิชาความรู้ด้วยก็มีดังนี้
-หลวงพ่อเทพมุณี อดีตเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษจะคุ้นเคยและนับถือหลวงปู่เรศเป็นอย่างมาก และยังมี
-หลวงปู่หงส์ พรหมปัญโญ จากจังหวัดสุรินทร์
-หลวงปู่เจียม วัดบ้านกะมอล
-หลวงพ่อโป๊ะ วัดบ้านบิง
–หลวงปู่สาย -หลวงปู่คลอม วัดโคกระเวียง
–หลวงปู่มุม วัดปราสาทเยอร์
-หลวงปู่สอน วัดบ้านเปือย
-หลวงตาพีหรือตาข้าวแห้ง เทวดาหรรษา–หลวงตาอาด ลูกบุญธรรมหลวงปู่สรวง
หลวงปู่เรศ ท่านมีฉายาอีกฉายาว่า (เทวดาวาจาสิทธิ์)ซึ่งหลวงปู่สรวงได้เรียกท่านแต่แรกที่ได้สนทนาธรรมกันในครั้งพบกันที่เขากุเลน ฯลฯ

!!!! กรุณา Login ก่อนจึงจะเสนอความคิดเห็นได้ !!!