ชื่อพระเครื่อง |
เหรียญ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ออกที่อาศรมชีปะขาว ปี 2512 |
รายละเอียด |
เหรียญ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ออกที่อาศรมชีปะขาว ปี 2512
เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ออกอาศรมชีปะขาว จ.ปัตตานี ปี ๒๕๑๒ จัดสร้างโดยร้อยเอกทวี ทิวแก้ว หรือ อาจารย์ทวี ทิวแก้ว แห่ง อาศรมชีปะขาว ได้ชื่อว่าเป็น ผู้ที่มีวิชาอาคมและมีญาณที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะเรื่องของ พลังจิต เป็นที่เชื่อถือกันในกลุ่มลูกศิษย์และผู้ที่เคารพในตัวท่านว่าพลังจิตของท่าน แจ่มใสดุจดั่งดวงแก้ว จนสามารถติดต่อกับญาณบารมีของพระเกจิอาจารย์หรือพระเถระชั้นสูงที่ได้ล่วงลับไปแล้ว พระรุ่นนี้สุดยอดประสบการณ์ ลูกศิษย์ลูกหา ตามเก็บกันอีกรุ่น ละคราฟ ************อาจารย์ ร.อ.ทวี ทิวแก้ว เกิดเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๔๖๑ เวลา ๒๐.๑๕ น. สมัยที่ท่านยังเป็นเด็ก คุณพ่อคุณแม่ของท่านได้นำท่านไปฝากไว้กับพระที่วัดหนัง(ธนบุรี) ซึ่งช่วงนั้นทางวัดหนัง(ธนบุรี) ได้เปิดให้มีการสอนเด็กๆประมาณ ๗๐ คนให้หัดนั่งปฏิบัติสมาธิกรรมฐาน ต่อมาปรากฏว่า ท่านพระภาวนาโกศล (เอี่ยม) หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม ท่านเจ้าคุณเฒ่า หรือ หลวงปู่เอี่ยม เจ้าอาวาสวัดหนัง(ธนบุรี) ในสมัยนั้น ท่านได้คัดเลือกเด็กชายทวี ซึ่งมีอายุเพียง ๗ ขวบเพียงคนเดียวเพื่อให้คอยปรนนิบัติและให้เข้าไปฝึกปฏิบัติสมาธิในกุฏิของท่านทุกคืนจนเด็กชายทวีโตเป็นหนุ่ม อาจารย์ทวีถูกเกณฑ์ทหารสังกัดกรมการขนส่งทหารบก เมื่อรับราชการจนครบกำหนดแล้ว ท่านจึงลาออกจากราชการทหารและได้ไปทำงานในเรือเดินทะเลค้าขายระหว่างประเทศ ลูกศิษย์ของอาจารย์ทวีท่านหนึ่งได้เขียนถึง คุณวิเศษและลักษณะนิสัย ของอาจารย์ทวีไว้ว่า ครั้งหนึ่งเครื่องยนต์ของเรือได้ดับกลางทะเล แก้ไขอย่างไรก็ไม่สำเร็จ อาจารย์ทวีได้ใช้สมาธิจิตเพ่งจุดหัวเทียน ทำให้เครื่องเรือติดและสามารถวิ่งเข้าฝั่งได้ และด้วยความที่ท่านเป็นคนที่ไม่นิยมการเที่ยวเตร่ ดังนั้นเมื่อกลับเข้าฝั่ง ท่านจึงมักเข้าไปอยู่ในป่าแถบภาคใต้ เพื่อหาความสงบจากการฝึกปฏิบัติสมาธิกรรมฐานตลอดเวลา ในช่วงที่อาจารย์ทวีอยู่ในป่า ท่านได้พบกับพระธุดงค์องค์หนึ่ง ซึ่งมาแสดงอิทธิฤทธิ์ให้ท่านเห็นหลายอย่าง แต่ตัวของอาจารย์ทวีเองกลับไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือแปลกใจแต่ประการใด ดังนั้นเมื่อพระธุดงค์องค์นั้นชักชวนให้ท่านไปเรียนวิชา ท่านจึงได้ปฏิเสธออกไป โดยท่านให้เหตุผลว่า ท่านมีครูบาอาจารย์อยู่แล้ว คือ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พระธุดงค์องค์นั้นก็ไม่ได้ละความพยายามได้เวียนมาชักชวนท่านถึงสามครั้ง โดยครั้งสุดท้ายพระองค์นั้นได้มาในร่างของสงฆ์แต่ แต่งชุดขาวเป็นชีปะขาว และบอกว่าชื่อของท่านคือ หลวงปู่ทวด มีความต้องการรับอาจารย์ทวีเข้าเป็นลูกศิษย์ เมื่ออาจารย์ทวีได้ทราบว่าพระธุดงค์องค์นี้คือหลวงปู่ทวด ท่านจึงน้อมรับเข้าฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) และได้รับการถ่ายทอด วิชาสมาธิจิตและวิชาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับองค์หลวงปู่ทวด ให้กับท่าน ตามหลักของพระพุทธศาสนา มนุษย์ประกอบด้วย กาย และ จิต โดย กายเป็นรูปธรรม และ จิตเป็นนามธรรม อาศรมชีปะขาว เป็นสำนักที่เปิดสอนและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องของสมาธิจิต โดยอาจารย์ทวี ทิวแก้วท่านจะสอนเรื่องของจิตและวิญญาณตามหลักของพระพุทธศาสนา ซึ่งถ้าจะว่ากันไปแล้วคำว่า จิต และ วิญญาณ เป็นเรื่องที่แอบอิงเข้ากันกับเกือบจะทุกศาสนา เพราะว่าอะไร เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ความเชื่อของมนุษย์ ที่มีมาตั้งแต่อดีต เพียงแต่ว่า นัยยะความหมาย ของแต่ละศาสนาจะแตกต่างกันออกไป คุณสมบัติของจิต...เชื่อกันว่าสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าสิ่งใดๆที่เราเคยรู้จักกัน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ที่ไหนเพียงเรานึกถึงสิ่งนั้น จิตของเราก็จะวิ่งไปทันที นอกจากนี้จิตยังสามารถทะลุทะลวงผ่านวัตถุและสิ่งต่างๆได้อย่างไร้ขีดจำกัดและไร้ซึ่งขอบเขต คุณสมบัติทั้งหมดนี้เราเรียกมันว่า ...พลังจิต พลังจิตต่างจากพลังงานอื่นๆทางวิทยาศาสตร์ เช่นพลังงานไฟฟ้า พลังงานน้ำ ฯลฯ ตรงที่จิตมี ตัวรับรู้อารมณ์ ที่เรียกว่า วิญญาณ โดยอาศัยตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ สิ่งมีชีวิตก็เช่นเดียวกัน..เราสามารถแยกออกได้เป็นสองชนิดคือ สิ่งมีชีวิตแต่ไม่มีวิญญาณ และ สิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณ ซึ่งคำที่เรามักจะได้ยินเสมอเมื่อพูดถึงเรื่องเหล่านี้ก็คือคำว่า จิตวิญญาณ ซึ่งวิญญาณนี้ ทางพุทธศาสนาอธิบายความไว้ว่า เป็นสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง สามารถรับอารมณ์ได้ไกล มีการเกิดดับทุกขณะและมีอยู่ในสมองเป็นส่วนใหญ่ โดยปกติแล้ว จิตกับกาย มักจะคู่กันเสมอ แต่สำหรับผู้ที่มีฌานจากการฝึกปฏิบัติสมาธิวิปัสสนาจนถึงขั้น อาจแยกจิตออกจากกายได้ ซึ่งอาจจะเป็นแบบชั่วคราวหรือแยกเป็นแบบระยะเวลาที่ยาวนาน ลักษณะแบบนี้เราเรียกว่า นิโรธสมาบัติ ดังนั้นไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนธรรมดาหรือพระสงฆ์ หากสามารถปฏิบัติจนเข้าสู่ นิโรธสมาบัติ ได้เป็นประจำก็จะต่อยอดให้เกิด ฌาน ต่างๆ เช่น เจโตรปริญาณ ได้แก่ การอ่านใจผู้อื่น หรือ อนาคตังสญาณ ได้แก่ การรู้อนาคต ฯลฯ อาจารย์ทวี ในสมัยนั้นท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย มีทั้งบรรดาพ่อค้าประชาชนทั่วไปและรวมไปถึงข้าราชการนายทหารชั้นผู้ใหญ่อีกหลายท่าน ซึ่งแต่ละท่านได้ให้ความเคารพนับถือถวายตัวเป็นลูกศิษย์.... อาจารย์จิตร บัวบุศย์ อดีตอาจารย์วิทยาลัยเพาะช่าง ก็เป็นศิษย์คนหนึ่งของอาจารย์ทวี ทิวแก้ว เช่นเดียวกัน ครั้งนั้นอาจารย์จิตร ต้องการจะหาเงินเพื่อสร้าง วัดวังรี จ.นครนายก และวัดสุทธาวาส จ.ฉะเชิงเทรา โดยท่านคิดว่าจะสร้างพระหลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) แต่ช่างปั้นก็ไม่รู้ว่าจะปั้นอย่างไร เพราะไม่มีรูปของหลวงปู่ทวดเป็นแบบและก็ไม่เคยมีใครได้เห็นหลวงปู่ทวดมาก่อน ด้วยเหตุนี้ทำให้อาจารย์จิตร จึงต้องให้อาจารย์ทวี ทิวแก้ว มาเป็นผู้ชี้ทางสว่าง วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๐๕ ท่านอาจารย์ทวี ทิวแก้วได้จัดพิธีขึ้นที่อาศรมชีปะขาว สิ่งมหัศจรรย์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่ออาจารย์ทวี ท่านได้นำอาจารย์จิตรเข้ามาร่วมในพิธี....อาจารย์จิตรได้บรรยายความรู้สึกขณะนั้นว่า.. ร่างกายร้อนฉ่า...ความร้อนนั้นค่อยๆเคลื่อนตัวไปที่ต้นแขน...ไปที่ปลายมือและวูบวาบไปที่มือ ไปประจวบรวมกันที่หัวแม่มือ..จนอาจารย์จิตรต้องยกนิ้วมือขึ้นมอง ทันใดนั้น สิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นในชีวิตก็ปรากฏขึ้น เมื่อนิ้วหัวแม่มือของอาจารย์จิตรที่บริเวณเล็บนั้น คล้ายกับเป็นแสงสว่างวูบขึ้นแวววาว จากนั้นก็ค่อยๆ หรี่ลงๆ และปรากฏเป็นภาพรางๆ ที่ค่อยๆ ชัดขึ้นที่ละน้อย กลายเป็นภาพของหลวงปู่ทวด ซึ่งปรากฏเห็นอย่างชัดเจน ไปจนถึงพระอุระของท่าน.... ภาพที่เกิดขึ้นบนเล็บของอาจารย์จิตร บัวบุศย์นั้นชัดเจน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็มีหลายคนอยู่ร่วมเหตุการณ์ สามารถยืนยันได้ ซึ่งตัวอาจารย์จิตรเอง ท่านก็ได้บันทึกเหตุการณ์นี้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรว่า นับเป็นเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ ในพิธีอัญเชิญรูปหลวงปู่ทวดให้มาปรากฏบนนิ้วมือของอาจารย์จิตร บัวบุศย์ครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นแบบในการสร้างพระรูปหลวงปู่ทวดจนเป็นที่สำเร็จ โดยครั้งแรกเป็นการสร้างพระเนื้อว่านมงคล ๑๐๘ ชนิด เมื่อมีการสร้างเสร็จแล้วได้นำมาแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ทั้งหลายได้บูชาและหมดไปอย่างรวดเร็ว... แต่ก็ยังไม่เพียงพอเนื่องจากลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ทวี ทิวแก้วยังคงมีอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละคนเมื่อได้รับไปบูชาแล้วต่างก็มีประสบการณ์มากมายทั้งแคล้วคลาดภยันตรายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้ที่ได้รับรู้เรื่องราวอันนี้อยากจะมีไว้บูชากันบ้าง.. ด้วยเหตุนี้อาจารย์ทวี ท่านจึงได้สร้าง เหรียญหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด เป็นเหรียญทรงกลมขึ้นอีกครั้งในปี ๒๕๑๒ เพื่อแจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ของท่านเช่นเคย แต่ในครั้งนี้อาจารย์ทวี ท่านได้แบ่งเหรียญรุ่นนี้ส่วนหนึ่งเก็บไว้ในหีบเพื่อบูชาในพิธีต่างๆของท่านว่ากันว่าเหรียญที่ท่านสร้างแจกในครั้งนั้นก็สร้างปาฏิหาริย์ต่างๆไว้จนไม่สามารถบรรยายได้หมด และเราอาจจะพบเห็นได้ในคอของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคน เพราะบางท่านก็มีช่วงอายุทันเหตุการณ์ในครั้งนั้น ประกอบกับว่าเป็นที่รับรู้ของลูกศิษย์ว่าอาจารย์ทวี ท่านมีญาณสื่อกับหลวงปู่ทวดได้ ดังนั้นคุณวิเศษของเหรียญรุ่นนี้ผมคงไม่ต้องมานั่งอธิบายความครับ เยี่ยมจริงๆ หลังจากที่อาจารย์ทวี ทิวแก้วได้ถึงแก่กรรมแล้ว ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถประกอบพิธีอัญเชิญหลวงปู่ทวดเช่นนี้ได้อีกเลย วันเวลาที่ผ่านล่วงเลยไป ถึงจะไม่มีอาจารย์ทวีแล้วแต่บรรดาลูกศิษย์ก็ยังคงไปมาหาสู่กราบไหว้ที่อาศรมชีปะขาวกันอย่างสม่ำเสมอ ในระหว่างที่บรรดาลูกศิษย์ช่วยกันจัดเก็บข้าวของในอาศรมชีปะขาว ก็ได้พบหีบเก่าอยู่ใบหนึ่ง จึงตัดสินใจเปิดดู โดยมีท่านพลตรีประจักษ์ ธูปเทียนรัตน์ หนึ่งในบรรดาลูกศิษย์เป็นหัวหน้าประจักษ์พยานในการเปิดดูครั้งนี้.. สิ่งที่ได้พบในหีบใบนั้นก็คือ. เหรียญหลวงปู่ทวด ที่อาจารย์ทวีได้สร้างขึ้นในปี ๒๕๑๒ จำนวนหนึ่งและจดหมายของอาจารย์ทวี ที่เขียนใส่ไว้ เนื้อหาและใจความในจดหมายเสมือนหนึ่งว่า ท่านอาจารย์ทวี ทิวแก้ว จะล่วงรู้ถึงอนาคตว่าจะต้องมีลูกศิษย์ของท่านมาพบกรุเหรียญหลวงปู่ทวดในหีบใบนี้...โดยท่านเขียนไว้ว่า.... ขอให้สานต่อการสร้างวัด ๒ แห่งที่ท่านสร้างไว้ในอดีตให้แล้วเสร็จคือ วัดวังรี จ.นครนายกและวัดสุทธาวาส จ.ฉะเชิงเทรา และเหรียญดังกล่าวให้รวบรวมแจกจ่ายแก่ผู้ที่ศรัทธาไว้สักการบูชา ด้วยบารมีพุทธคุณของหลวงปู่ทวด จงโปรดคุ้มครองแก่ลูกหลานทีมีความเลื่อมใสให้แคล้วคลาดปลอดภัย |
ราคาเปิดประมูล |
100 บาท |
ราคาปัจจุบัน |
120 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ |
20 บาท |
วันเปิดประมูล |
พ. - 20 ส.ค. 2568 - 18:12:01 น. |
วันปิดประมูล |
ศ. - 22 ส.ค. 2568 - 15:05:44 น. (ปิดประมูลแล้ว) |
ผู้ตั้งประมูล |
manpower9 (12.3K)  
|