(0)
(0)
นรสิงห์ ปราบมาร
รายงานผลโหวต
จากรูปพระแท้
0%
[0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง
0%
[0]
จากรูปพระเก๊
0%
[0]
พระดูยากจากรูป
0%
[0]
จำนวน
โหวต
ร่วมแสดงความคิดเห็น
ผู้โหวตจะต้องโหวตพระแท้หรือเก๊พร้อมทั้งเหตุผลในการโหวตแท้เก๊เท่านั้น
ห้ามสมาชิกแสดงว่าคิดเห็นอื่นๆ
มิฉะนั้นท่านจะถูกพิจารณาตามกฏกติกาการโหวต
จากรูปพระแท้
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง
จากรูปพระเก๊
พระดูยากจากรูป
ความคิดเห็น :
กรุณารอสักครู่...
ชื่อพระเครื่อง
นรสิงห์ ปราบมาร
รายละเอียด
นรสิงห์
นรสิงหาวตาร (NARASIMHA AVATARA) อวตารปางที่สี่ของพระนารายณ์ตอนนี้มีชื่อว่า นรสิงหาวตาร ซึ่งเป็นปางแรกที่พระนารายณ์อวตารลงมาในไตรยุค (Tri Yuga) ซึ่งถือว่าเป็นยุคที่ 2 ของโลกเรา อันเป็นยุคที่ความดีของมนุษย์นั้นเริ่มลดลงเหลือ 3 ใน 4 ส่วน
คำว่า นรสิงหาวตาร นี้มาจากคำ 3 คำมารวมกัน คือ คำว่า นร (Nara) ที่หมายถึง คน บวกกับคำว่า สิงหะ (Simha) ที่หมายถึง สิงโต และ คำว่า อวตาร (Avatar) ที่แปลว่า การเคลื่อนลงมายังโลกของพระนารายณ์ในรูปครึ่งคนครึ่งสิงโตนั่นเอง
เหตุการณ์ในตอนนี้เกิดขึ้นหลังจากหิรัณยากษะ (หิรันตยักษ์) ถูกพระนารายณ์ซึ่งเป็นหมูป่า สังหารไปแล้วนั้น พญายักษ์ชื่อว่า หิรัณยกศิปุ (Hiranyakashipu) ผู้เป็นน้องชายฝาแฝดก็ขึ้นมาเป็นใหญ่ในหมู่อสูรใต้บาดาลแทนพี่ชาย พญายักษ์ผู้นี้มีจิตใจหยาบช้ากว่าพี่ชายยิ่งนัก ได้บำเพ็ญตบะและขอพรจากพระพรหมว่า
ขออย่าให้ตนเองถูกมนุษย์ เทวดา สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายฆ่าเอาให้ตายได้
อย่าให้ตายด้วยอาวุธใด ๆ ในสากลโลก
อย่าให้ตายในเวลากลางวันหรือกลางคืน
อย่าให้ตายในบ้านหรือนอกบ้าน
ซึ่งพระพรหมธาดาก็ทรงประสิทธิ์ประสาทพรให้ตามที่ขอทุกประการ ทำให้พญาหิรัณยกศิปุมีความฮึกเหิมไม่เกรงกลัวผู้ใด แม้แต่พระผู้เป็นเจ้า สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ร้อนถึงพระวิษณุต้องอวตารลงมาเป็นนรสิงห์ เพื่อปราบหิรัณยกศิปุ
พญายักษ์หิรัณยกศิปุ ตนนี้มีโอรสองค์หนึ่งชื่อว่า ประหลาทกุมาร ซึ่งเป็นอสูรที่ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดี มีความจงรักภักดีต่อพระนารายณ์มหาเทพยิ่งนัก ทำให้แนวความคิดของพญาหิรัณยกศิปุนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แลพญายักษ์ก็มีความรักในโอรสยิ่งนัก เรียกได้ว่ารักดังหัวแก้วหัวแหวน ประหลาทกุมารผู้ตั้งอยู่ในศีลธรรมก็พยายามโน้มน้าวจิตใจของบิดาให้เลิกประพฤติชั่ว หันมาทำความดีมีความจงรักภักดีต่อผู้เป็นเจ้า แต่บิดาก็หาได้ฟังไม่ เที่ยวเบียดเบียนบีฑาบรรดาทวยเทพทั้งหลายให้เดือดร้อนไปทั่วทุกหัวระแหง
พระอินทร์จึงชักชวนบรรดาทวยเทพทั้งหลาย ไปขอร้องให้พระนารายณ์มหาเทพ มาช่วยปราบพญาอสูรผู้ชั่วร้ายตนนี้ เพราะไม่มีใครจะปราบมันได้ พระนารายณ์มหาเทพก็ทรงรับปากว่าจะช่วย แต่ทรงขอเวลาคิดหาหนทางปราบพญาอสูรก่อน ฝ่ายประหลาทกุมาร ผู้เป็นโอรสก็เพียรพยายามขอร้องให้บิดาเลิกเบียดเบียนผู้อื่น ฝ่ายพญาอสูรผู้บิดาก็หาเชื่อฟังไม่ จึงใช้พวกพราหมณ์อสูรทั้งหลายไปอบรมพระโอรส ให้มาเข้าข้างตนพระโอรสก็ไม่ยอม แม้จะพยายามอย่างใด พระโอรสก็ไม่ยอม
จากความรักมาก ก็กลายเป็นความชังมาก จึงสั่งให้จัดการฆ่าโอรสของตนเสีย แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ๆ ก็ไม่สามารถฆ่าโอรสของตนได้ พญาหิรัณยกศิปุจึงถามโอรสตรง ๆ ว่าพระนารายณ์มหาเทพนั้นมีจริงหรือไม่ ถ้ามีจริงและแน่จริงก็ปรากฏตัวออกมาเลย และทันใดในระหว่างนั้น เสาศิลากลางห้องท้องพระโรงก็แตกออกมา เป็นนรสิงห์
นรสิงห์เป็นครึ่งคนครึ่งสิงห์ ได้ปรากฏตัวขึ้นในเวลาสนธยาโดยแตกออกมาจากเสาศิลากลางห้องท้องพระโรงของ หิรัณยกศิปุ ปราดเข้ามาจับตัวหิรัณยกศิปุ ลากออกไปอยู่บริเวณธรณีประตู (คืออยู่ในปราสาทครึ่งตัว อยู่นอกปราสาทครึ่งตัว) และนรสิงห์ผู้นั้นก็ถามพญาอสูรว่า
ตนเป็นมนุษย์ เทวดา หรือสัตว์ พญายักษ์ตอบว่า ไม่ใช่ทั้งมนุษย์ เทวดา และสัตว์
นรสิงห์ก็ถามต่อไปว่า เวลานี้ร่างของหิรัณยกศิปุอยู่นอกเรือนหรือในเรือน พญายักษ์ตอบว่า ไม่ใช่ทั้งในเรือนและนอกเรือน
นรสิงห์ถามต่อไปอีกว่า เวลานี้เป็นกลางวันหรือกลางคืน หิรัณยกศิปุตอบว่า มิใช่ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่เป็นเวลาโพล้เพล้
นรสิงห์จึงชูมือกางกรงเล็บออกมา ถามพญายักษ์ว่า อันนี้คืออาวุธหรือไม่ พญายักษ์ก็ตอบว่าไม่
นรสิงห์จึงประกาศว่า พรทั้งหลายของพระพรหมธาดาเป็นอันเสื่อมแล้ว และตัวพญาอสูรก็ตกอยู่ในภาวะอันนอกเหนือจากพรหมประกาศิตทุกประการแล้ว
กล่าวจบ นรสิงห์ก็จัดการสังหารพญาอสูรด้วยการใช้กรงเล็บฉีกกระชากอกพญาอสูรจนถึงท้องจนขาดใจตาย
วัตถุประสงค์
ในปี 2563 เป็นที่ประเทศไทยเผชิญกับโรคระบาด คือ โรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดที่รุนแรงและระบาดไปทั่วโลก ประกอบกับ ในช่วงปลายปี 2562 ถึงต้นปี 2563 อ.ลักษณ์ ราชสีห์ ได้เจ็บป่วยและเกิดทุกขเวทนาจากอาการเจ็บป่วยนั้น ด้วยศรัทธาที่มีต่อองค์เทพเทวา จึงได้จัดสร้าง องค์นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค เพื่อให้เกิดความเป็นมงคล ให้ผ่านพ้นจากทุกข์โศกโรคภัย ขจัดความป่วยเจ็บ ความอิจฉาริษยา ขจัดคุณไสย อวิชชา มนตราทั้งหลาย
องค์นรสิงห์คือ พระนารายณ์อวตารปางที่ 4 เพื่อปราบยุคเข็ญ มาร โรคร้าย สรรพภัยที่ร้ายกาจ ต่อสามโลก ตามตำนาน
ชนวนมวลสาร
อ.ลักษณ์ โหราธิบดี ได้นำชนวนมวลสารที่เก็บเอาไว้ 15 ปี เป็นชนวนมวลสารจากเนื้อนวโลหะก้นเบ้า ก้านชนวนหล่อพระ ที่ อ.ลักษณ์ โหราธิบดี สะสมไว้ร่วม 15 ปี เนื้อโลหะแก่เงินแก่ทองคำ (ตรวจสอบได้) เป็นชนวนเหลือจากการหลอมรวมชนวนสร้างพระกริ่งสมเด็จธงชัย
พิธีพุทธาเทวามังคลาภิเษก 4 วาระ ร่วมกับพระกริ่ง / พระชัยวัฒน์สมเด็จธงชัย และพิธีนรสิงห์เทวาภิเษก ณ บ้านโหราธิบดี
มีพิธีการเททองนำฤกษ์ อธิษฐานโดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) และมีพุทธาเทวามังคลาภิเษก 4 วาระ
วาระที่ 1 วันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2563 ณ พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม
วาระที่ 2 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ณ พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม
วาระที่ 3 วันที่ 2 มีนาคม 2563 ณ พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม ในวาระ ดาวเสาร์ (๗) โคจรย้ายราศี
วาระที่ 4 พิธีมหาเทวาประสิทธิ์ นรสิงห์ภิเษก ณ บ้านโหราธิบดี ในวันเสาร์ 5 (วันที่ 28 มีนาคม 2563 )
วาระพิเศษ นำองค์นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค ประกอบพิธีคุรุเทวะบูชา ในวัน ดาวพฤหัสบดี (๕) โคจรย้ายราศี ในวันที่ 17 มีนาคม 2563 ณ บ้านโหราธิบดี
ราคาเปิดประมูล
500 บาท
ราคาปัจจุบัน
-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --
เพิ่มขึ้นครั้งละ
50 บาท
วันเปิดประมูล
พ. - 20 ส.ค. 2568 - 13:31:59 น.
วันปิดประมูล
ส. - 30 ส.ค. 2568 - 13:31:59 น. (เหลือเวลา 3 วัน 5 ชั่วโมง 48 นาที)
ผู้ตั้งประมูล
tleremem66
(
432
)
(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1
พ. - 20 ส.ค. 2568 - 13:32:20 น.
ตอกเลขครับ
ราคาปัจจุบัน :
500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :
50 บาท
!!! ท่านต้อง login เข้าสู่ระบบก่อน จึงจะสามารถร่วมประมูลได้ !!!
(0)
ประวัติการเสนอราคา
-- ยังไม่มีผู้เสนอราคา --
Copyright ©G-PRA.COM
www5